เมื่อเร็วๆนี้นักวิจัยจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในสหรัฐอเมริกาออกมาเตือนว่า ทารกที่ติดเชื้อไวรัสซิกานั้นอาจมีความบาดเจ็บเสียหายในสมองอย่างรุนแรง แม้ว่าจะไม่ได้แสดงอาการออกมาก็ตาม เช่น ทารกมีศีรษะเล็กกว่าปกติ ซึ่งไวรัสซิกาเป็นเชื้อที่ติดต่อได้ทางยุงลายและเพศสัมพันธ์ โดยกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดคือสตรีตั้งครรภ์
นักวิจัยได้ทำการศึกษากับลิงกัง เนื่องจากลิงมีการตั้งครรภ์ใกล้เคียงกับมนุษย์ โดยทดลองกับแม่ลิงกังที่ติดเชื้อไวรัสซิกาที่มีทารกลิงทั้งหมด 5 ตัว นักวิจัยพบว่ามี 1 ใน 5 ของทารกในครรภ์ของลิงแสดงความผิดปกติทางร่างกายในระยะเริ่มต้น แต่หลังจากนั้นทีมได้ใช้วิธีสแกน MRI ด้วยคลื่นวิทยุร่วมกับคลื่นสนามแม่เหล็กแรงสูงเพื่อถ่ายภาพเนื้อเยื่อ อวัยวะ และโครงสร้างอื่นๆ ภายในร่างกาย พบว่าสมองของทารก 4 ใน 5 ตัวไม่ได้มีการพัฒนาเท่าที่ควร
นักวิจัยอธิบายว่า ไวรัสซิกาสามารถทำให้เกิดความเสียหายระหว่างพัฒนาการของทารกในครรภ์หรือในวัยเด็ก โดยอาจยังไม่ปรากฏอาการอย่างชัดเจนในหลายๆปี แต่จริงๆแล้วอาจกำลังเกิดความช้าในระบบประสาทเกี่ยวกับการเรียนรู้ ที่สำคัญคือทารกและเด็กจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น กลายเป็นโรคจิตเภทที่มีความผิดปกติทางความคิด (Schizophrenia) รวมถึงมีภาวะสมองเสื่อมขั้นต้น ซึ่งนักวิจัยหวังว่าผลวิจัยครั้งนี้จะเป็นสิ่งเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการคิดค้นผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสซิกาต่อไป.