เนิ่นนานหลายปีเต็มที ที่ฤดูฝนฝนจะตกหนัก และต่อเนื่อง แผ่กระจายไปเหนืออีสานใต้ ภาคกลาง กระทั่งกรุงเทพฯวัดจากฝนห่าใหญ่ เมื่อคืนวันจันทร์ ใครที่ตื่นขึ้นมา มองไปทางหน้าต่าง จะเห็นแสงฟ้าแลบ แวบวับ สลับเสียงฟ้าร้อง ฝนอย่างนี้แหละ คือ “ฝนตกทั่วฟ้า”อยู่ในบ้าน จู่ๆน้ำก็บ่ามาเยือนถึงหน้าบ้าน ออกนอกถนนก็เจอรถติดหนักหนาสาหัส เฉลี่ยทุกข์กันทั่วหน้าคนกรุงเจอปัญหาแค่ ไปไหนไม่ได้ดังใจ ชาวนาเจอหนักกว่าหลายเท่า ไหนน้ำจะท่วมข้าวในนา เก็บเกี่ยวไม่ทัน ไหนจะต้องขนของโยกย้ายจากบ้าน ไปลี้ภัยริมถนนผมนึกถึงปฏิทินรุ่นโบราณ สมัยที่ผมยังเด็ก แม่มักแปะไว้กับฝาบ้าน นอกจากรู้จักนางสงกรานต์ปีนั้นชื่ออะไร ภักษาหารอะไร นั่งหรือนอนบนพาหนะแบบไหนสิ่งที่จำเป็นสำหรับชาวนา คือเกณฑ์ดินฟ้า และที่ขาดไม่ได้ จำนวนนาคให้น้ำนาคเป็นพาหนะพระพิรุณ เทพเจ้าแห่งฝน มีหน้าที่พ่นน้ำ แต่ละปีนักษัตร จำนวนนาคให้น้ำไม่เท่ากัน ต่ำสุด 1 ตัว สูงสุด 7 ตัวตำรานาคให้น้ำมีหลายตำรา เล่มที่ ส.พลายน้อย เขียนไว้ในสารานุกรมวัฒนธรรมไทยปีนี้ ปีระกา นาคให้น้ำ 4 ตัวจำนวนนาคยังสัมพันธ์กับวันเวลา ซึ่งแบ่งเป็นช่วง ช่วงละ 4 เดือน ต้นปี กลางปี และปลายปีเช่นระกานี้ ทำนายว่า ต้นปีน้ำน้อย กลางปีน้ำงาม และปลายปีน้ำท่วมผมเคยอ่านคำทำนายหลายปี แต่ไม่ได้คิดว่า ตำรานาคให้น้ำจะแม่นยำจริงเข้าใจว่า คนโบราณคงเขียนเอาไว้ในแบบของเซียมซี เสี่ยงได้ใบเลขอะไร ก็ทำนายไปนอกจากทำนายน้ำมากน้อยแล้ว ยังมีคำทำนายสัดส่วนของฝนว่า จะไปตกที่ไหนเมื่อบอกจำนวนตัวนาค ซึ่งผมเข้าใจว่า แต่ละตัวคงมีฤทธิ์เดช พ่นน้ำปริมาณเท่าๆกัน จะเข้าใจง่ายๆ นาคให้น้ำถึงสี่ตัว ฝนจะตกเท่าๆกัน ยังไม่ได้โบราณท่านแบ่งพื้นที่ฝนตกเอาไว้ เช่น ตกในหิมพานต์...กี่ห่า ตกในจักรวาลกี่ห่า ตกในมหาสมุทรกี่ห่า และที่สำคัญ ตกในมนุษยโลกกี่ห่าถ้าจะให้เดา ก็ต้องเดาว่า ปีระกานี้ฝนตกในมนุษยโลก มากกว่าตกที่อื่นคำว่า ตกในจักรวาล ตกในหิมพานต์ คนรุ่นใหม่มองว่า เป็นเรื่องเพ้อฝัน มีไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด เช่นนาคให้น้ำตั้งสี่ตัว...แต่สัดส่วนที่ตกในโลกมนุษย์นิดเดียวแต่ความแม่นของคำทำนายน้ำปีระกา...แม่นเหมือนตาเห็น ผมเชื่อว่า คนโบราณท่านไม่โมเมเหมาเขียนคำทำนายเหมือนเขียนเซียมซี ท่านน่าจะมีหลักในเชิงสถิติที่จดจำเทียบเคียงกันไว้ก็คงใช้หลักเดียวกับคำพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา รอบปีนี้ ฝนเคยตกหนักอย่างนั้นเป็นรัฐบาลก็ต้องหาวิธีแก้ไข ผ่อนหนักเป็นเบา หรือถ้าเก่งจริง ก็ทำให้ร้ายกลายเป็นดีโบราณว่า น้ำมาปลากินมด น้ำลดมดกินปลา ครับ ผมนึกถึงรัฐบาล ถ้าแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ดี ถึงเวลาน้ำลด ศรัทธาก็ไม่น่าจะลดตาม รัฐบาลทหารมีเหตุผลตีตั๋วต่อได้สบายเรื่องศรัทธา ขงจื๊อสอนว่า สำคัญกว่ากองทัพ และอาหารคนไม่มีกิน รัฐบาลยังพออยู่ได้ แต่ถ้าคนไม่มีศรัทธา รัฐบาลไม่ว่ารัฐบาลพลเรือน หรือรัฐบาลทหาร มีแต่รอวันพัง.กิเลน ประลองเชิง