เผาแล้วศพแรก เหยื่ออาคารถล่ม 7 ศพ ที่ภูเก็ต ขณะที่พ่อผู้บาดเจ็บเผย ลูกเจอเหตุการณ์เฉียดตายมาแล้ว 3 ครั้ง เชื่อครั้งนี้ที่รอดมาได้ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ "เห้งเจีย" ช่วยไว้

จากกรณี เหตุอาคารก่อสร้างปั๊มน้ำมันถล่ม บริเวณ ม.1 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย รอดตาย 2 ราย สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดมาจากการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ทางเทศบาลตำบลศรีสุนทร ได้สั่งระงับการก่อสร้างไปแล้ว แต่ยังมีการก่อสร้างต่อ กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า วันที่ 24 พ.ย.62 เมื่อเวลา 12.05 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สำนักสงฆ์กิ่งแก้ว ซอย 10 ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายจิระชัย วงษ์หาจักร อายุ 37 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า บริเวณหน้าโลงศพ มีนายปัญโญ หมวดสิงห์ อายุ 64 ปี กำลังเป่าแซกโซโฟนอยู่ทั้งน้ำตา ทำให้ผู้เข้าร่วมพิธีต่างมีน้ำตาไปด้วย

นายปัญโญ เปิดเผยว่า ตนเป็นพ่อของ นายจตุรวิทย์ หมวดสิงห์ หนึ่งในผู้บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว และที่ตนมาเป่าแซกโซโฟน เพราะ นายจิระชัย เป็นเพื่อนสนิทกับลูกชายของตน และยังเป็นลูกศิษย์ของตน ซึ่งตนสอนตีกลองจนชำนาญ ผู้ตายก็เหมือนกับลูกของตนคนหนึ่ง 

ซึ่งวันนี้ มาเป่าแซกโซโฟน 6 เพลง ได้แก่ เพลงเล่าสู่กันฟัง, ถ่านไฟเก่า, เงียบคนเดียว, เหนื่อยไหม, Besam Mueno และเพลง Guaslione เพื่อเป็นการส่งวิญญาณครั้งสุดท้าย

เผาศพแรก เหยื่ออาคารถล่ม 7 ศพ ที่ภูเก็ต
เผาศพแรก เหยื่ออาคารถล่ม 7 ศพ ที่ภูเก็ต

...

นายปัญโญ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทำให้ลูกตนรอดมาได้ เชื่อว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลักษณะเป็นลิงตัวใหญ่ คล้าย "เห้งเจีย" ผลักลูกชาย จนเอาชีวิตรอดมาได้หวุดหวิด โดยนายจตุรวิทย์ ลูกชาย เล่าให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุ ขณะที่กำลังขึ้นบันไดไปติดกระจกของอาคาร โดยมี นายจิระชัย ผู้ตายจับบันไดอยู่บริเวณด้านล่าง

จากนั้นลูกชายได้ยิงเสียงดังเหมือนคล้ายเสาหัก ไม่เกิน 3 วินาที หลังสิ้นเสียง อาคารก็ถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว ทับร่างผู้ตายเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกชาย ช่วงที่สิ้นเสียงคล้ายเสาหัก มีลิงตัวใหญ่มาผลักออก ทำให้รอดตาย แต่ลูกชายก็บาดเจ็บ กระดูกเชิงกรานร้าว ซี่โครงหัก เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ แต่สามารถพูดคุยได้ปกติ

สำหรับเหตุการณ์เฉียดตายของลูกชาย เกิดมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกอุบัติเหตุที่จันทบุรี กระเด็นขึ้นบนกระโปรงรถ ครั้งที่ 2 อุบัติเหตุที่หน้าปั๊มในพื้นที่ ต.กะรน ถูกชนร่างกระเด็นไปตกในป่า แต่ก็รอดมาได้ ซึ่งหลังจากที่ลูกชายหายดีแล้ว ก็ได้ไปทำหน้าที่เป็นม้าทรงของอ๊ามจุ้ยตุ๋ย เต้าโบเก้ง โดยได้เป็นม้าทรงมาแล้ว 15 ปี ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่

ขณะที่หลังเกิดเหตุ ลูกสาวของตนอีกคนได้โทรหาอาจารย์ที่นับถือ เพื่อสอบถามตามความเชื่อ โดยอาจารย์บอกว่า จุดที่เกิดเหตุมีวิญญาณอยู่จำนวนมาก เคยมาห้ามว่าอย่าสร้างต่อ และทำให้เกิดทรายกองใหญ่ถล่มมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่การก่อสร้างก็ยังไม่หยุด กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น 

ด้าน นางสาวอำภา วงษ์หาจักร พี่สาวของนายจิระศักดิ์ ผู้ตาย เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันฌาปนกิจน้องชายของตน ซึ่งน้องชายตนเป็นเด็กดี ทำแต่งาน เป็นเสาหลักของครอบครัว เงินที่ได้ทุกบาทก็จะมาจุนเจือครอบครัว ขณะนี้แม่ก็มาป่วย เพิ่งออกจากโรงพยาบาล พ่อก็ไม่มีรายได้

วันเกิดเหตุก่อนที่น้องชายจะออกไปทำงาน พ่อบอกว่าไม่มีเงินจ่ายค่าไฟฟ้า น้องชายบอกว่าเย็นนี้จะเบิกเงินจากนายจ้างมาจ่ายค่าไฟให้ ก็ไม่คิดว่าน้องจะต้องมาจบชีวิตแบบนี้ 

หลังเกิดเหตุ ตัวแทนของบริษัทได้มาจ่ายเงินค่าทำศพให้ครอบครัวจำนวน 5 หมื่นบาท และเงินค่าโลงศพอีก 15,000 บาท ส่วนอื่นๆ ก็ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่หลังจากนี้ ครอบครัวคงลำบาก เพราะขาดเสาหลักไปแล้ว

นางสาวเบญจมาภรณ์ หมวดสิงห์ พี่สาวของนายจตุรวิทย์ เปิดเผยว่า น้องชายมีลูก 2 คน กำลังเรียนอยู่ทั้งคู่ น้องชายเป็นเสาเหลักของครอบครัวของเขา ขณะนี้น้องชาย รักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมชาย โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เนื่องจากกระดูกเชิงกรานร้าว ซี่โครงหัก 3 ซี่ ขณะนี้ยังไม่สามารถเคลื่อนไหวตัวได้ และไม่รู้ว่าจะรักษาตัวไปอีกนานแค่ไหน จึงหายปกติ

หลังจากเกิดเหตุทางตัวแทนของบริษัท นำเงินมาช่วยเหลือเบื้องต้น 10,000 บาท ส่วนน้องชายก็ให้ตนมาช่วยเหลือการจัดการงานศพเพื่อนให้เต็มที่ ก็ช่วยทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ เพื่อเป็นการส่งเพื่อนของน้องชายขึ้นสวรรค์.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง