ส่ายหน้ายิ้มๆอากัปกิริยาของ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ต่อคำถามนักข่าวกรณีการหารือเรื่องปลดล็อกพรรคการเมืองในที่ประชุม คสช.นัดล่าสุดแต่ที่ชัดเจนหน่อยก็คิวของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เบอร์หนึ่งฝ่ายความมั่นคง ที่ย้ำจุดยืนเดิม ไม่มีการคุยเรื่องปลดล็อกพรรคการเมือง แม้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้แล้วเพราะการจัดทำกฎหมายลูกยังไม่เสร็จ ยังมีเวลาอีกปีกว่าเรื่องของเรื่อง โดยปรากฏการณ์ที่ขัดลำกับ “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ปูทางนำร่องเป็นนัย ภายใน 1–2 วันนี้ คงจะมีการปรับคำสั่ง คสช.ให้สอดคล้องกับการที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้เช่นเดียวกับท่าทีของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ส่งสัญญาณเป็นนัยจะมีข่าวดีเรื่องปลดล็อกการเมืองเร็วๆนี้ ยอมรับกลายๆเป็นเรื่องนโยบายที่ไปผูกกับความสงบเรียบร้อย คสช.กำลังพิจารณาอยู่ดูจากภายนอกก็เห็นได้ชัด จังหวะไปกันคนละทางระหว่าง คสช.ต้นน้ำกับทีมงานแม่น้ำ 4 สาย ทั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและ สนช. ตามเงื่อนไขสถานการณ์โรดแม็ปที่คืบไปอีกขั้นสำคัญโดยรูปการณ์เหมือนถือเดิมพันกันคนละมุมและตามเงื่อนไขสถานการณ์ประเด็นปลดล็อกพรรคการเมืองน่าจะไปเร้ากันอีกรอบ ในห้วงหลังพระราชพิธีสำคัญผ่านพ้นไปแล้วแต่แนวโน้ม ขนาดยังไม่ปลดล็อกอย่างเป็นทางการ ก็ยังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากนักการเมืองอาชีพทุกป้อมค่าย รวมพลังไล่จี้ให้ “นายกฯลุงตู่” แสดงความชัดเจนพูดให้ชัดจะเล่นการเมืองในสถานะนายกรัฐมนตรี “คนนอก” หรือ “คนใน”นั่นก็เพราะจับไต๋ ประเมินอาการหัวขบวน คสช.ที่กั๊กๆกล้าๆกลัวๆ ลังเลจะลงสนามเลือกตั้งตามจังหวะเสียงเชียร์ของกลุ่มคนไทยในสหรัฐอเมริกาที่มารอต้อนรับระหว่างเยือนทำเนียบขาวยุให้ตั้งพรรค จะลงทุนบินกลับมากาบัตรลงคะแนนให้ “ลุงตู่”ทำให้เซียนการเมืองอาชีพรู้ทาง รีบกดดันมัดคอ ตามบทเขี้ยวๆไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แม้แต่พรรคที่แสดงจุดยืนพร้อมหนุนทหารอย่างภูมิใจไทยก็เริ่มแทงกั๊ก พรรคชาติไทยพัฒนาก็รอดูกระแส เพื่อให้แน่ใจก่อนว่า “ลุงตู่” จะเอายังไงต่างฝ่ายต่างปิดไพ่ไว้ในมือ ไม่รีบหงาย ในจังหวะเกมบีบผู้นำ คสช.เพราะไม่ว่านายกฯคนนอกหรือคนใน ก็ต้องมีพรรคการเมืองเป็นฐานหลักของตัวเองยิ่งตั้งพรรคแล้ว “ลุงตู่” ไม่นำพรรคเองก็ยิ่งลำบากนี่แหละไฟต์บังคับ หาก “นายกฯลุงตู่” ไม่ตัดสินใจ ยิ่งใกล้เลือกตั้งก็จะยิ่งยากขึ้นตามหลักความเป็นจริงทางการเมือง แคมเปญในการรณรงค์หาเสียงต้องใช้เวลา การจะตั้งพรรคการเมืองหามือชำนาญการทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายการเมืองอ่านเกมขาด หวังตัด “บิ๊กตู่” ออกจากเกมแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตามรูปเกมที่ทีมงานวางฐานการเมืองของ “ลุงตู่” ก็เตรียมปูพื้นรอไว้แล้วเหมือนกันกับสารพัดมาตรการ “อัดฉีด” ซื้อใจคนจนฐานราก ตามฉากแบบที่เห็นโครงการ “ธงฟ้าประชารัฐ” ต่อยถูกเป้าเต็มๆ ประชาชนคนมีรายได้น้อยมาเฝ้ารอการจับจ่ายใช้สอยสินค้าผ่านบัตรสวัสดิการประชารัฐที่เครื่องรูดบัตรเกิดปัญหาติดขัด เพราะมีธนาคารกรุงไทยรายเดียวที่ร่วมโครงการเงินเริ่มไหลไปถึงเป้าหมาย กระจายถึงมือชาวบ้านและแน่นอน เมื่อสถานการณ์เป็นไปตามเป้า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ คงต้องหาเงินมาโปะเพิ่มให้คนจน เพื่อดันเศรษฐกิจฐานรากให้หมุนตรงกันข้าม ตามเหลี่ยมที่นักการเมืองอาชีพต้องรีบออกมาเตะสกัด มุมหนึ่งก็โจมตีประเด็นเงินย้อนกลับไปเข้ามือกลุ่มทุนใหญ่ เอื้อประโยชน์ให้บริษัทยักษ์ผู้ผลิตสินค้า บ้างก็ว่าเป็นโครงการฉุกละหุก ไม่มีความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือรูดบัตร เปิดช่องให้เกิดการทุจริต ไม่มีความคุ้มค่ากับการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ที่ชัดเลย จับอาการของพรรคเพื่อไทยที่ออกมาเยาะเย้ยโครงการบัตรคนจน รัฐบาล “ลุงตู่” ทำเพื่อมุ่งหาเสียง ทั้งๆที่เคยตั้งแง่รังเกียจโครงการประชานิยมโจมตี ดักคอ กลัวโดนแย่งลูกค้า ลืมยี่ห้อ “ทักษิณ”.ทีมข่าวการเมือง