(ภาพจาก : NASA / ESA and JPL Wikimedia)
ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์นอกระบบเพิ่มมากขึ้น โดยพบไปแล้ว 4,000 ดวงที่โคจรรอบดาวฤกษ์หลากหลายประเภท เทคนิคที่ใช้ค้นหาและกำหนดลักษณะของดาวเคราะห์นอกระบบเหล่านี้ขึ้นอยู่กับรังสีแม่เหล็กไฟฟ้า แต่ก็จำกัดอยู่ในบริเวณใกล้เคียงระบบสุริยะและบางส่วนของกาแล็กซีทางช้างเผือก
ล่าสุด นักวิจัยจากสถาบันมักซ์ พลังค์ ด้านฟิสิกส์ความโน้มถ่วง และสถาบันอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในเมืองพ็อตซ์ดัม เยอรมนี ร่วมกับคณะกรรมการพลังงานทดแทนและพลังงานปรมาณูแห่งฝรั่งเศส ในกรุงปารีส รายงานว่าระบบไลซาหรือเสาอากาศอวกาศเลเซอร์อินเตอร์เฟอร์โรมิเตอร์ (Laser Interferometer Space Antenna : LISA) ที่จะเปิดใช้ในปี พ.ศ.2577 นั้น แม้ว่าจะมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการควบรวมของหลุมดำมวลมหาศาล แต่ระบบไลซาอาจค้นพบดาวเคราะห์คล้ายโลกอีกหลายร้อยดวงที่โคจรรอบดาวแคระขาว ซึ่งเป็นดาวอายุมากคล้ายดวงอาทิตย์ ไลซาจะตรวจวัดคลื่นความโน้มถ่วงจากดาวแคระขาวนับพันดวง ช่วยทำให้ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบได้
นักวิจัยเผยว่าระบบไลซาจะเอาชนะข้อจำกัดบางประการของเทคนิคที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คาดการณ์ว่าน่าจะตรวจพบดาวเคราะห์นอกระบบที่มีมวลเทียบเท่าโลกได้ถึง 50 ดวง รวมถึงสอดส่องไปได้ทุกที่ในกาแล็กซีทางช้างเผือกและในกาแล็กซีเพื่อนบ้านอย่างเมฆแมกเจลแลน.