ภรรยาหนุ่มใหญ่ตาย 12 วัน มี 2 สาวนั่งเฝ้าศพสวดภาวนาหวังฟื้นคืนชีพ เผยเคยบอกสามีที่ป่วยเป็นต่อมลูกหมากโตให้รอคิวผ่าที่ รพ. เตือนสามีแล้วว่า อย่ากลับไปหาหมออ้อยอีก
จากกรณี หมออ้อย และ นางพุธนันท์ เฝ้าศพชายวัย 62 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ใช้ปูนขาวดับกลิ่นหลังตายมา 12 วัน เผย เชื่อพลังพระเจ้าจะทำให้ศพฟื้นคืนชีพ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 62 นางณัฐนันท์ กิตติโชคอารีนนท์ อายุ 55 ปี ภรรยาของนายสรวุฒเดชทวี อายุ 62 ปี ที่นอนอยู่ในบ้านของหมออ้อยนานถึง 12 วัน เปิดเผยว่า ตนและสามี ได้อยู่กินกันมาประมาณ 10 ปี และมีอาชีพปลูกดอกไม้ประดับและอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยสามีได้ป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากโตมาประมาณ 1 ปีกว่า
โดยตนได้พาไปรักษาตามโรงพยาบาล จนได้มารู้จากเพื่อนบ้านว่า มีสถานรับรักษา แถวนครนายก ตนจึงได้พาสามีไปเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยการรักษาในครั้งนั้น สามีได้นอนรักษาเป็นเวลา 8 วัน โดยวิธีรักษาจิตบำบัด ตนได้มาเยี่ยมและเห็นว่าสามีดูอาการไม่ค่อยดี จึงได้พากลับมาอยู่ที่บ้านไม่กี่วันสามีก็ป่วยหนัก จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลอุทัย
อย่างไรก็ตาม อาการของสามีไม่ดีขึ้น จึงได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลกว่า 1 เดือน จึงอาการดีขึ้น และหมอให้กลับมาอยู่ที่บ้าน ตนได้บอกกับสามีว่า ไม่ต้องไปรักษาที่ไหนแล้วให้รอผ่าตัดต่อมลูกหมากโตที่โรงพยาบาลเลย แต่สามีไม่เชื่อ
พร้อมทั้งขอให้ตนพากลับไปรักษาที่นครนายกเหมือนเดิม ตนจึงเกิดความน้อยใจ และเห็นว่าสามีรักตัวเองมากกว่า จนเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา สามีได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปที่อำเภอภาชี และได้ฝากรถจักรยานยนต์ไว้ที่นั่น แล้วได้นั่งรถตู้ไปจังหวัดนครนายก เพื่อไปรักษาตัว
...
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้โทรศัพท์ไปคุยด้วย แต่ฟังเสียงสามีแล้วไม่ค่อยจะดี พูดจาเหมือนเหนื่อย หลังจากนั้นวันนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับสามีได้อีกเลย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ที่นั่นก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนตำรวจโทรศัพท์มาหา และแจ้งว่าสามีเสียชีวิต ตนก็ตกใจ คิดไม่ถึงว่าสามีที่ร่างกายแข็งแรงไป แต่มาเสียชีวิตลง ทำให้เสียใจอย่างมาก
ทั้งนี้ ตอนที่สามีมีชีวิตอยู่นั้นเป็นคนดีไม่กินเหล้า ไม่เที่ยว เป็นคนรักครอบครัว ส่วนเรื่องงานศพนั้น ตนและญาติของสามีจะเดินทางไปรับผู้เสียชีวิตในวันที่ 19 ธ.ค. ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ จ.ปทุมธานี จากนั้นก็จะทำการเผาเลย โดยไม่มีพิธีสวด ส่วนเรื่องคดีนั้น ไม่ติดใจในการเสียชีวิต ปล่อยให้เป็นไปตามหน้าที่ของตำรวจดำเนินการต่อไป