(เรียงจากซ้าย) อาคารโรงเรียน “เอกอล นูวเวลล์ เดอ ลา สวิส โรมองด์” // แฟลตเลขที่ 16 ถนนทิสโซต์ // ทิวทัศน์สวยงามของทะเลสาบเจนิวา หรือทะเลสาบเลอม็อง // ศาลาไทยสวยสง่ากลางสวน ริมทะเลสาบเมืองโลซานน์.....ระยะเวลานานเกือบ 20 ปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประทับอยู่ร่วมกันที่ “เมืองโลซานน์”--Lausanne สวิตเซอร์แลนด์ดินแดนแห่งนั้นมีส่วนหล่อหลอม “ยุวกษัตริย์” ของไทยให้ทรงรับรู้ ซึมซับหลายเรื่องทั้งด้านการศึกษา วิทยาการ เทคโนโลยี ศิลปะแขนง ต่างๆ รวมถึงงานเกษตรกรรม จนนำมาสู่ “พระอัจฉริยภาพ” แทบทุกด้านในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ล้วนส่งผลถึงพัฒนาการหลายๆด้านของประเทศไทยตลอดช่วงเวลาทรงครองราชย์นาน 70 ปี 126 วันเมืองโลซานน์ เมืองหลวงของรัฐโวด์ อยู่ในภูมิภาคทะเลสาบเจนิวา ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้สวิตเซอร์แลนด์ ติดพรมแดนฝรั่งเศส ภูมิภาคนี้ผู้คนเกือบทั้งหมดใช้ภาษาฝรั่งเศสสื่อสารมากกว่าภาษาอื่นของสวิส อันได้แก่ สวิสเยอรมัน สวิสอิตาลีและอังกฤษ จึงเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่งสำหรับผู้คนใช้ชีวิตที่นั่นให้จำเป็นต้องร่ำเรียนรู้สื่อสารภาษาท้องถิ่นให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แรกเริ่มสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเลือกเมืองโลซานน์เป็นสถานที่พำนักพักพิงพร้อมกับพระธิดาและพระโอรส 2 พระองค์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2476 ในช่วงที่บ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อย ราชสกุล “มหิดล” ทั้ง 4 พระองค์ ทรงใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน ช่วง 2 ปีแรกประทับอยู่แฟลตเลขที่ 16 ถนนทิสโซต์ โดยฝั่งตรงข้ามกับแฟลตเป็นร้านถ่ายรูปที่ทั้ง 4 พระองค์ทรงใช้บริการถ่ายภาพหมู่ครอบครัวหลายครั้ง ก่อนเสด็จย้ายไปประทับที่ตำหนัก “วิลลาวัฒนา” ในเวลาต่อมาหนังสือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และเจ้านายไทยในโลซานน์” บันทึกความทรงจำของครูส่วนพระองค์ในรัชกาลที่ 8 และ 9 รวบรวมโดย “ลีซองดร์ เซ.เซไร-ดารีส” บุตรคนสุดท้องของ “เกลย์อง เซ.เซไร-ดารีส” ครูส่วนพระองค์ในพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองรัชกาล ได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตส่วนหนึ่งของพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองรัชกาลอย่างน่าสนใจและประทับใจยิ่งถึงพัฒนาการของ “ยุวกษัตริย์” ตั้งแต่การเริ่มร่ำเรียนหนังสือที่โรงเรียน ENSR “Ecole Nouvelle de la Suisse Romande”--เอกอล นูวเวลล์ เดอ ลา สวิส โรมองด์ โรงเรียน เอกชนเก่าแก่อายุมากกว่า 1 ศตวรรษแห่งนี้ทำเลที่ตั้งเหมาะบนเนินเขาเห็นทิวทัศน์ภาพรวมของทะเลสาบเจนิวา หรือผู้คนท้องถิ่นเรียก “ทะเลสาบเลอม็อง” ทั้งมีความพร้อมหลายด้านตั้งแต่การเรียนการสอนสมัยใหม่ สนามกีฬานานาชนิด กิจกรรมกลางแจ้งมากมาย รวมถึงห้องเรียนงานไม้ งานฝีมือสอนเหล่านักเรียนที่มีมาจากทั่วโลกความเพียบพร้อมของเมืองโลซานน์ใช่แค่ผู้คนพำนักอย่างสงบเรียบง่ายกลมกลืนท่ามกลางสภาพแวดล้อมทะเลสาบและขุนเขา ด้วยจำนวนประชากรปัจจุบันราว 134,937 คน โดย 30 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวต่างชาติ หากที่นั่นยังเป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมมากมายหลากหลาย ทั้งเป็นแหล่งผลิตไวน์เลื่องชื่อแห่งหนึ่งของโลกไม่แพ้ดินแดนฝรั่งเศส ภูมิภาคทะเลสาบเจนิวาคือพื้นที่ปลูกองุ่นผลิตไวน์มากราว 1 ใน 4 ของประเทศ พื้นที่ปลูกองุ่นผลิตไวน์ได้รับการขึ้นบัญชีมรดกโลกมาตั้งแต่ปี 2550 ปริมาณผลผลิตไวน์ในภูมิภาคนี้มากเฉลี่ยปีละ 39.62 ล้านขวด เมืองโลซานน์เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ศึกษาหาความรู้ ไล่ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก พิพิธภัณฑ์ “ชาร์ลี แชปลิน” ดาราตลกคนดังของโลก ปราสาทและป้อมปราการเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 กองเรือจักรกลไอน้ำล่องท่องทะเลสาบเจนิวา สถานที่เดินป่าขึ้นเขา และสถานที่เล่นสกี ขี่จักรยานมากมายกิจกรรมระดับนานาชาติที่กำลังมีขึ้นในเมืองโลซานน์อนาคตอันใกล้นี้คือ งานเฉลิมฉลอง 10 ปีมรดกโลกพื้นที่ปลูกองุ่นผลิตไวน์ระหว่างวันที่ 9-10 ก.ย.--กิจกรรมกีฬา “โลซานน์ มาราธอน” รวมนักวิ่งมากกว่า 10,000 คนจากกว่า 30 ประเทศ และช่วงสิ้นปี มหกรรมตลาดคริสต์มาสส่งท้ายปีระหว่างวันที่ 23 พ.ย.-24 ธ.ค.2560สำคัญที่สุดสำหรับพสกนิกรชาวไทยทั้งมวล “เมืองโลซานน์” คือสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงใช้เวลาสานสัมพันธ์ความรักแน่นแฟ้นยั่งยืน ก่อนเสด็จนิวัตประเทศไทยเพื่อทรงอภิเษกสมรสเมื่อ 28 เม.ย. พ.ศ. 2493 และทรงบรมราชาภิเษกเมื่อ 5 พ.ค.ปี เดียวกันนั้น...อานุภาพ เงินกระแชง