เริ่มเดินหน้าทุกอำเภอปีการศึกษา 63 ลุยจัดกลุ่มอาชีวะรองรับธุรกิจ

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 หลายประเทศได้พูดถึงประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพ รวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้มีการพูดถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยด้วย

ขณะเดียวกันก็ได้มีหลายประเทศที่ได้พูดถึงปัญหาที่เราจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข เช่น เรื่องการจัดการศึกษาที่ยังต้องปรับปรุง เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็ตรงกับแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ ศธ.หวังว่าการวางรากฐานด้านการศึกษาในเรื่องต่างๆ จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานได้ เพราะในอนาคตประเทศจะต้องเตรียมตัวเรื่องการลงทุนที่จะมีเพิ่มมากขึ้นจากการเปิดประเทศ ดังนั้น คนของเราก็จำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน ทั้งทักษะอาชีพ และทักษะด้านภาษา

รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า สำหรับการพัฒนาทักษะด้านภาษานั้น ตนตั้งใจว่าในระยะเวลาสั้น โรงเรียนประจำอำเภอจะต้องสอน 2 ภาษา ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนในลักษณะนี้ แต่อาจจะยังขาดความเข้มข้น ไม่สามารถเห็นผลเชิงประจักษ์ได้ ถ้าหากว่ามีการจัดสรรงบประมาณลงทุนไปในส่วนของการสอนภาษาที่ 2 มากขึ้น จะส่งผลให้การวางฐานเรื่องทักษะภาษาของเราดีขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากงบฯของ ศธ.ที่มีในปัจจุบันยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้ในทุกโรงเรียนทั่วประเทศ แต่เราจะพยายามที่จะขับเคลื่อนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจะเริ่มที่กลุ่มโรงเรียนประจำอำเภอประมาณ 2,000 แห่ง ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ก่อน ซึ่งจะจัดการเรียนการสอน 2 ภาษา ตั้งแต่ชั้นปฐมวัยเป็นต้นไป ส่วนการดำเนินงานในปีการศึกษา 2564 นั้น เราได้เตรียมงบฯปี 64 เพื่อรองรับเรื่องนี้แล้ว

...

“นอกจากนี้ ในส่วนของอาชีวศึกษาก็จำเป็นที่จะต้องพัฒนาทักษะอาชีพ และทักษะภาษาควบคู่กันไป ซึ่งเร็วๆนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะสรุปข้อมูลการจัดกลุ่มวิทยาลัยให้เข้ากับกลุ่มธุรกิจต่างๆมาให้ผมดู เพื่อที่จะสร้างศูนย์ฝึกอบรมที่มีคุณภาพในแต่ละสายงานให้เป็นหลัก อีกทั้งการจัดวิทยาลัยจะมองถึงบริบทในพื้นที่ด้วย เพราะต้องมีสถานที่ฝึกงานที่ใกล้เคียง ซึ่งจะเป็นการใช้งบฯที่ตรงกับความต้องการ และยังสามารถผลิตแรงงานได้อย่างมีคุณภาพ” นายณัฏฐพลกล่าว.