"นาเดีย" แจงปมดราม่า "พริตตี้นาเดียร์" คืนชีพ โต้ไม่ได้หลอกใคร แต่เป็นการลงทุนร่วมกัน พร้อมแจงทุกประเด็น ลั่นใครมีหลักฐานแจ้งเอาผิดได้เลย

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับ "พริตตี้นาเดียร์" หลังจากมีกลุ่มผู้เสียหายรวมตัวร้องเรียน อ้างว่า พริตตี้นาเดียร์ หลอกให้ลงทุน ซื้อของ หลอกให้คนทำบุญ ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว ผู้เสียหายทุกข์หนัก "พริตตี้นาเดียร์" คืนชีพ หลอกให้ลงทุน สูญเงินเป็นล้าน

ทั้งนี้ คุณนาเดีย อายุ 41 ปี เปิดเผยว่า ตนเองไม่ใช่พริตตี้ ไม่รู้ว่าคำนี้มาจากไหน คาดว่ามีคนตั้งให้ ก่อนหน้านี้ตนทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านโทรศัพท์ เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวมาโดยตลอด ยอมรับว่า มีคดีตั้งแต่ปี 2562 แต่จะบอกว่าตนฉ้อโกงคงไม่ใช่ บางคดีเราฟ้องเขา เขาฟ้องเรา เป็นการลงทุนด้วยกันแล้วไม่ประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งคู่ ทุกวันนี้เหลือ 2 คดีที่กำลังไกล่เกลี่ยในชั้นศาล ที่ผ่านมาเลือกที่จะไม่ออกสื่อเพราะคิดว่าทำไมต้องเอาเรื่องส่วนตัวมาเล่าให้ตนอื่นฟัง และสาเหตุที่คดีเยอะ จริงๆ เป็นเหตุเดียวแต่แยกกันฟ้อง

...

คุณนาเดีย กล่าวต่อว่า กรณีของน้องโม ตนไม่ได้เป็นคนชวนลงทุน และไม่อยากพาดพิงถึงคนกลาง เรื่องเริ่มจาก อดีตแฟนของตนไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ซึ่งตนก็ไปทำบุญถือศีลด้วยเพราะมีพระอาจารย์ทัก แล้ววันนั้นนั่งทานข้าวกัน แล้วน้องโมได้เงินมาก้อนหนึ่งก็อยากจะลงทุนด้วย ซึ่งตนก็แชตไปหาน้องว่า ไม่อยากทำเพราะตนเคยมีข่าวฟ้องร้องกันกับเพื่อน แต่ถ้าจะทำจริงต้องผ่านทนายทั้งหมด

โดยเรื่องลงทุนเป็นการลงทุนหุ้นสลากฯ คือ 1 หุ้นคือ 1 ล้านบาท แต่น้องโมมี 5 แสนบาท อีก 5 แสนให้ตนออกให้ก่อนแล้วค่อยมาแบ่งครึ่งกัน ซึ่งเรื่องโควตาสลากฯ นั้น รุ่นพี่ของตนทำอยู่แล้ว ความจริงก็คือความจริง ยืนยันว่า น้องโมมาขอลงทุนเอง และตนได้ปฏิเสธไป 3-4 ครั้ง จนคนกลางมาช่วยพูดแนะนำ

ในตอนแรกน้องโมมาลงทุน 2 แสน ตอนหลังเพิ่มอีก 1 เป็น 3 แสน ส่วนเรื่องรถเบนซ์ น้องบอกว่าน้องได้เงินมาก็อยากได้รถก็มาปรึกษากับตน ซึ่งตนก็ได้แนะนำ โดยรถคันแรกเป็นของรุ่นพี่ แต่ตอนจะดูรถเหมือนน้องลังเล ซึ่งฝ่ายที่จะขายเขาก็อยากได้เงินมัดจำ สุดท้ายจึงไม่ได้ซื้อ จนมาครั้งที่ 2 ตนได้แนะนำรถอีกคัน เป็นรถของครอบครัวตน หากน้องสนใจจะลดให้เหลือ 2.3 ล้าน ซึ่งน้องโมจ่ายเงินมา 3 แสนบาท เรื่องมีการนัดคุยกันช่วงสิ้นเดือนเมษายน แต่มาเกิดเรื่องก่อน ยืนยันว่าตอนนี้น้องโมติดเงินตน 5 แสนบาท โดยในวันพรุ่งนี้ (4 พฤษภาคม 2566) ตนกับทนายจะไปที่ สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี

คุณนาเดีย กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นการฟ้องร้องต่างๆ ทำให้แม่ของอดีตแฟนไม่ไว้ใจ จนเลิกกับแฟน และตอนนี้ตนตั้งท้อง 10 วีก หรือ 2 เดือนครึ่ง ซึ่งตอนที่เลิก อย่างไรก็ตาม ระหว่างดำเนินรายการได้มีการให้คุณนาเดียใช้ที่ตรวจครรภ์ด้วย

ด้าน ทนายแพม ทนายความของคุณนาเดีย เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนดูเรื่องคดีของคุณโม เพียงคดีเดียว ส่วนคนอื่นที่อ้างว่าโดนหลอกยังไม่มีใครแจ้งความ

ทั้งนี้ คุณโม ผู้ร้องเรียน - คู่กรณีของนาเดีย ได้โฟนมาในรายการ เปิดเผยว่า เริ่มแรกตนเจอกับนาเดียที่วัดและรู้จักผ่านแม่พร ซึ่งแม่พรชวนไปลงทุนกับนาเดียด้วยเจตนาดี โดยนาเดียมีการพูดในเชิงโน้มน้าว รวมทั้งมีการอ้างถึงเจ้าของแพลตฟอร์มขายลอตเตอรี่ออนไลน์ชื่อดังแห่งหนึ่ง  โดยมีหลักฐานเป็นแชตที่คุยกัน ส่วนที่มีการแจ้งความทางแม่ของอดีตแฟนนาเดีย เพราะเป็นชื่อเจ้าของบัญชีที่โอนเงิน

ในส่วนของเงิน 5 แสนคือการลงทุน อีก 5 แสนในการซื้อรถ แต่ตนไม่สบายใจเลยขอเงินคืน ซึ่งเขาโอนคืน 2 แสน จึงเหลือเงินที่เขา 8 แสน ส่วนที่บอกว่า กู้เงิน ตนไม่มีการเซ็นเอกสารเงินกู้

คุณโม กล่าวต่อว่า เรื่องที่ตนต้องการคือ ต้องการพิสูจน์ว่าตนไม่ได้ไปกู้เงิน แล้วไม่ได้ไปขอเขาลงทุน แต่มีคนกลางตามที่ได้แจงไป และต้องการเงินคืน 8 แสน 

ทั้งนี้ คุณนาเดีย กล่าวเพิ่มเติมว่า น้องโมติดหนี้ตน จากการที่ให้ตนออกเงินให้ก่อนเรื่องสลากฯ 5 แสนบาท ส่วนเรื่องเงินที่น้องโมเรียกร้องมา 8 แสน จริงๆ ตนกับน้องไม่มีปัญหากัน ยินดีเจอกันพรุ่งนี้ (4 พฤษภาคม 2566) ที่ สภ.หนองเสือ เวลา 13.00 น. ส่วนในเรื่องการทำบุญ ใครมั่นใจว่าให้เงินทำบุญมา ขอให้ปรากฏตัวแล้วไปแจ้งความเอาผิดได้เลย เงินที่ได้มาตนแกะซองรวมเงินถวายวัดไปแล้ว มีหลักฐานทั้งหมด ยืนยันว่า ตั้งแต่อดีตหรือปัจจุบันไม่เคยหลอกใคร แต่เป็นการลงทุน