ภรรยาเครียดจนอยากฆ่าตัวตาย แต่งงานกับสามีนาน 10 ปี มีลูกสาว 1 คน อายุ 9 ขวบ เผยหลังคลอดลูกสามีไม่เคยมีอะไรด้วย แต่กลับมีเซ็กซ์กับสาวไซด์ไลน์ ล่าสุดเจอถุงยาง อวัยวะเพศเทียมซ่อนในตู้เสื้อผ้า


เป็นเรื่องปกติของแต่ละครอบครัวที่ต้องเจอกับปัญหาผ่านเข้ามาเป็นบททดสอบ บางคนอาจจับมือกันก้าวผ่านมันไปได้ แต่บางคนอาจเลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีแยกทางกัน เช่นเดียวกับ คุณฉันมีตัวฉันเองดูแล สมาชิกเว็บไวต์พันทิปที่ตั้งกระทู้ว่า "เจอถุงยางอนามัย กับกระปู๋เทียม ซ่อนในตู้เสื้อผ้าของสามี"

โดยเล่าว่า อยู่กินกับสามีมา 10 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 9 ขวบ ที่ผ่านมาสามีไม่ซื่อสัตย์ ทั้งคุยกับหญิงอื่น ไปมีอะไรกับคนอื่น สาเหตุที่จับได้เพราะไปเจอถุงยางอนามัยในกระเป๋า พอถามก็บ่ายเบี่ยงว่าเป็นของเพื่อน ทำให้ตนเครียดเป็นโรคซึมเศร้า เกือบฆ่าตัวตาย ต้องไปปรึกษาจิตแพทย์ และหลังจากคลอดลูก ตนกับสามีก็ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กัน เพราะอีกฝ่ายนกเขาไม่ขัน แต่ก็ยังเจอข้อความที่เขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น รวมไปถึงสาวขายบริการทางเพศ

และล่าสุดไปเจอ "ถุงยางกับอวัยวะเพศชายเทียมในเสื้อของเขา ตอนนี้ขยะแขยงจนแทบอ้วก" ตนได้บอกเลิกไปหลายครั้ง แต่สามีก็ไม่ยอมเลิก จึงอยากปรึกษาทุกคนว่าต้องทำอย่างไร (อ่านต้นฉบับ คลิก) ทำให้ในเวลาต่อมามีคนเข้ามาแนะนำมากมาก อาทิ


คุณ สมาชิกหมายเลข 999999 : ฟ้องหย่าได้นะครับถ้าความรู้สึกเป็นอย่างนี้


คุณ ลุงอ้วนน่ารัก : ก่อนแยกทางกับสามี ลองชั่งน้ำหนักความดีกับความไม่ดี รวมถึงชะตาชีวิตลูกสาวในอายุ 9 ปี ถ้าแยกทางลูกจะอยู่กับใคร ถ้าอยู่กับคุณรับค่าใช้จ่ายไหวไหม อย่าคาดหวังค่าเลี้ยงดูหลังแยกทาง ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้กันหรอกได้แค่แรกๆ ต่อมาก็เงียบเอาไประเริงสำราญความโสด แต่หากคุณคิดว่า การอยู่สองคนแม่ลูกคุณให้อนาคตที่ดีได้ ลองคุยเปิดใจกับลูก สมัยนี้เด็กรู้อะไรๆ เยอะ ขอแค่แม่พูดตรงๆ และความเป็นจริง อย่าปิดบัง หากลูกเลือกคุณอยู่กันสองคนแม่ลูกคุณก็เดินหน้าเลย แต่หากลูกเกิดอาการไม่ต้องการ แสดงว่าแกยังไม่พร้อม คุณต้องคิดว่าจะทำอย่างไรที่เหมาะสมต่อไป

...

คุณ cognac & tobacco : ไม่น่าทนอยู่ต่อให้เสียสุขภาพจิตมากไปกว่านี้ คุณต้องเป็นที่พึ่งให้ตัวเองและลูก รวบรวมหลักฐานไว้แล้วฟ้องหย่าค่ะ หรือจะลองขู่ดูก่อนก็ได้ บอกเค้าว่าถ้าไม่ยอมเซ็นหย่าให้ดีๆ จะฟ้องหย่าและฟ้องเค้ากับชู้ พาลูกย้ายออกไปก่อนจะยื่นเรื่องฟ้องหย่าก็ได้นะคะ.