ครูพาดูห้องเกิดเหตุพัดลมเพดานตกใส่เด็ก ป.6 ดั้งจมูกแตก ยืนยันรีบพาส่ง รพ. ทันที ส่วนเงิน 1,000 บาท รอง ผอ.มอบช่วยเหลือเบื้องต้น สั่งถอดรุ่นเก่าออกหมดแล้ว
จากกรณีพัดลมเพดานสภาพเก่าตกใส่ ด.ช.ทิชานนท์ สงนาค หรือ น้องบอม อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ป.6 จนดั้งจมูกแตกและหัก ได้รับบาดเจ็บเย็บถึง 7 เข็ม และแม่ออกมาร้องทุกข์นั้น
ล่าสุดวันที่ 26 ม.ค. 61 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนเทศบาลวัดรามประดิษฐ์ ต.ปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย นางสุภาณี ลาภมี ครูชำนาญการนำเข้าไปพบกับ นายสินชัย สุวรรณดี รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียน
นายสินชัย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุคือวันที่ 22 ม.ค. ติดราชการนอกพื้นที่ นางสุภาณี ซึ่งรักษาการแทน เนื่องจากตำแหน่ง ผอ. ว่าง หลังรับทราบได้สั่งให้ดูแลเด็กให้ดีที่สุดรวมถึงนำส่งโรงพยาบาล ส่วนข่าวว่าโรงเรียนมอบเงินให้เพียง 1,000 บาท ตนเป็นคนสั่งให้ นางสุภาณี มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นการส่วนตัว สำหรับพัดลมเพดานที่ใช้อยู่ในโรงเรียนมีอยู่ 2 รุ่น รุ่นที่ตกใส่นักเรียนเป็นรุ่นเก่า ขณะนี้สั่งการให้ถอดพัดลมรุ่นเก่าออกทั้งหมดแล้ว
...
ด้าน นางสุภาณี กล่าวว่า เหตุเกิดประมาณช่วงเที่ยง ด.ช.ปรีชานนท์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณจมูก ตนและเพื่อนครู เจ้าหน้าที่ นักการได้รีบนำส่งโรงพยาบาลในทันที โดยได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่า กระดูกดั้งจมูกของเด็กอาจมีปัญหา จึงขอให้มีการส่งเด็กไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์พร้อมกว่า
หลังเกิดเหตุรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ไม่ว่าจะเป็นรักษาการ ผอ., ผอ.กองการศึกษาของเทศบาล, นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปากพนัง เนื่องจากเป็นโรงเรียนในสังกัดเทศบาล ซึ่ง นายพิเชษฐ์ กล้าสุคนธ์ นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง และคณะผู้บริหารเทศบาลเดินทางไปเยี่ยมเด็กทั้งที่โรงพยาบาลและบ้านพัก มอบกระเช้า เงินช่วยเหลือเบื้องต้น ยืนยันว่าไม่ได้ทอดทิ้ง
ต่อมา น.ส.ตวงพร ดำฤทธิ์ นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช มาที่โรงเรียน ร่วมพูดคุยกับครู และนางสร้อยสุดา เจษฏารมย์ อายุ 34 ปี มารดาของเด็ก น.ส.ตวงพร กล่าวว่า เป็นตัวแทนของพัฒนาสังคมฯ เดินทางมาตรวจสอบและมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนเรื่องสวัสดิการสังคม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย ทางพัฒนาสังคมฯ จะประสานงานทุกฝ่ายให้ความช่วยเหลือดูแลให้ดีที่สุด เพื่อให้เด็กและครอบครัวมีขวัญและกำลังใจ ไม่ย่อท้อหรือหวาดหวั่นกับปัญหาที่เกิดขึ้น.