เสน่ห์ในสาระน่ารู้เรื่องเมืองจีนจากหนังสือทุกเล่ม ของจิตรา ก่อนันทเกียรติ อยู่ที่การเล่าเรื่อง เช่น...อากงถามหลาน จีนยังมีอะไรอีกไหมที่ชาติอื่นไม่มี (กระจ่างใจจีน สำนักพิมพ์จิตรา พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2545)

หลานคนหนึ่งทายว่า “ขันที” อากงว่าไม่ได้มีในเมืองจีน อียิปต์ กรีก โรม ตุรกีก็มี

เรื่อง “ขันที” อยู่ในหนังสือเล่มที่หน้าปกมีตุ๊กตาเยอะๆ บนโต๊ะข้างเตียงอากง

ขันทีคือผู้ชายที่ถูกตอนเพื่อเป็นผู้รับใช้ในพระราชวัง โดยมีความเชื่อว่า ขันทีไม่เพียงหมดกำหนัด แต่ยังหมดความโลภความมักใหญ่ใฝ่สูงที่จะชิงราชบัลลังก์

ในสมัยชุนชิว (227 ปีก่อน พ.ศ.-พ.ศ.67) เจ้าเมืองหนึ่ง นำอดีตนักโทษที่ถูกตอนมารับใช้ในวัง คนจีนเรียกขันทีว่า “ไท้ก่ำ” ไท้ แปลว่า ใหญ่ ก่ำ มีสองความหมาย คุก ตะราง และดูแลควบคุม

งานขันทีโอกาสมีอำนาจสูง บางครั้งสูงกว่าจอหงวน ที่คนมีความรู้สอบเข้า ต่อมาจึงมีคนอาสาตอนตัวเองเพื่อให้เข้าไป ขบวนการขันทียุคแรกไม่รัดกุมนัก

สมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ พระราชมารดามีสัมพันธ์กับขันทีชื่อเล่าไอ่...มีบุตรสองคน กฎระเบียบรับขันที จึงมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ สมัยราชวงศ์สุย (พ.ศ.1132-1160 ฮ่องเต้สั่งยกเลิกการมีขันที ราชวงศ์ต่อมาก็เริ่มต้นใหม่)

ต่อเนื่องไปถึงรุ่นสุดท้าย ปลายสมัยราชวงศ์เช็ง (2187-2154)

ขันทียุคสุดท้าย จีนกลายเป็นระบอบปัจจุบัน มีเรื่องบันทึกว่าร้านรับตอนคนเป็นขันที ยังมีหลายร้านตั้งอยู่ใกล้พระราชวังกรุงปักกิ่ง เมื่อตอนเสร็จ หมอจะดอง “ชิ้นส่วน” ใส่ขวดไว้ ใช้เป็นหลักฐานตอนไปสมัครงาน

“ชิ้นส่วน” จะถูกเก็บรักษาไว้จนขันทีตาย จะเอาชิ้นส่วนใส่ลงไปในโลง ด้วยความเชื่อว่า คนตายที่มีองคาพยพไม่ครบ ชาติต่อไปต้องเกิดเป็นลา

...

กระบวนการตอน และการรับขันทีมีสองระดับ

ระดับที่ 1 ตอนหมดจดเพื่อให้มั่นใจว่า จะหมดความกำหนัด คิ้วเคราหนวดจะร่วง เสียงที่เคยเป็นชายจะกลายเป็นหญิง นี่คือขันทีชั้น 1 เข้าไปรับใช้ได้ถึงพระราชฐานชั้นใน

ระดับที่ 2 จะตัดแค่ส่วนเดียว พอให้ไม่สามารถทำกิจกรรมบนเตียง ขันทีชั้น 2 รับใช้แค่พระราชวังชั้นนอก โอกาสรับใช้ใกล้ชิด เผื่อเป็นคนโปรดฮ่องเต้ก็หมดไป

ความรู้เรื่องขันทีที่ “อากง” เล่าให้ลูกหลานฟัง ยังมีต่อ แม้มีข้อเสี่ยง...แต่ก็ยังมีคนมากมายยอมรับความเสี่ยง

คนกลุ่มนี้คิดว่าการยอมสละส่วนล่างของชิ้นส่วนเล็กน้อย แลกกับการมีงานทำ เกษียณแล้วก็มีหน่วยงานเลี้ยงดู มีกินมีใช้ไปจนตายถือว่าคุ้มค่า

คนรวยระดับเศรษฐีก็ยังมีค่านิยม ยอมให้ลูกชายคนหนึ่งเข้าไปเป็นขันที หาเส้นสายในวัง เผื่อฝากฝังญาติสนิทที่เป็นผู้หญิงสวยเข้าไปเป็นพระสนม

เรื่องที่ซุบซิบแต่ก็รู้กันแซ่ด ก็คือขันทีเป็นผู้ “ขึ้นครู” เรื่องเพศศึกษาให้กับฮ่องเต้บางพระองค์เมื่อทรงพระเยาว์

เมื่อสิ้นราชวงศ์เช็ง มีบันทึกว่า ขันทีรุ่นสุดท้ายในพระราชวัง มีอยู่ราวหนึ่งพันคน

เปลี่ยนศูนย์กลางอำนาจจากราชสำนักมาเป็นรัฐบาล มีคนทุกฐานะ เจ้าสัว เศรษฐี นักปั่นหุ้น พ่อเล้าแมงดา มาเฟีย ฯลฯ...ดิ้นรนเข้าใกล้ศูนย์อำนาจ

คนพวกนี้ ไม่ต่างจากสมัยโบราณ การเมืองที่บ่นๆกันว่าวุ่นวาย ที่แท้มาจากพวกจิตไม่ว่าง...ขันทีพวกนี้เอง.

กิเลน ประลองเชิง