สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น สั่งตัดเงินเดือนตำรวจหญิง ลงโทษที่เล่นแอปหาคู่ นัดเดต ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว ข้อหามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับอาชีพตำรวจ...


วันที่ 18 เม.ย.62 นายธนากร ใจสุขสกุลดี ล่ามภาษาญี่ปุ่น โพสต์แปลข่าวที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นผ่านเฟซบุ๊ก Thanakorn Jaisuksakuldee ว่า ข่าวรายงานมาจากจังหวัดยามะกุจิ เมืองทางตอนใต้สุดของเกาะฮอนชูว่า สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งของจังหวัดได้พิจารณาลงโทษจ่าสิบตำรวจหญิงอายุยี่สิบกว่าๆ คนหนึ่ง ด้วยการตัดเงินเดือนราวสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเวลาหนึ่งเดือน

ในข้อหามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับอาชีพตำรวจ ซึ่งถือเป็นอาชีพราชการอันทรงเกียรติ เรื่องของเรื่องก็คือ เธอใช้สมาร์ทโฟนโพสต์ลงในแอปหาคู่และเธอก็คบหากับชายหนุ่มมากหน้าตาผ่านแอปนี้ จนทำให้เธอมีปัญหากับแฟนหนุ่ม และที่สำคัญคือเธอประกาศหาคู่นัดเดตแบบติดป้ายค่าตัวอีกด้วย ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรู้สึกเสียหน้า เสียเกียรติ เพราะปีที่แล้วก็เพิ่งมีข่าวว่าตำรวจหญิงคนหนึ่งไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายบริการทางเพศแบบเดลิเวอรี่จนถูกไล่ออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กฎหมายของประเทศไทยก็มีบทลงโทษในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยวิธีการเสริมสร้างและพัฒนาให้ข้าราชการตำรวจมีวินัยและป้องกันมิให้ข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัย พ.ศ.2549 ได้กำหนดมาตรฐานการลงโทษวินัยอย่างไม่ร้ายแรง และได้กำหนดโทษเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ดังนี้

1. ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่น หรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยา หรือมีสามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย โดนกักขัง 30 วัน
2. ได้หญิง หรือชายเป็นภรรยา หรือสามีแล้วไม่เลี้ยงดู และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย หรือเสียหาย โดนกักขัง 30 วัน
3. จดทะเบียนสมรสซ้อน โดนกักขัง 30 วัน
4. ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป โดนกักขัง 30 วัน
5. ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในใบสำคัญการหย่าเกี่ยวกับการอุปการะบุตร ความผิดครั้งแรก ภาคทัณฑ์ ความผิดครั้งที่สอง ไม่ว่าจะเป็นการหย่ารายเดียวกันหรือไม่ก็ตาม กักยาม 3 วัน และความผิดครั้งที่สามและครั้งต่อไป กักยาม 3 วัน และพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวน ม.101 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547

...

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2552 ยังมีการแก้ไขแนวทางการลงโทษทางวินัยร้ายแรง ในข้อ 10 เกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ในข้อ 10.1 จากเดิมว่า "เป็นชู้หรือมีชู้กับภรรยาหรือสามีผู้อื่น" (ปลดออกหรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี) เป็น "ชู้หรือมีชู้ หรือมีพฤติการณ์เป็นชู้หรือมีชู้กับภรรยาหรือสามีผู้อื่น" (ปลดออกหรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง