นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจหนังสือพ็อกเกตบุ๊กในปี 2561 ว่า เป็นปีที่ธุรกิจหนังสือจะต้องปรับตัวอย่างชัดเจน โดยเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ปัจจุบันกลุ่มผู้อ่านกลุ่มใหญ่คือเยาวชน และใช้สื่อโซเชียลมีเดียช่วยผลักดันยอดขายหนังสือให้เติบโตได้อย่างชัดเจน โดยการขายหนังสือออนไลน์นั้น ในปีที่ผ่านมายอดขายของหลายสำนักพิมพ์เติบโตเกิน 100% ดังนั้น ภาพรวมยอดจำหน่ายหนังสือจึงไม่ได้ลดลง แต่มีการขายออนไลน์มากขึ้นนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ กล่าวด้วยว่า ปีนี้สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯวางแผนการทำงานเพื่อพัฒนาภาพรวมของวงการหนังสือโดยรวมทั้งในแง่ของธุรกิจและการสร้างการอ่าน โดยจะจัดงานสัปดาห์หนังสือระดับชาติไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั้งสานต่อโครงการ 1 อ่านล้านตื่น ซึ่งเป็นการรณรงค์ให้ซื้อหนังสือเพื่อบริจาค และสร้างให้เด็กไทยรักการอ่านจากการได้อ่านหนังสือที่อยากอ่าน ซึ่งจากสถิติของหน่วยงานที่รับบริจาคหนังสือพบว่ากว่า 70% เป็นหนังสือที่ไม่มีคุณภาพ ล้าสมัย ต้องคัดทิ้ง ส่วนโครงการใหม่ของปีนี้ ได้แก่ 1.โครงการหนังสือคัดสรร เป็นการส่งเสริมการอ่านด้วยการคัดสรรหนังสือจากทุกสำนักพิมพ์ 2.โครงการพวงหรีด 4.0 (หนังสือ 4 ขยะ 0) โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯและกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ซึ่งสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯจะจัดประกวดการออกแบบพวงหรีดหนังสือ เพื่อเป็นต้นแบบให้กับร้านจำหน่ายพวงหรีด และจะประสานงานหาวัดและโรงเรียนที่มีความพร้อมเข้าร่วมโครงการ โดยวัดที่ได้รับพวงหรีดจะบริจาคหนังสือนี้ให้แก่โรงเรียนของวัด และโรงเรียนก็นำหนังสือนั้นไปจัดมุมหนังสือในห้องเรียน.