"นายแพทย์ปวริศ หะยีอามะ" ขอยุติบทบาท ผอ.กองประกวด นางสาวสมิหลา ยันตัดสินถูกต้อง ด้านพี่เลี้ยงนางงาม รับเสียความรู้สึก ส่งสาวงามเข้าประกวดมากว่า 10 ปี แต่ยอมจบด้วยดี
จากกรณีเกิดความวุ่นวายในการประกวดนางสาวสมิหลา 2020 รอบชิงชนะเลิศ ณ เวทีสระบัว แหลมสมิหลา จ.สงขลา เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 31 ส.ค.63 ที่ผ่านมา เนื่องจากได้มีนางงาม 5 คน ได้ขึ้นเวทีทวงถามความยุติธรรมจากคณะกรรมการถึงสาเหตุที่ตกรอบ เนื่องจากผลคะแนนมีความกังขา และเชื่อว่ามีการล็อกมงฯ เอาไว้ ทำให้รายการไม่สามารถดำเนินต่อได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วทางกองประกวดได้ตัดสินให้นำเงินรางวัลหารด้วยนางงาม 10 คนสุดท้าย แบ่งเงินรางวัลกัน ทำให้ในปีนี้ไม่มีผู้ได้รับตำแหน่งนางงามสมิหลา 2020
ซึ่งต่อมา น.ส.อรณพรรณ ณ เชียงใหม่ หรือ น้องอร สาวงามผู้เข้าประกวด สาวงามชุดชมพู ที่อยู่ในคลิป ได้เปิดใจ ยืนยันไม่มีเจตนาก้าวร้าว รุนแรง แค่อยากขอคำอธิบาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านต่อ: เปิดใจ น้องอร นางงามชุดชมพู ปัดล่มเวทีประกวดนางสาวสมิหลา 2020)
ความคืบหน้า นายแพทย์ปวริศ หะยีอามะ ผู้อำนวยการกองประกวดนางสาวสมิหลา ปี 2563 เปิดเผยว่า การประกวดนางสาวสมิหลาในปีนี้ ต่างจากทุกปี โดยเกณฑ์การตัดสินได้ยกระดับเวทีสู่สากล สโลแกนนางสาวสมิหลา ต้องสวยพร้อมใช้ มีสมองยุคใหม่ 5จี เพื่อก้าวสู่สากล และต่อยอดได้
ดังนั้น ผู้ที่จะครองตำแหน่งนางสาวสมิหลาประจำปี 2563 จะต้องเป็นผู้หญิงที่สวย มีออร่า และหน้าสดก็ต้องสวยด้วย มีทัศนคติที่ดี มีสมอง ความสามารถรอบด้าน และต้องมีความเป็นอัตลักษณ์ของสงขลา
นายแพทย์ปวริศ กล่าวว่า ในส่วนเกณฑ์การตัดสิน ก็จะดูตั้งแต่วันแรกที่เข้าประกวด และยืนยันว่าทั้งตนและกรรมการทุกคนเป็นกลาง ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้เข้าประกวดคนใด กรรมการได้พิจารณาคะแนนดีที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องปัญหาคะแนนที่หลุดออกไปว่า คนได้คะแนนน้อย ได้เข้ารอบ ส่วนคนที่คะแนนสูงตกรอบนั้น ใบคะแนนไม่ใช่ใบจริง เป็นเพียงการโหวตของกรรมการทั้ง 9 คน ที่เลือก 5 คนสุดท้ายมา แต่ใบคะแนนจริง คือ สัดส่วนความสวย 60 เปอร์เซ็นต์ การตอบคำถามและทัศนคติอีก 40 เปอร์เซ็นต์ และยังต้องมาประชุมสรุปผลโหวตกันอีกครั้ง
...
นายแพทย์ปวริศ เผยต่อว่า เหตุการณ์นี้ตนเสียใจมาก และขอถอนตัวจากการเป็นผู้จัดการประกวดนางสาวสมิหลา เพราะก่อนหน้านี้ถูกเชิญให้มาเป็นผู้อำนวยการกองประกวด จากความสำเร็จในการประกวดมิสแกรนด์สงขลา เพื่อที่จะให้เป็นเวทีนางงามที่ก้าวเข้าสู่สากล
สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ เป็นการประกวดรอบ 10 คนสุดท้าย และหลังเกิดปัญหามีการชี้แจงทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้ว และจบลงด้วยดี ส่วนเรื่องเงินรางวัลลำดับที่ 1-5 ซึ่งมีเงินรางวัล 2 แสนบาท ได้หาร 10 แบ่งกันไปคนละ 2 หมื่นบาท ส่วนผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ได้เพิ่มอีกคนละ 1 หมื่นบาท
ด้าน นายมณฑล พี่เลี้ยงนางงาม เปิดเผยว่า การประกวดนางสาวสมิหลาเป็นเวทีใหญ่ของภาคใต้ ซึ่งตนได้ส่งนางงามเข้าประกวดมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี เพราะเป็นสัญญาใจ แต่ที่เป็นปัญหาคือ เรื่องของคะแนนที่หลุดออกมา เพราะคนที่คะแนนต่ำกลับเข้ารอบ คนที่คะแนนสูงกลับตกรอบ และทีแรกคณะกรรมการจะประกวดใหม่ในอีก 2 วัน แต่ดูแล้วพวกตนคงไม่ชนะเพราะมีเรื่องขึ้นมาแล้ว รวมทั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก จึงขอจบด้วยการแบ่งเงินรางวัลเท่าๆ กัน เพื่อความยุติธรรม
ด้าน น.ส.อรณพรรณ เปิดเผยว่า จากประสบการณ์การประกวดนางงามรู้แพ้รู้ชนะมาตลอด แต่ครั้งนี้คะแนนสูง และมั่นใจว่าตอบคำถามดี และเดินดีทุกอย่าง แต่กลับตกรอบ จึงคิดว่าเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง ในขณะที่เพื่อนนางงามอีก 2 คน ที่อยู่ในทีมเดียวกันก็บอกว่าเสียใจกับการตัดสินในครั้งนี้ แต่เรื่องนี้ได้จบลงแล้ว เนื่องจากทางคณะกรรมการได้แก้ปัญหาให้แบ่งรางวัลเท่าๆ กันทั้ง 10 คน และได้รับเงินแล้ว ซึ่งเป็นธรรมกับผู้เข้าประกวดทุกคน.