คุยกันที่โรงพัก คนขับกระบะชนท้ายเก๋งจอดขวางบ้านยับ บอก ผมรับผิด หลังรอนาน เลี้ยวเข้าบ้านไม่ได้ พร้อมเจรจาค่าเสียหาย
จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Puy Narin Puttarun ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ได้มีรถกระบะคันหนึ่งขับพุ่งชนท้ายรถเก๋งหลายครั้งจนได้รับความเสียหาย ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (เปิดคลิป กระบะพุ่งชนท้ายเก๋งยับ คาดฉุนแชตบอกให้เลื่อนแล้วเงียบ)
ล่าสุด นายปรัชญา วงค์โอษฐ อายุ 40 ปี เจ้าของกระบะเชฟโรเลต กล่าวว่า ช่วงบ่ายของวันที่ 30 ตนได้ชักชวน นายวิชิต พิลาศรี อายุ 47 ปี เจ้าของรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ ผู้เสียหาย รวมทั้งเพื่อนคนอื่นๆ มาแต่งตัวแฟนซีเพื่อที่จะไปร่วมงานแข่งกีฬาสีที่อะคาเดมีที่ฝึกสอนฟุตบอลย่านแพรกษา ซึ่งลูกชายและลูกเพื่อนๆ เรียนอยู่ ซึ่งบริเวณหน้าบ้านของตนเองนั้นที่จอดรถเต็ม
...
ทั้งนี้ ตนจึงได้ขยับรถของตนไปจอดบริเวณแนวรั้วกำแพงของส่วนกลาง ซึ่งอยู่บริเวณหน้าบ้านของคู่กรณี ซึ่งตนได้ดูอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าจุดดังกล่าวไม่ได้ขวางทางเข้าบ้านใคร และบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าวก็สามารถถอยรถเข้าออกได้ก่อนที่จะให้นายวิชิต นำไปจอดต่อท้ายรถของตนก่อนที่ตนทั้งสองจะอาศัยรถของเพื่อนคนอื่นเดินทางไปร่วมงาน
กระทั่ง เวลาประมาณ 21.00 น. เพื่อนบ้านได้โทรศัพท์บอกว่ารถของตนและของนายวิชิตถูกชนจึงได้รีบเดินทางกลับมา และไปแจ้งนิติของหมู่บ้านเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่ปากซอยจนทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีชายเดินเข้าออกมาจากบ้านหลังที่ 2 ในซอยที่เกิดเหตุก่อนที่จะชายอีก 3 คนเดินตามหลังมาพร้อมด้วยอาวุธมีดยาวเดินวนเวียน 3-4 รอบ
ไม่นานก็มีรถยนต์กระบะสีดำขับเข้ามา และถอยหลังตั้งลำก่อนที่จะขับพุ่งชนท้ายรถยนต์เก๋งของเพื่อนตนที่จอดอยู่ท้ายรถตนอย่างแรงก่อนที่จะถอยหลังรถและพุ่งชนซ้ำอีกครั้งและขับหลบหนีออกไปทางปากซอยหน้าหมู่บ้าน
นายปรัชญา กล่าวต่อว่า ตอนหลังจึงทราบว่าคนที่ขับรถชนนั้น คือ เพื่อนของนายวรรณลภ เจ้าของบ้านที่ตนได้นำรถไปจอดตรงข้ามจึงได้เดินทางมาแจ้งความเพื่อให้ผู้ที่ก่อเหตุนั้นเข้ามารับผิดชอบกับรถทั้งสองคันที่ได้รับความเสียหาย
นายวิชิต เจ้าของรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ กล่าวว่า หลังจากตนมาที่บ้านเพื่อนก็ได้นำรถไปจอดบริเวณดังกล่าวตามที่เพื่อนบอกซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าบริเวณนั้นจอดได้หรือไม่ เนื่องจากไม่ใช่คนในหมู่บ้าน และก็ไม่ทราบว่านายปรัชญาเพื่อนของตนมีปัญหากับเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมาก่อน
ทั้งนี้ ตนก็อยากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบค่าเสียหาย เนื่องจากรถของตนได้รับความเสียหายอย่างมาก ตนมองว่าคู่กรณีก็ทำมากเกินไป หากมีลูกของตน หรือมีคนอยู่ในรถอาจจะเกิดความสูญเสีย หรือมีคนบาดเจ็บโชคดีที่ไม่มีคนอยู่ในรถ แม้จะมีประกันภัยชั้น 1 แต่ก็ต้องรอคู่กรณีออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากรถตนเองได้รับความเสียหายหนักมาก
มันขับเข้าบ้านไม่ได้จริงๆ
ล่าสุด นายภัสกร เพชรชำลิ อายุ 42 ปี เจ้าของรถกระบะอีซูซุ ซึ่งเป็นคนขับรถพุ่งชน และนายวรรณลภ ปิ่นมอญ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกกล่าวหา ได้เดินทางเข้ามาที่สภ.บางปู พร้อมกับเข้าตกลงค่าเสียหายกับนายวิชิต เจ้าของรถเก๋ง
โดย นายวิชิต ได้ยื่นข้อเสนอให้นายภัสกร ซื้อรถคันใหม่ให้ หรือจะยอมชดใช้เงินค่าซ่อมเป็นเงิน 5 แสนบาท ส่วนรถกระบะเชฟโรเลตนั้น นายปรัชญาขอให้คู่กรณีซ่อมให้ตามค่าเสียหายตามมูลค่าที่อู่ตีราคา
ทั้งนี้ หลังจากทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยนานกว่า 1 ชม.แต่ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายภัสกร และ นายวรรณลภ ข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ก่อนที่จะให้ทั้งสองฝ่ายมาทำข้อตกลงค่าเสียหายในวันอาทิตย์หน้า
นายวรรณลภ เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้วานให้นายภัสกร เพื่อนขับรถกระบะอีซูซุเข้าที่หมู่บ้าน เพื่อนที่จะมาช่วยขนของที่บ้าน แต่เมื่อนายภัสกรมาถึง พบว่ามีรถทั้งสองคันจอดอยู่ในลักษณะกีดขวางทางเข้าบ้านจนทำให้นายภัสกรไม่สามารถถอยรถเข้าไปในที่จอดรถภายในบ้านได้
ต่อมาตนจึงได้ไปตามหาเจ้าของรถซิตี้ และรถกระบะที่บ้านของนายปรัชญา เพื่อที่จะมาให้ขยับรถ แต่ก็ไม่มีคนอยู่จึงได้พยายามติดตาม และสอบถามเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ว่า พบเห็นเจ้าของรถหรือไม่รวมถึงได้แจ้งเข้าไปในกลุ่มไลน์ของนิติหมู่บ้าน แต่ยังเงียบจนเวลาผ่านไปกว่า 1 ชม.นายภัสกร เพื่อนของตนซึ่งจอดรถกระบะอีซูซุรออยู่นานจึงเกิดความโมโหก่อนตัดสินใจขับรถกระบะพุ่งชนท้ายเก๋งคันดังกล่าว
นายภัสกร กล่าวว่า ตนเป็นคนขับรถพุ่งชนจริง โดยทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และโมโหแทนเพื่อนเท่านั้น ในส่วนค่าเสียหายนั้นตนเองยินดีที่จะซ่อมรถให้ตามที่ควรเนื่องจากตนเองนั้นมีประกันประเภท 3 ส่วนในภาพที่เห็นตนเองถืออาวุธนั้นไม่ใช่มีดแต่เป็นเหล็กแป๊บ ซึ่งตนเองติดไว้ในรถอยู่แล้ว