ต้น พ.ศ.2563 ทรัมป์ประณามการทำงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ว่า บริหารงานผิดพลาดและปกปิดสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างไปทั้งโลก แล้วก็ประกาศยุติให้งบสนับสนุนเงินแก่ WHO ด้วยข้อหาล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่หลักของตนเอง แถมกล่าวหาว่า WHO เป็นหุ่นเชิดของจีน
สหรัฐฯและเครือข่ายตะวันตกเรียกร้องให้หาต้นตอการระบาดของไวรัสมรณะ โดยเฉพาะที่นครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐ ประชาชนจีน ซึ่งเป็นเมืองแรกที่ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ปรากฏขึ้น
14 มกราคม 2564 คณะผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก 10 คน เดินทางจากสิงคโปร์ถึงนครอู่ฮั่น หลังจากกักตัว 14 วันตามมาตรการป้องกันโรคระบาดแล้วก็ลงพื้นที่สอบสวนที่ตลาดหัวหนาน แหล่งค้าสัตว์ป่าและอาหารทะเลซึ่งทั่วโลกตะโกนด่าว่านี่คือแหล่งกำเนิดการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019
คณะผู้เชี่ยวชาญของ WHO ใช้เวลาอีกเกือบ 4 ชั่วโมงที่สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเพื่อศึกษาไวรัสหลังเกิดการระบาดของโรคซาร์ส (SARS) ช่วง พ.ศ.2545-2546 และเป็นสถาบันฯ ที่มีระบบความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งลงพื้นที่สอบสวนตามห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์อื่นของรัฐ รวมทั้งศูนย์ควบคุมโรคที่นครอู่ฮั่นด้วย
9 กุมภาพันธ์ 2564 นายปีเตอร์ เบน เอมบาเรค ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อจากสัตว์และอาหารปลอดภัยขององค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญทีมนี้ แถลงผลการสอบสวนว่าโควิด–19 น่าจะมีจุดเริ่มต้นมาจากค้างคาว แต่ที่น่าสนใจก็คือ ค้างคาวที่ว่าไม่น่าจะมาจากนครอู่ฮั่น และไม่พบว่ามีการระบาดของโควิด–19 เป็นวงกว้างในจีน ก่อนที่จะค้นพบไวรัสชนิดนี้ในนครอู่ฮั่นในเดือนธันวาคม 2562
ทรัมป์พยายามยัดข้อหาให้จีนหลายครั้ง ไม่เพียงแต่ใช้คำว่า ไวรัสจีน หรือไวรัสอู่ฮั่น โจมตีจีนเท่านั้น เดือนพฤษภาคม 2563 แกยังออกมาบอกกับโลกว่า แกเห็นหลักฐานคาตาว่าเชื้อโควิด-19 เกิดขึ้นที่ห้องแล็บของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น
...
แต่นายเอมบาเรค หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ก็ทำให้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์หน้าแตก เพราะแกแถลงว่า ข้อกล่าวหาที่บอกว่าโควิด-19 หลุดจากห้องทดลองเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ แถมสำทับว่าทีมงานของแกก็ตัดเรื่องนี้ ไม่สืบสวนประเด็นนี้ต่อไป
ขณะที่ผมกำลังรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพ มีผู้ติดเชื้อโควิด–19 ทั้งโลก 107 ล้านคน ตายไปแล้ว 2.35 ล้าน แถมยังระบาดระลอก 2 ระลอก 3 ระลอก 4 ในหลายประเทศ นอกจากโลกต้องเร่งเรื่องการพัฒนาวัคซีนและการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนแล้ว การสืบสวนหาต้นตอสาเหตุของโควิด–19 ก็เป็นเรื่องที่โลกให้ความสำคัญ
นายเอมบาเรคบอกว่า เส้นทางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ข้ามมาสู่มนุษย์ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ การผ่านสายพันธุ์ที่เป็นตัวกลาง นอกจากนั้น แกยังบอกว่าโควิด-19 อาจจะแพร่มาทางอาหารแช่แข็งที่ซื้อขายเพื่อการบริโภค
นายแพทย์ เหลียง วั่นเหนียน ผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมาธิการสาธารณสุขของจีนแถลงข่าวว่า โควิด-19 น่าจะมีอยู่ในภูมิภาคอื่นอยู่แล้ว ก่อนที่จะถูกระบุอย่างเป็นทางการว่ามาถูกพบในนครอู่ฮั่น สื่อตะวันตกหลายสำนักพยายามบอกว่าจีนปกปิดข้อมูลของการระบาด ทำลายหลักฐาน หรือจำกัดการเข้าถึงข้อมูลบางอย่างก่อนที่คณะผู้เชี่ยวชาญ WHO จะเข้าไป แถมยังดิสเครดิตว่าองค์กรนี้กำลังถูกอิทธิพลของจีนเข้าครอบงำ จึงอาจจะทำให้ผลของการสอบสวนออกมาโดยที่ไม่เหมือนกับที่ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ก่อนหน้านี้
ขอเรียนว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของคนทั้งโลก ผมคิดว่า WHO ไม่กล้าบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อหวังผลประโยชน์เป็นแน่
การแถลงข่าวคราวนี้
มีคนที่เป็นอดีตประธานาธิบดีต้องไปหาหมอด่วน
เพื่อไปให้หมอเย็บหน้า
เพราะหน้าแกแตกแหกยับครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com