ช่วยชีวิตได้แล้วช้างถูกนํ้าป่าซัดดินภูเขาถล่มทับบ้านพัง เด็กชายวัย 13 สังเวยชีวิตที่ตาก เหตุเกิดขณะนอนหลับในบ้านกับพ่อแม่ ส่วนการช่วยเหลือลูกช้างป่าพลัดตกคลองสามารถช่วยขึ้นฝั่งได้แล้ว แต่ขาหลังหักยืนไม่ได้ ส่งรักษาที่ลำปาง ขณะที่อ่างเก็บน้ำ ม.เกษตรฯพังถล่มที่ลพบุรี ปริมาณน้ำทะลักผ่านหมู่บ้านแต่ไม่กระทบบ้านเรือนประชาชน ด้านอธิบดีกรมชลประทานระบุ ไม่ใช่อ่างเก็บน้ำเป็นเพียงสระน้ำ ส่วนกรมอุตุฯเผยภาคอีสานฝนเริ่มลดลง แต่ภาคอื่นยังหนัก สถานการณ์ฝนตกน้ำป่าถล่มดินสไลด์ยังรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเช้ามืดวันที่ 18 ต.ค. เกิดเหตุดินภูเขาถล่มทับบ้านเลขที่ 31/4 หมู่ 4 ต.สามหมื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก และมีคนได้รับบาดเจ็บ ภายหลังญาตินำคนเจ็บส่ง รพ.แม่ระมาด แต่เสียชีวิตระหว่างทางทราบชื่อ ด.ช.ตรีภพ แซ่ว่าง อายุ 13 ปี ทราบว่าเจ้าของบ้านชื่อนายพันธิน แซ่ว่าง อายุ 48 ปี กับนางคัทรินทร์ แซ่ว่าง อายุ 45 ปี พ่อและแม่ของ ด.ช.ตรีภพ เหตุเกิดขณะทุกคนกำลังนอนหลับในบ้าน ส่วนสาเหตุคาดว่าดินภูเขาอุ้มน้ำไว้มากจากฝนที่ตกหนักมาตั้งแต่ช่วงเย็นจนรับน้ำหนักไม่ไหวจนถล่มลงมา อีกรายเกิดน้ำป่าไหลหลากมาจากค่ายทหารวชิรปราการ จ.ตาก เข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชนสุสานมุสลิมและชุมชนผดุงปัญญา หมู่ 6 ต.ไม้งาม อ.เมืองตาก ชาวบ้านต้องขนข้าวของเครื่องใช้และสัตว์เลี้ยงหนีโกลาหลส่วนกรณีเกิดดินทรุดตัวที่หมู่ 6 บ้านห้วยคิง ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ในพื้นที่ 12.5 ไร่ แนวยาวต่อเนื่องเกือบ 300 เมตร และอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ 9 ครอบครัวไปแล้ว สาเหตุเนื่องจากฝนตกหนักทำให้ดินเหนียวด้านบนเคลื่อนตัวไหลลงสู่ที่ต่ำ ต่อมานายนิมิต ผดุงศิลป์ไพโรจน์ นอภ.แม่เมาะ ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพื้นดินทรุดตัวลึกลงไปจากเดิมอีก 30 ซม. และขยายวงกว้างเพิ่มจากเดิมอีกเกือบ 5 เมตร เบื้องต้นจะรื้อบ้านในพื้นที่ออกเพื่อความปลอดภัย ขณะที่นายโอภาส จริยภูมิ ผอ.ฝ่ายวางแผนและบริหารเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง กล่าวว่าสาเหตุไม่เกี่ยวกับระเบิดลิกไนต์ของเหมืองอย่างแน่นอนเพราะจุดเกิดเหตุอยู่ห่างกว่า 2 กม.สำหรับการช่วยเหลือลูกช้างป่าเพศเมียที่พลัดตกลงคลองชมพู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ล่าสุดลูกช้างอยู่ในสภาพอิดโรย พยายามพยุงตัวเองไว้ตลอดเวลาพร้อมใช้งวงชูขึ้นเหนือน้ำ ต่อมาชาวบ้านประมาณ 100 คน พร้อมใจกันนำเชือกมาคล้องที่ตัวช้างแล้วช่วยกันดึงมาไว้ริมตลิ่งเพื่อให้หายใจได้สะดวก โดย น.ส.ดุสิตา ชินเจริญดี สัตวแพทย์ปฏิบัติการประจำสำนักบริหารและอนุรักษ์ที่ 11 พิษณุโลกและคณะช่วยฉีดยาบำรุงหัวใจให้ช้างมีกำลัง จากนั้นใช้รถแบ็กโฮลากตัวช้างขึ้นบนฝั่ง แต่ลูกช้างไม่สามารถยืนขึ้นได้เนื่องจากขาหลังหักจึงประสานกับสัตวแพทย์สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง นำรถมารับไปรักษาต่อไปที่ จ.กำแพงเพชร ฝนตกหนักนานหลายชั่วโมงโดยเฉพาะในเขต อ.พรานกระต่าย มีฝนตกหนักเกือบ 3 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในตลาดพรานกระต่ายและถนนทุกสาย เจ้าหน้าที่ต้องนำแผงมากั้นห้ามรถผ่าน เนื่องจากคลื่นน้ำจะกระฉอกเข้าบ้านประชาชน 2 ข้างทาง ระดับน้ำยังทรงตัว สูงประมาณ 30-40 ซม. และที่ จ.อุตรดิตถ์ พื้นที่หมู่ 3 และหมู่ 4 ต.นายาง อ.พิชัย ถูกกระแสน้ำจากอ่างเก็บน้ำชำบอนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประมาณ 100 หลัง นาข้าวเสียหายประมาณ 200 ไร่ และหมู่ที่ 2 ต.นาอิน อ.พิชัย ถูกน้ำท่วมบ้าน 50 หลัง และนาข้าวเสียหายประมาณ 300 ไร่ หลังเกิดเหตุนายเจษฎา ลิ้มศรีตระกูล นอภ.พิชัยและคณะลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย ขณะที่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ แม่น้ำป่าสักไหลทะลักท่วมบ้านเรือนและถนนในบ้านวังสะตือ ต.วังโบสถ์ ระดับน้ำเฉลี่ย 60-70 ซม. กระแสน้ำยังกัดเซาะถนนพังหลายจุด โดยมีทหารชุดกองร้อยรักษาความสงบที่ 2 ค่ายพ่อขุนผาเมือง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น นอกจากนี้ ที่ อ.หล่มสัก ปริมาณน้ำแม่น้ำป่าสักเอ่อล้นท่วมอำเภอหล่มสักเป็นวงกว้างกว่า 8 ตำบล และเขตพื้นที่เศรษฐกิจในเทศบาลเมืองหล่มสักอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำบางแห่งสูงกว่า 1 เมตร โดยเทศบาลเมืองหล่มสักได้ระดมสูบน้ำหลายจุดเพื่อระบายน้ำออกโดยเร็วด้าน จ.นครสวรรค์ ชาวบ้านบางเคียน ต.บางเคียน อ.ชุมแสง กว่า 200 ครัวเรือน เริ่มขาดแคลนน้ำดื่มและห้องสุขา หลังคลองบางเคียนซึ่งเป็นคลองสาขาแม่น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนนานนับเดือน ล่าสุดระดับน้ำสูงอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย ส่วนหมู่ 6 ต.ย่านมัทรี อ.ยุหะคีรี น้ำท่วมขังสวนกล้วยสูงกว่า 1 เมตร ส่งผลให้ต้นกล้วยที่กำลังออกผลผลิตเริ่มต้นยืนต้นตาย ชาวบ้านเลยตัดใบตองส่งขาย กก.ละ 6 บาท เช่นเดียวกับ อ.ตาคลี เมื่อคืนที่ผ่านมาฝนเทกระหน่ำอย่างหนักทั่วพื้นที่เขต อ.ตาคลี เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่เทศบาลเมืองตาคลีอย่างฉับพลันเป็นบริเวณกว้าง ขณะเดียวกัน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลตาคลีเข้าช่วยเหลือแม่ชีติดอยู่ในกุฏิ วัดเขาถ้ำประทุน เขตเทศบาลเมืองตาคลี ที่ถูกน้ำป่าถล่มอย่างรุนแรงและช่วยเหลือออกมาได้อย่างทุลักทุเลส่วนเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระดับน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 16.99 เมตร ขณะเดียวกัน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทานลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาโดยขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยก่อนเดินทางไป ต.ตลุก อ.สรรพยา และที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี น้ำท่วมพื้นที่ 8 หมู่บ้าน ต.น้ำตาล บางแห่งน้ำสูง 1.50 เมตร ชาวบ้านหนีอาศัยอยู่บนถนนริมคลองชลประทาน ขณะเดียวกันกลุ่มสิงห์อาสาร่วมกับบริษัท บุญรอดเอเซียเบเวอเรช จํากัด ได้นำน้ำดื่มแจกผู้ประสบอุทกภัย ต.น้ำตาล ต.ทับยา และ ต.บางกระบือ รวม 2,000 แพ็ก ด้าน จ.ลพบุรี เช้ามืดวันเดียวกัน คันดินของอ่างเก็บน้ำของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่สร้างขึ้นในโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ ตั้งอยู่บ้านนกเขาเปล้า ต.เพนียด อ.โคกสำโรง เกิดแตกพังถล่มกว้างกว่า 15 เมตร ทำให้ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลบ่าสู่หมู่บ้านหนองบัว ต.คลองเกตุ ภายหลังนายอนันต์ จรุงโรจน์รัศมี นอภ.โคกสำโรงพร้อมกำลังทหาร เจ้าหน้าที่มูลนิธิโคกสำโรงสงเคราะห์และเจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานที่ 10 ได้นำรถแบ็กโฮระดมถุงบิ๊กแบ็กทิ้งกั้นในช่องที่สันอ่างแตก โชคดีที่น้ำไหลผ่านทุ่งนา ลงคลองห้วยปลาหมอ ผ่านหมู่บ้านหนองบัว ผ่านบ้านวังกระทุ่ม ผ่านลำละเลงและไหลลงสู่ฝายหนองชนะชัย ต.เกาะแก้ว ไม่ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน ส่วนพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านได้รับผลกระทบเล็กน้อยขณะที่นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงอ่างเก็บน้ำแตกว่าที่เกิดเหตุเป็นสระเก็บน้ำภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตลพบุรี เป็นแหล่งน้ำสนับสนุนพื้นที่มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ความจุ 700,000 ลบ.ม. เป็นสระเก็บน้ำไม่ใช่อ่างแต่อย่างใด ขณะเกิดเหตุมีน้ำประมาณ 600,000 ลบ.ม. คาดมีน้ำไหลออกจากสระประมาณ 320,000 ลบ.ม. คงเหลือค้างสระประมาณ 280,000 ลบ.ม. โดยน้ำไหลหลากผ่านทุ่งนาประมาณ 200 ไร่ ความลึกเฉลี่ยประมาณ 25 ซม. ลงคลองห้วยปลาหมอ ผ่านหมู่บ้านหนองบัว เกาะแก้ว วังกระทุ่ม ลำละเลง และลงสู่ฝายหนองชนะชัยต่อไป ล่าสุดสำนักงานชลประทานที่ 10 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี หน่วยทหารในพื้นที่ อบต.เพนียดและกรมทางหลวงร่วมกันนำเครื่องจักรเข้าปิดทำนบที่ชำรุดด้วยเสาเข็มไม้ และถุงบิ๊กแบ็กคาดจะดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็วที่ จ.อ่างทอง ปริมาณน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบในการเดินเรือลากจูงเรือบรรทุกสินค้าใน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เนื่องจากกระแสน้ำที่แรงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุส่งผลให้เรือจูงจำนวนมากต้องหยุดการเดินเรือเพื่อความปลอดภัย และกระแสน้ำยังเอ่อล้นเข้าท่วม รพ.ส่งเสริมสุขภาพบ้านเลน ต.โผงเผง เจ้าหน้าที่ต้องอพยพขนย้ายเครื่องมือทางการแพทย์นำไปไว้ในที่สูงพร้อมตั้งเต็นท์เปิดให้บริการประชาชนริมถนนสายโผงเผง-บางบาล และพายเรือออกแจกจ่ายเวชภัณฑ์ ที่จำเป็นให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนด้วยสำหรับ จ.ปทุมธานี บริเวณถนนหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองปทุมธานี มีน้ำขึ้นท่วมขังจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลทะลักเข้าด้านหลังตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี ต่อมาเจ้าหน้าที่เทศบาลนำกระสอบทรายมาวางไว้ ส่วนหลังตลาดสดเทศบาลติดกับเขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาได้วางกระสอบทรายสูง 6 ชั้น และสูบน้ำออกตลอดเวลา นอกจากนี้ ที่ถนนปทุมพิทักษ์ อยู่ด้านหลังสำนักงานกาชาด จ.ปทุมธานี น้ำได้เอ่อท่วมถนนและทางเท้าเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ จ.ขอนแก่น ปริมาณน้ำในแม่น้ำพองมีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังการระบายน้ำตามขั้นตอนของเขื่อนอุบลรัตน์ โดยวันนี้ระบายน้ำออก 50 ล้าน ลบ.ม. และคงระดับนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนจะอยู่ในระดับกักเก็บปกติ จากการระบายน้ำดังกล่าวทำให้น้ำพองเอ่อท่วมหมู่บ้านต่างๆที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำพองหลายหมู่บ้าน อาทิ หมู่บ้านบึงอีเฒ่า บ้านท่าแก และบ้านห้วยซัน ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50-80 ซม. นอกจากนี้ กระแสน้ำยังได้ไหลท่วมพื้นที่นาข้าวและแปลงผักของเกษตรกรได้รับความเสียหายเช่นกัน ขณะที่ จ.กาฬสินธุ์ แม่น้ำชียังไหลบ่าท่วม 3 อำเภอ คือ อ.ฆ้องชัย อ.กมลาไสย และ อ.ร่องคำ โดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และนำกระสอบทรายไปกั้นตามจุดเสี่ยงต่างๆขณะที่ พล.ร.อ.นริศ ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร.สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือลำเลียงเรือผลักดันน้ำจำนวน 12 ลำ จากอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ไปติดตั้งยังพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯเพื่อผลักดันน้ำหากเกิดน้ำท่วมต่อไป และที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ศปก.ตร.รายงานว่ามีน้ำท่วม 12 จังหวัด 50 อำเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 195,865 คน มีผู้เสียชีวิตรวม 6 ศพ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งการให้ทุกโรงพักทั่วประเทศที่อยู่ในพื้นที่ประสบเหตุอุทกภัยเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่เช่นกันกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าช่วงวันที่ 18-21 ต.ค.นี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง ส่วนภาคอื่นๆ ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ต.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นฝนจะลดลง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าด้วย
