ศาลจังหวัดนนทบุรี พิพากษายกฟ้อง 4 จำเลยบนเรือ สปีดโบ๊ตมรณะ “แซน กระติก เอ็ม จ๊อบ” ข้อหาร่วมกัน ประมาทฯ ทำให้ “แตงโม” พลัดตกเรือเสียชีวิต ระบุเหตุผลผู้ตายสมัครใจเอาตัวไปเสี่ยง หลังเดินไปท้ายเรือด้วยตัวเอง แต่ “จ๊อบ” โดนข้อหา แจ้งความเท็จ-ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอลงอาญา 1 ปี “แม่จิ๋ม” รอดูสำนวนก่อนสรุปอุทธรณ์หรือไม่
จบคดีมหากาพย์ลากยาวกว่า 3 ปี กรณี “แตงโม” น.ส.ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ อายุ 38 ปี ดารา-นางแบบสาวชื่อดัง พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตจมน้ำตายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี กลางดึกคืนวันที่ 24 ก.พ.65 อัยการยื่นฟ้องเพื่อนที่อยู่บนเรือ ขณะเกิดเหตุ 5 คน ได้แก่ นายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ นายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ นายวิศาพัช หรือแซน มโนมัยรัตน์ น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม และนายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาธร ข้อหาร่วมกันกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ ความตาย และฟ้องนายภีม หรือเอ็ม ธรรมธีรศรี ผู้ให้คำแนะนำทางกฎหมาย ต่อมานายปอ และนาย โรเบิร์ตรับสารภาพว่า สลับกันขับเรือ ยอมชดใช้เยียวยา ค่าสินไหมทดแทนให้กับนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง โดยนายปอเหลือโทษจำคุก 2 ปี 9 เดือน ปรับ 64,000 บาท ส่วนนายโรเบิร์ตโทษจำคุก 2 ปี 2 เดือน ปรับ 54,000 บาท โทษจำคุกทั้ง 2 คน รอลงอาญา 3 ปี พร้อมให้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์
ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เวลา 09.00 น. วันที่ 23 พ.ค. บรรยากาศบริเวณหน้าศาลคึกคักตั้งแต่เช้า มีกองทัพสื่อมวลชนทุกแขนงมาปักหลักรอรายงานข่าว คดีแตงโม เจ้าหน้าที่ศาลได้นำเต็นท์มากางให้กับผู้สื่อข่าวได้หลบแสงแดดร้อนระอุ ในวันนี้จะมีการ พิจารณาคดีการเสียชีวิตของแตงโม ดาราสาวพลัดตกเรือจมน้ำเสียชีวิต เป็นคดีที่แยกออกมาจากคดีของนายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ ที่ตัดสินไปก่อน หน้านี้แล้ว คงเหลือจำเลยอีก 4 คน ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหามาตลอดและต่อสู้คดีคือ นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ นายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาธร น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ และนายภีม หรือเอ็ม ธรรมธีรศรี จำเลยทั้ง 4 คน เริ่มทยอย เดินทางมาศาลพร้อมทนายส่วนตัว ต่อมานางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือแม่จิ๋ม มารดาของแตงโม เดินทางมาถึงศาล และเดินขึ้นไปบนศาลทันที ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด
...
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนาง ภนิดา กล่าวว่า เช้านี้นางภนิดายังไม่อยากให้สัมภาษณ์ วันนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล จะฟังว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือประมาท ประเด็นมีอยู่แค่นี้ รวมทั้งการแจ้งความเท็จ หรือยุยง ส่งเสริมหรือไม่ มีการทำลายหลักฐานหรือไม่ ประมาณนี้ ตนมั่นใจในหลักฐานของตำรวจภูธรภาค 1 และอัยการจังหวัดนนทบุรี คดีนี้หลายคนยัง ไม่เข้าใจว่านางภนิดาไม่ได้เป็นโจทก์ เป็นเพียงโจทก์ร่วม คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์ หลักฐานทั้งหมดมาจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และสำนักงานอัยการ ตนได้คุยกับอัยการแล้วมีความมั่นใจว่าการตัดสินในวันนี้จะมีการเขียนคำพิพากษาอย่างละเอียด เนื่องจากมีประเด็นทางโซเชียลที่ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยในการทำคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อปิดช่องให้คนอื่นเอาคำพิพากษาไปหาประโยชน์
นายเดชากล่าวต่อว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จะดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ นางภนิดายอมรับคำตัดสินของศาล ไม่มีความกังวล และไม่ได้ผูกอาฆาต พยาบาทกับจำเลย ยอมให้อภัยหมดทุกคน หลังจากตัดสินแล้วคู่ความคนไหนไม่พอใจสามารถอุทธรณ์หรือฎีกาได้ ที่ผ่านมาทั้ง 3 คน คือ แซน กระติก และ จ๊อบ ไม่มีใครติดต่อหานางภนิดา มีแต่แซนวางเงิน 100,000 บาท หลังพิจารณาคดีครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน มี.ค. เป็นการชดใช้ด้านมนุษยธรรม
นายเดชากล่าวอีกว่า ที่ทั้ง 4 คน ปฏิเสธเพราะ ปอกับโรเบิร์ตที่เป็นคนขับเรือ ยอมรับว่าสลับกันขับเรือ ได้ชดใช้เงินให้นางภนิดาไปราว 9 ล้านบาท ส่วนคนที่อยู่บนเรือที่เหลือมองว่าไม่ได้เป็นคนขับเรือ เป็นเพียงผู้โดยสาร ไม่มีหน้าที่ต้องดูแลแตงโม แต่อัยการบรรยายฟ้องว่าต่างคนต่างมีส่วนต้องรับผิดชอบ เพราะดื่มแอลกอฮอล์จนมึนเมา ก่อนชักชวนกันลงเรือ และดื่มแอลกอฮอล์ซ้ำ รวมทั้งคนขับเรือไม่มีใบอนุญาต เพราะฉะนั้นทุกคนบนเรือต้องมีส่วนในการรับผิดชอบ เนื่องจากชักชวนกันมา ไม่มีชูชีพ ไม่มีห่วงยาง หลังเกิดอุบัติเหตุคนบนเรือแจ้งข้อมูลการช่วยเหลือช้า ในการฟ้องครั้งนี้อัยการฟ้องทั้งหมดพร้อมกัน แต่เมื่อมีคนรับสารภาพแค่สองคน ศาลจำเป็นต้องตัดสินไปก่อน ทำให้ต้องแยกฟ้อง หากวันนี้ศาลยกฟ้องก็เนื่องจากเป็นคดีเดียวกัน แต่การกระทำคนละส่วน ต้อรอศาลตัดสินก่อน
ด้านนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของนายวิศาพัช หรือแซน มโนมัยรัตน์ หนึ่งในจำเลย คดีการเสียชีวิตของแตงโม กล่าวว่า วันนี้ศาลนัดฟัง คำพิพากษาของศาลชั้นต้น ในข้อหาประมาทเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำเลยทุกคนพร้อมมารับฟัง คำพิพากษา หากศาลพิจารณาออกมาแบบไหนขึ้นอยู่กับคำตัดสิน จำเลยทุกคนพร้อมและน้อมรับคำพิพากษา หลังจากนั้นทนายจำเลยต้องดูว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ฝ่ายโจทก์จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ที่ผ่านมาทนายแต่ละคนต่อสู้ตามฐานความผิดที่จำเลย แต่ละคนถูกกล่าวหา เพราะจำเลยแต่ละคนมีคดีที่แตกต่างกัน แต่ฐานความผิดหลักคือประมาทเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำเลย 2 คนแรกที่ศาลพิพากษาไปก่อนหน้านี้รับสารภาพ แต่ในส่วนของ 4 คนนี้ให้การปฏิเสธ ตามหลักกฎหมายได้แยกสำนวนออกมา และต่อสู้คดีจนมาถึงวันนี้
เมื่อถามว่า 4 คน ที่ปฏิเสธมั่นใจว่าไม่ได้ฆ่า แตงโม หรือมีเหตุผลอื่น นายพรศักดิ์กล่าวว่า ไม่ใช่ เรื่องฆ่า แต่เป็นเรื่องประมาท เพราะคนขับเรือที่ควบคุมเรือในวันนั้นคือปอกับโรเบิร์ต ทั้งคู่รับสารภาพไปแล้ว ส่วนทุกคนที่เหลืออยู่ในฐานะผู้โดยสาร ต่อสู้ในพฤติการณ์ข้อเท็จจริง ลักษณะการอยู่ในเรือว่าใครมีหน้าที่อย่างไร เมื่อถามว่าการชักชวนให้แตงโม ไปกินข้าว หรือดื่มแอลกอฮอล์ ในเรือเข้าข่ายประมาทหรือไม่ นายพรศักดิ์กล่าวว่า ส่วนนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการประเมิน ใครไปเที่ยวไหนแล้วเป็นเหตุให้เกิด ความประมาท มิเช่นนั้นทุกคนที่ชวนไปไหนจะโดนข้อหานี้กันหมด
ขณะที่แซน วิศาพัช กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้กังวลใจ อะไร แต่ตื่นเต้น ระยะเวลา 3 ปี ถือว่านาน ระหว่างทาง เกิดเหตุการณ์เยอะแยะ ดีใจด้วยที่หมดเวลาของเฟกนิวส์แล้ว วันนี้ไม่มีอะไรอยากบอกสังคมแล้ว ผ่านมาตั้ง 3 ปีแล้ว ส่วนสังคมอยากคิดอะไรก็แล้วแต่เลย เมื่อถามว่ากังวลเรื่องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ไปเก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อนำมาประกอบสำนวนหรือไม่ แซน วิศาพัช กล่าวว่า ไม่เคยเก็บมาคิดเลย ตนไม่เห็นว่าเป็นสาระสำคัญ เพราะที่ผ่านมาเห็นว่าดีแต่พูด ทำอะไรได้บ้างไหม
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาได้ใช้สื่อโซเชียลบอกเล่า เรื่องราวต่างๆมาตลอดเพื่อแสดงออกว่ามั่นใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่หรือไม่ แซน วิศาพัช ตอบว่า ใช่ ตนมั่นใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้น วันนี้พร้อมน้อมรับ ทุกคำตัดสิน ไม่ได้เผื่อใจไว้ ไม่ได้กังวลอะไร ทำหน้าที่ ไปตามขั้นตอน ผลจะเป็นบวกหรือลบ ทนายความได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ตนอยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า เกิดอะไรขึ้น มั่นใจในข้อเท็จจริงว่าไม่มีใครทำอะไรผิด จากนั้นแซนและทนายความขอตัวไปฟังคำพิพากษา
เวลา 12.30 น. หลังศาลจังหวัดนนทบุรี ใช้เวลา นานกว่า 2 ชั่วโมง ได้พิพากษาสรุปว่า ผู้เสียชีวิตสมัครใจเอาตัวเองไปเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเอง จากการเดินไปที่ท้ายเรือด้วยตัวเอง คดีไม่มีประจักษ์พยานบนเรือ เพราะคนบนเรือล้วนตกเป็นจำเลยและให้การไป ในทิศทางเดียวกัน ประเด็นภาพถ่ายที่อ้างว่า ถูกตัดต่อ ไม่มี ผลชันสูตรบาดแผลเกิดจากใบพัดเรือ พยานหลักฐาน ทุกอย่างสอดคล้องเชื่อมโยงกัน ศาลพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ และนายภีม หรือ เอ็ม ธรรมธีรศรี ส่วนนายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาธร ศาลพิพากษาสั่งจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท ในข้อหาแจ้งความเท็จ และทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพและไม่เคยมีประวัติกระทำผิดมาก่อน ศาลมีคำสั่งให้รอลงอาญาโทษจำคุกไว้ 1 ปี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังฟังคำพิพากษา จำเลยต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มด้วยความยินดี
นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เปิดใจ ว่า วันนี้โล่งใจมากและจะไม่ขอยื่นอุทธรณ์แล้วขณะอยู่ในศาลยังได้มีโอกาสกอดกับแซนและทนายตุ๋ย ยอมรับว่า 3 ปีที่ผ่านมา คลายความกังวลทุกอย่าง วันนี้โล่งใจและสบายใจมาก ไม่มีอะไรค้างคาใจ ไม่มีอะไรติดค้าง ตอนนี้แตงโมได้รับความยุติธรรมแล้ว หลังจากนี้จะเดินทางกลับบ้านและไปรอดูข่าวนี้ ทางโทรทัศน์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. คณะพนักงานสืบสวน ดีเอสไอได้มีหนังสือเชิญประชุมคณะพนักงานสืบสวน ครั้งที่ 3/2568 ในวันที่ 27 พ.ค.68 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารราชบุรีติเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรณีการสืบสวนการเสียชีวิต ของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่มี พฤติการณ์เป็นที่ต้องสงสัยว่ามีกลุ่มบุคคลส่วนต่างๆ ร่วมกันบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้การช่วยเหลือแก่บุคคลอื่น ให้ไม่ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง ในระเบียบวาระการประชุมของคณะพนักงานสืบสวนดังกล่าว เพื่อพิจารณาแนวทางแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม แนวทางติดตามผลการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บช.ภ.1 สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการภาค 1 และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การเชิญประชุมพนักงานสืบสวนดังกล่าว เป็นเพียงเรื่องสืบสวนยังไม่ได้ประมวลเรื่องเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษแต่อย่างใด เนื่องจากกระบวนการสืบสวนสามารถขยายกรอบระยะ เวลาได้มากกว่า 6 เดือน เพื่อให้พนักงานสืบสวนที่ได้รับการแต่งตั้งรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง พยานวัตถุ และพยานเอกสารให้มีความชัดเจน ปรากฏพฤติการณ์อันเป็นความผิดที่เข้าข่ายลักษณะความผิด แนบท้ายบัญชี พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ก่อนเสนออธิบดีฯ รับไว้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษหรือไม่
ต่อมาช่วงเย็น นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีนางภนิดาให้สัมภาษณ์จะไม่ยื่นอุทธรณ์คดีว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าคดีนี้นางภนิดาเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ ต้องอยู่ที่อัยการด้วยว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ตนได้โทรศัพท์สอบถามหลังนางภนิดากลับถึงบ้าน นางภนิดาบอกว่าตอนที่นักข่าวมาสอบถามเป็นช่วงที่เพิ่งลงจากศาล ตอนนั้นกำลังสับสนและได้ยินคำถามไม่ชัดเจนเลยบอกไปว่าไม่ติดใจสงสัยอะไรแล้ว แต่ความจริงนางภนิดายังติดใจในบางประเด็น อยากให้ตนคัดคำพิพากษาอย่างละเอียด นำมาดูว่าตรงไหนที่ยังน่าเคลือบแคลงสงสัย เพื่อพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์คดีหรือไม่ เรื่องนี้นางภนิดาขอเวลาตัดสินใจอีกครั้ง
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่