อุทธรณ์ยืนโทษ ‘ประหาร’ ผญบ.ข่มขืนฆ่าน้องสโนว์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนประหารชีวิตอดีต ผญบ. ข่มขืนฆ่าโหด “น้องสโนว์” นักเรียนสาวชั้น ม.6 พร้อมชดใช้ค่าสินไหม 2.39 ล้านบาท วินิจฉัยการนำสืบพยานและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ของจำเลยไม่สามารถรับฟังได้ แต่ฝ่ายโจทก์มีพยานแวดล้อมให้การสอดคล้องกัน อีกทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แน่นหนาทั้งรอยกัดที่มือและอัณฑะจำเลยมีร่องรอยจากการต่อสู้ จึงพิพากษายืนตามศาล ชั้นต้น แม่น้องสโนว์ขอบคุณกระบวนการยุติธรรมที่ทำให้ลูกสาวไม่ตายฟรี คนทำไม่ดีต้องได้รับผล กรรมที่ก่อขึ้นที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ก.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4 คดีหมายเลขดำที่ อ.2112/2559 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.1381/2560 ที่อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ และนางลำไย พลประสิทธิ์ แม่ของ น.ส. ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือน้องสโนว์ อายุ 18 ปี ร่วมเป็นโจทก์ฟ้องนายกฤติเดช ระเวงวรรณ อายุ 35 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เป็นจำเลยในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย โดยมีพ่อแม่และญาติของน้องสโนว์เข้ารับฟังการพิจารณาคดี ส่วนนายกฤติเดช จำเลยถูกควบคุมตัวอยู่เรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ไม่ได้นำตัวมาฟังการพิจารณาคดี แต่ได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากศาลไปที่เรือนจำคดีนี้เกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ธ.ค.58 หลังเลิกเรียน น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือน้องสโนว์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ขี่รถ จยย.จากโรงเรียนมุ่งหน้ากลับบ้าน มาถึงถนนบ้านสีถาน-โนนเมือง ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ถูกคนร้ายขี่รถ จยย.ไล่ตามประกบและใช้เท้าถีบจนรถเสียหลักล้มพุ่งลงข้างทาง จากนั้นตามลงไปชกต่อยทำร้ายร่างกายและข่มขืน แต่น้องสโนว์ขัดขืนต่อสู้ กัดมือ และบีบลูกอัณฑะของคนร้าย ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป ส่วนน้องสโนว์ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจับกุมนายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย ได้เมื่อวันที่ 4 เม.ย.59 แจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี พนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการตั้งองค์คณะขึ้นมาพิจารณาก่อนส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.59 จนกระทั่งวันที่ 30 มี.ค.60 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตนายกฤติเดช จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหมจำนวน 2,390,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 23 ธ.ค.58 จนกว่าจะชำระเสร็จ จากนั้นจำเลยใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยโดยสรุปว่า จำเลยยื่นอุทธรณ์ โดยการนำสืบพยานแวดล้อมและประจักษ์พยาน รวมถึงการหาข้อโต้แย้งในส่วนของหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถรับฟังได้ แต่ในส่วนของโจทก์ถึงแม้จะไม่มีประจักษ์พยานแน่ชัด แต่ปรากฏพยานแวดล้อมให้การสอดคล้องกัน รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะรอยแผลบริเวณนิ้วมือของจำเลยเป็นรอยฟันของมนุษย์ และลูกอัณฑะเป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ ได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางนิติวิทยาศาสตร์ ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษายืนให้ประหารชีวิตจำเลย พร้อมชดใช้ค่าสินไหมตามศาลชั้นต้นหลังฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ สร้างความดีใจให้กับพ่อแม่และญาติๆของน้องสโนว์เป็นอย่างมาก นางลำไย พลประสิทธิ์ แม่ของน้องสโนว์ที่ถือภาพถ่ายลูกสาวมาด้วย กล่าวขอบคุณความยุติธรรมของการตัดสิน พร้อมทั้งบอกน้องสโนว์ว่าลูกสาวแม่จะต้องไม่ตายฟรี คนทำไม่ดีกับน้องควรได้รับผลกรรมที่ก่อขึ้น พร้อมทั้งขอบคุณคนไทยทั่วประเทศที่คอยให้กำลังใจตั้งแต่วันเกิดเหตุจนสามารถจับคนร้ายได้และศาลได้ตัดสินประหารชีวิตในที่สุดด้าน น.ส.ภัทรานิฐ พลประสิทธิ์ พี่สาวน้องสโนว์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนและขอบคุณสื่อมวลชน ที่ให้กำลังใจครอบครัวพลประสิทธิ์ และที่สำคัญขอบคุณกระบวนการยุติธรรมที่ทำให้ความยุติธรรมมีจริง ทำให้ผู้บริสุทธิ์ไม่ตายฟรี ฟ้ามีตา ใครทำอะไรผลกรรม จะได้รับแบบนั้น ทั้งนี้ อยากบอกน้องสโนว์ว่าครอบครัวสู้เพื่อน้องมาตลอด และขณะนี้ก็ได้รับความเป็นธรรมแล้ว ไม่ต้องห่วงพี่จะดูแลพ่อกับแม่เอง