อาคารพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร.ปราจีนบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออก มีพื้นที่กว้างขวาง มีป่าเขาอุดมสมบูรณ์ พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่สองของไทย เมื่อปี พ.ศ.2548 หลังจากที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของไทย เมื่อปี พ.ศ.2534ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี มีอุทยานแห่งชาติถึงสามแห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติทับลาน และอุทยานแห่งชาติปางสีดา เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจ ทั้งการขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์บนภูเขา เดินชมต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์ป่า นก แมลง ผีเสื้อ ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ไปเล่นน้ำตามน้ำตกต่างๆ ซึ่งมีมากมายหลายแห่ง นักท่องเที่ยวนั่งเรือยางล่องแก่งหินเพิง.นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ชอบความสนุกสนานแนวผจญภัยคือ การล่องแก่งหินเพิง คุณดำริห์ รัตนชินกร นายกสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดปราจีนบุรีบอกมาว่า เทศกาลล่องแก่งหินเพิงในปีนี้เริ่มฤดูกาลมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายน เป็นช่วงเวลาที่ปริมาณน้ำค่อนข้างมาก เหมาะแก่การล่องแก่งอย่างสนุกสนานเต็มที่ พอถึงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ยังล่องแก่งได้ แต่ปริมาณน้ำและความแรงของกระแสน้ำจะเริ่มน้อยลง ซึ่งจะเหมาะสำหรับหมู่คณะที่เป็นกลุ่มครอบครัว มีเด็กหรือผู้สูงอายุไปด้วยผู้ที่จะไปล่องแก่งหินเพิง ต้องมีความสูง 115 เซนติเมตรขึ้นไป ไม่จำกัดอายุ ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เดินเหินคล่องแคล่ว เพราะก่อนจะลงเรือล่องแก่ง จะต้องเดินไปตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 2.5 กิโลเมตร เดินชมนกชมไม้ไป ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง จึงจะไปถึงจุดลงเรือยางที่แก่งหินเพิง ทางเดินไปยังแก่งหินเพิง.เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วง มีการตรวจสอบปริมาณน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หน่วยเขาแหลม ซึ่งอยู่ก่อนถึงแก่งหินเพิง 80 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการบริการล่องแก่งมีการติดต่อกันทางวิทยุสื่อสารตลอดเวลาก่อนลงเรือ เจ้าหน้าที่ประจำเรือจะแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัย และระหว่างทางที่เรือยางล่องมา จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยซึ่งผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี คอยประจำอยู่ตามจุดต่างๆ ที่คาดว่ามีโอกาสที่นักท่องเที่ยวอาจพลัดตกจากเรือ หรือเรืออาจจะคว่ำ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทันทีการไปล่องแก่งหินเพิงจะไปแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้ หรือถ้ามีเวลามากหน่อย เพื่อไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง และมีเวลาไปเที่ยวแบบสบายๆ ขอแนะนำให้พักค้างคืนแถวนั้น มีที่พัก มีรีสอร์ตให้เลือกหลายแห่ง บางแห่งมีจัดแพ็กเกจรวมที่พัก อาหาร และล่องแก่ง ซึ่งในปีนี้มีผู้ประกอบการให้บริการล่องแก่ง 6 ราย ได้แก่ ศักดิ์สุภารีสอร์ท หินเพิงรีสอร์ท วังตะพาบรีสอร์ท ใสใหญ่รีสอร์ท ภูริมนารีสอร์ท และแก่งหินเพิงริเวอร์ไซด์จากที่ไต่ถามมาได้ความว่า ในแต่ละสัปดาห์ วันเสาร์เป็นวันที่มีนักท่องเที่ยวไปล่องแก่งมากที่สุด วันอาทิตย์น้อยกว่าวันเสาร์นิดหน่อย ส่วนวันธรรมดา นักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย ถ้าจะไปเป็นกลุ่มใหญ่ควรติดต่อนัดหมายจองเรือไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการใช้บริการแก่งหินเพิงอยู่ในลำน้ำแม่น้ำใสใหญ่ ในเขตหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 (ขญ.9) ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี การเดินทางจากตัวเมืองปราจีนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 3452 (ปราจีนบุรี-ประจันตคาม) ไปถึงทางแยกตัดกับทางหลวงหมายเลข 33 เลี้ยวขวา ตรงไปทางอำเภอกบินทร์บุรี ก่อนถึงอำเภอกบินทร์บุรีให้สังเกตโรงเรียนวัดสระประดู่ เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางข้างโรงเรียน จะมีป้ายบอกทางไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 (ขญ.9) ติดอยู่เป็นระยะๆนอกจากแก่งหินเพิงซึ่งเหมาะจะไปเที่ยวในช่วงฤดูฝน ปราจีนบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่งที่สามารถไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ท่องเที่ยวประเภทโบราณสถาน และพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าจังหวัดปราจีนบุรี และเมืองไทยเรามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน บางคนอาจคิดว่าการศึกษาประวัติศาสตร์เป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่หลายคนที่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์บอกว่าเป็นเรื่องสนุก ที่ได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีต พระพุทธรูปปางสมาธิ.อย่างเช่นที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี เป็นที่จัดแสดงโบราณวัตถุ ที่ค้นพบในภูมิภาคตะวันออกและพื้นที่ใกล้เคียง ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของพื้นที่บริเวณนี้ตั้งแต่เมื่อหมื่นปีที่แล้ว ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน เทวรูปพระนารายณ์สี่กร.โบราณวัตถุที่นำมาจัดแสดง เช่น ประติมากรรมเทวรูปพระนารายณ์สี่กร (วิษณุ-จตุรภุช) พระพุทธรูปปางต่างๆ ภาชนะดินเผา เครื่องถ้วย เครื่องสำริด กังสดาล กลองมโหระทึก รวมทั้ง ทับหลังหลายชิ้นที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์สวยงาม รอยพระพุทธบาทคู่.ชมโบราณวัตถุที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แล้ว ควรไปชมโบราณสถานเพื่อให้ได้เห็นสภาพพื้นที่จริง ซึ่งยังมีบางส่วนของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ให้เห็นเป็นหลักฐาน ขอแนะนำให้ไปชม กลุ่มโบราณสถานสระมรกต ที่อำเภอศรีมโหสถ สระมรกตเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี ในกลุ่มโบราณสถานนี้มีรอยพระพุทธบาทคู่ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เป็นรอยสลักบนพื้นหินศิลาแลงธรรมชาติ ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์.ไม่ไกลจากกลุ่มโบราณสถานสระมรกต มี วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก เนื่องจากมีต้นศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่ ที่เชื่อกันว่านำหน่อมาจากพุทธคยา ภายในพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร. ภายในพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร.สำหรับผู้ที่สนใจการแพทย์แผนไทย สามารถไปศึกษาหาความรู้ได้ที่ พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นแหล่งรวบรวมตำรายาแพทย์แผนไทย ข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรไทย และมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพมาตรฐานจำหน่าย ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร เป็นอาคารสองชั้นแบบยุโรป ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นสวยงาม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2452 และได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ.2533 และได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ.2542 วัดแก้วพิจิตร.ในตัวเมืองปราจีนบุรียังมีวัดที่น่าชมอีกแห่งหนึ่งคือ วัดแก้วพิจิตร (พระอารามหลวง) มีพระอุโบสถที่สร้างโดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแบบไทย จีน เขมร และตะวันตกมาผสมผสานกัน ภายในพระอุโบสถวัดแก้วพิจิตร.พระประธานที่ประดิษฐานภายในพระอุโบสถมีสององค์ องค์เดิมเป็นพระปางห้ามญาติ ประดิษฐานอยู่ด้านหลังชิดกับผนังพระอุโบสถ พระประธานองค์ใหม่เป็นพระปางอภัยทานองค์เดียวในโลก ออกแบบโดยสมเด็จกรมพระยา ดำรงราชานุภาพสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในจังหวัดปราจีนบุรีได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก (ดูแลจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว) โทรศัพท์ 0-3731-2282, 0-3731-2884ขอขอบคุณโรงแรมแคนทารี กบินทร์บุรี ที่เอื้อเฟื้อที่พักสำหรับทีมงาน จังหวัดปราจีนบุรีมีของดีมากมายขนาดนี้ คงน่าเสียดายหากไม่ได้ไปสัมผัสกัน.....สวัสดี.ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์