ที่มาของ “ปัญจตันตระ” ชุดนิทานเอกของโลก ที่่เล่าต่อๆกันมากว่าสองพันปี...คือหลักสูตรเร่งรัด สอนรัชทายาท ผู้ไม่มีศิลปวิทยา 18 ประการ ให้พร้อมขึ้นบัลลังก์ราชา บริหารบ้านเมืองได้ ในเวลาหกเดือน
(ปัญจตันตระ อาเธอร์ ดับเบิลยู ไรเดอร์ แปลจากต้นฉบับสันสกฤต ศักดา วิมลจันทร์ แปลเป็นไทย สำนักพิมพ์พื้นฐาน พ.ศ.2551)
ที่ใช้คำว่า ชุดนิทาน เพราะเป็นนิทาน ที่่ผูกเรื่องซ้อนนิทานต่อๆกันไป เรื่องหนึ่งมีจุดมุ่งหมายให้แง่คิดหนึ่ง
เรื่องที่ 17 จิ้งจอกสีคราม เริ่มต้นว่า ยังมีจิ้งจอกตัวหนึ่ง อาศัยอยู่ในถ้ำในป่าชานเมืองแห่งหนึ่ง พลบค่ำวันหนึ่ง ความหิวจนแสบไส้ ชักนำมันเข้าไปหาอาหารในเมือง โชคร้าย ยังไม่ได้อาหารตกถึงท้อง มันเจอหมาเมืองฝูงใหญ่
ทั้งผิดสีผิดกลิ่นผิดที่ผิดทาง มันถูกรุมไล่กัด จิ้งจอกวิ่งหนี เข้าไปในเขตบ้านของช่างย้อมผ้า
หมาเมืองยังตาม จิ้งจอกจวนตัวกระโดดไปในโอ่งใส่สีครามย้อมผ้า หลบซ่อนอยู่จนหมาเมืองผ่านเลยไป เมื่อแน่ใจว่าพ้นภัย จิ้งจอกจึงกระโดดจากโอ่งครามกลับที่อาศัย
บัดนี้ ทั้งเนื้อตัวของเจ้าจิ้งจอก กลายเป็นสีน้ำเงินคราม ทำความแปลกประหลาดให้สัตว์ทั้งหลาย สัตว์บางตัวเจอมันถึงกับตกใจวิ่งหนี ข่าวจิ้งจอกสีคราม โจษขานกระพือแพร่หลายไปทั้งป่า
สัตว์อื่นๆ ก็ตกอกตกใจ “โอ โอ! มีสัตว์ประหลาดเข้ามาอยู่ในป่าของเรา ไม่รู้ว่ามาแต่ไหน ไม่รู้ว่าจะมาทำอะไร ไม่รู้ว่าจะร้ายกาจอย่างไร พวกเราอย่าอยู่เลย หนีไปด้วยกันดีกว่า”
ฝ่ายเจ้าจิ้งจอกสีคราม เมื่อได้เห็นความตื่นกลัวของสัตว์ทั้งหลาย ก็ได้โอกาสประกาศเสียงก้อง
“องค์อินทร์ทรงทราบ ป่าแห่งนี้ยังไม่มีผู้ปกครองจึงส่งข้ามา พวกเจ้าจะหนีหน้าข้าไปทำไม สู้หันมาอยู่ด้วยกันอย่างสงบ ภายใต้อาณาเขตในความคุ้มครองของข้า ไม่ดีกว่าหรือ?”
...
ได้ยินดังนั้น สัตว์ใหญ่น้อยก็โค้งคำนับ “นายท่าน จงรับพวกเราเป็นบริวาร แจ้งภาระหน้าที่ให้พวกเราได้ทำ”
เจ้าจิ้งจอก ตั้งสิงโตเป็นมหาอำมาตย์ดูแลกิจการทั้งปวง เสือเป็นเจ้ากรมวัง ดูแลความเรียบร้อยในที่พำนัก เสือดาวเป็นองครักษ์ ช้างเป็นทวารบาล วานร เป็นผู้อัญเชิญฉัตรเครื่องหมายผู้นำ
แต่ถึงหมาจิ้งจอก พวกเผ่าเหล่ากอเดียวกับตัวมัน มันมีเหตุผลลึกๆในใจ ผลักไสไล่ออกจากบริเวณ
นับแต่นั้น เจ้าจิ้งจอกก็เสพสุขสำราญ ในฐานะเจ้าป่า
จนถึงวันหนึ่ง เจ้าป่าสีคราม นอนเอกเขนกโดยมีบริวารแวดล้อมพร้อมหน้า ทันทีนั้น มีเสียงของหมาจิ้งจอกหอนแว่วมาแต่ไกลๆ
โดยความผูกพันของเผ่าพันธุ์เดียวกัน พลันร่างสีครามของเจ้าจิ้งจอกก็สั่นเทิิ้ม น้ำตาไหลพราก มันลุกขึ้นนั่ง ส่งเสียงร้องโหยหวน ขานตอบไปตามสัญชาตญาณเดิม
ทันทีนั้น สิงโตอำมาตย์ใหญ่ และสัตว์ทั้งหลาย ก็ได้ตระหนัก แท้จริง นายของมัน คือหมาจิ้งจอกธรรมดา ไม่ใช่สัตว์วิเศษ ที่เทพประทานมาจากที่ไหนเลย
สัตว์ร้าย ทั้งหลายขยับเขี้ยวเล็บ ส่งเสียงคำราม เจ้าจิ้งจอกขยับจะเผ่นหนี แต่ก็ช้าไป มันถูกจับฉีกร่างออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ถึงแก่ความตาย ณ ที่นั้น
นิทานเรื่องนี้ เฉพาะตอนนี้เจตนาสอนให้รู้ว่า ผู้ใดที่หลีกลี้หนีมิตร ก็จะประสบชะตากรรมเช่นนี้
แต่หากใช้เป็นนิทานการเมือง แง่มุมคำสอนก็ควรเปลี่ยนไป ขึ้นชื่อ ว่าผู้นำต้องมีธรรมชาติของความเป็นผู้นำในทุกสถานกรณ์ หากนำมวลชนผ่านเภทภัยร้ายแรงไปได้โดยไม่บอบช้ำเกินไปก็ควรได้รับชูมือ
หากล้มเหลว แน่ล่ะ ก็ต้องหลีกทางให้คนที่เก่งกว่าแกร่งกว่า...ดื้ออยู่ก็คงไม่ต่างจากเจ้าจิ้งจอกสีคราม ผู้นำที่ทำแค่เห่าหอนได้ โหยหวนเป็น.
กิเลน ประลองเชิง