พสกนิกรไทยปลื้มปีติได้ชื่นชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในหลวงรัชกาลที่ 10 เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องทั่วราชอาณาจักร เผยเหตุอัศจรรย์นาทีประวัติศาสตร์ทรงสวมพระมหาพิชัยมงกุฎ อากาศร้อนอบอ้าวกลับร่มเย็นด้วยพระบารมีแผ่ไพศาล พร้อมน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการใส่เกล้าใส่กระหม่อมด้วยความจงรักภักดี “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีนส่งสาส์นถวายพระพรชัย

ปชช.สวมเสื้อเหลืองรับเสด็จฯ

บรรยากาศพสกนิกรที่เข้ามารอรับเสด็จและร่วมชมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม ฝั่งทิศตะวันออกของท้องสนามหลวง จุดคัดกรองที่ 4 ได้เปิดให้ประชาชนผ่านด่านตรวจคัดกรองเข้าพื้นที่ด้านในตั้งแต่เวลา 07.00 น. ทุกคนต้องแสดงบัตรประชาชนให้กล้องบันทึกภาพและให้เจ้าหน้าที่บันทึกประวัติ มีการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระและตรวจหาอาวุธอย่างเข้มงวด จากนั้นจะได้รับสติกเกอร์สีชมพูพร้อมลำดับหมายเลขติดบนอกเสื้อด้านซ้ายเพื่อแสดงว่าได้ผ่านการตรวจแล้ว พื้นที่ด้านในตั้งแต่พระแม่ธรณีบีบมวยผมผ่านหน้าศาลฎีกาไปจนถึงหน้าศาลหลักเมือง มีประชาชนจำนวนมากใส่เสื้อเหลืองรอเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนที่จุดคัดกรองถนนพระจันทร์ ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจุดคัดกรองท่าช้าง ประชาชนผ่านจุดคัดกรองเข้ามาปักหลักหน้าประตูวิเศษไชยศรี ถนนหน้าพระลาน รอเฝ้ารับเสด็จ
เช่นกัน

“ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องถนน

กระทั่งเวลา 09.57 น. ขบวนรถยนต์พระที่นั่ง ได้เคลื่อนผ่านหน้าศาลฎีกา ประชาชนได้พากันเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ตลอดเส้นทาง หลายคน ได้นำภาพพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งขนาดใหญ่ที่ใส่กรอบอย่างสวยงามและขนาดเล็กยกขึ้นเหนือหัว เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนนำกลับไปบูชาที่บ้าน และเมื่อขบวนเสด็จฯแล่นมาถึงหน้าประตูวิเศษไชยศรี เหล่าพสกนิกรพร้อมใจกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องต่อเนื่องยาวนาน ระหว่างนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแย้มพระสรวลและโบกพระหัตถ์ให้ สร้างความปลาบปลื้มให้ผู้มารอรับเสด็จประชาชนหลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปีติที่ได้มาเฝ้าชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

ค้างแรมชมพิธีประวัติศาสตร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจำนวนมากนำสัมภาระติดตัวมาพักค้างแรมเพื่อร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นางเกษียน สรรพเจริญ อายุ 56 ปี กล่าวว่า พาหลานสาวและหลานชายมาจาก จ.นครนายก อยากให้เขาได้เห็นภาพสำคัญทาง ประวัติศาสตร์ ตั้งใจจะมาค้างคืนในกรุงเทพฯเพื่อชมพระราชพิธีในวันที่ 5 และ 6 พ.ค.นี้ ส่วนตัวเวลามีงานพระราชพิธีในสมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 จะเดินทางมาร่วมทุกครั้ง เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย นางสร้อย แก้วนิยม อายุ 71 ปี ชาวบ้านจากบ้านโพธิคู่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นั่งรอรับเสด็จบริเวณป้ายรถเมล์หน้าศาลฎีกา กล่าวว่า นั่งรถโดยสารจาก จ.ราชบุรี มากับ เพื่อน 2 คน ตั้งแต่เช้ามืด ต้องต่อรถ 3 เที่ยว จนมาถึงสนามหลวง ได้มาเห็นคนเฝ้ารับเสด็จฯมากทั้งที่แดดร้อน รู้สึกดีใจที่เจอแต่คนมีน้ำใจ เอาน้ำเอาข้าวต้มมัดมาให้กิน ตั้งใจว่าจะอยู่ที่สนามหลวงจนถึงวันที่ 6 พ.ค. อยากร่วมพิธีบรมราชาภิเษกในหลวงรัชกาลที่ 10 เพราะตนอายุมากแล้ว

ปลื้มปีติ ร.10 บรมราชาภิเษก

ในช่วงเที่ยง บรรยากาศบริเวณถนนสนามไชย ตั้งแต่แยกวงเวียน รด. ไปจนถึงแยกป้อมเผด็จ มีประชาชนและชาวต่างชาติปักหลักนั่งชมการถ่ายทอดพระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์บริเวณหน้าประตูสวัสดิโสภา และป้อมเผด็จดัสกร พระบรมมหาราชวัง ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว แต่ประชาชนสู้ไม่ถอย ต่างรู้สึกปลาบปลื้มใจและซาบซึ้งที่ได้เข้าร่วมในงานครั้งประวัติศาสตร์สำคัญของชาติ นางลำพูน ปาวลี อายุ 64 ปี ชาวบ้านเขตบางคอแหลม กทม.กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาเฝ้ารับเสด็จในหลวง ร.10ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และได้ชมการถ่ายทอดสด อย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก ตนเดินทางมาคนเดียวตั้งแต่ 7 โมงเช้า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและจิตอาสาช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี ตั้งใจว่าจะมาร่วมเฝ้ารับเสด็จในทุกวันจนกว่าจะเสร็จสิ้นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

อัศจรรย์พระบารมีแผ่นำร่มเย็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง และท้องสนามหลวง มีแสงแดดจ้าตั้งแต่ช่วงสาย ทำให้อากาศร้อนอบอ้าว ขณะที่ประชาชนจำนวนมากได้ยืนหลบไอแดดตามใต้ร่มไม้รอชมพระราชพิธีผ่านจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่รอบสนามหลวงและด้านหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ รวมทั้งชาวต่างชาติจากยุโรปและเอเชีย ได้ยืนชมการถ่ายทอดพระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์ด้วยความสนใจ และในทันทีที่พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระมหาพิชัยมงกุฎ ทรงรับแล้วทรงสวม พราหมณ์เป่าสังข์ ปรากฏว่าแสงแดดที่กำลังร้อนระอุได้ร่มเย็นลงในทันที ประชาชนพากันแหงนมองดูบนท้องฟ้าและเห็นว่ามีเมฆกลมก้อนใหญ่สีขาวนวลเคลื่อนมาบังแสงแดด ส่งผลให้อากาศไม่ร้อนระอุ ประกอบกับมีลมเย็นพัดอยู่ตลอดเวลาจนธงชาติไทยและธงสีเหลืองตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่ตั้งเรียงรายสองฝั่งถนนราชดำเนินปลิวไสวเป็นที่น่าอัศจรรย์

น้อมรับพระปฐมบรมราชโองการ

เวลา 12.30 น. ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวมีพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ทำให้พสกนิกรที่มาเฝ้าฯรับเสด็จบริเวณฝั่งตรงข้ามประตูวิเศษไชยศรี ได้รับฟังผ่านการถ่ายทอดสดผ่านจอมอนิเตอร์ ต่างพนมมือขึ้นเพื่อน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม นางสุวัฒนา จันทะเสน อายุ 71 ปี ข้าราชการครูบำนาญ ชาว จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ตั้งใจมาเฝ้าฯรับเสด็จและร่วมในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รู้สึกปีติยินดีกับพระปฐมบรมราชโองการ ที่พระองค์จะสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชกรณียกิจในหลวง รัชกาลที่ 9 เพราะเราต่างน้อมนำหลักคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาใช้อย่างเรื่องเกษตรผสมผสาน เศรษฐกิจพอเพียง ตนชื่นชอบ “โครงการจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทำให้คนไทยได้มาร่วมกันทำประโยชน์เพื่อสาธารณะ และตั้งใจจะมางานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ครบทุกวัน

3 เหล่าทัพยิงสลุตหลวงพิเศษ

ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทหารสามเหล่าทัพได้ยิงสลุตหลวงพิเศษ เริ่มด้วยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ กองทัพบก นำปืนใหญ่โบราณ 4 กระบอก ยิงสลุตหลวงพิเศษบริเวณท้องสนามหลวง ฐานทัพเรือกรุงเทพ กองทัพเรือ ยิงสลุตหลวงพิเศษที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม กรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ ยิงสลุตหลวงพิเศษที่โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช การยิงแบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกยิงสลุตหลวงพิเศษ 101 นัด หลังจากเลขาธิการพระราชวัง ไขสหัสธาราอันเจือด้วยน้ำเบญจคงคาและน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 4 สระ ช่วงที่ 2 จำนวน 101 นัด ยิงเมื่อพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ทูลเกล้าฯ ถวายพระสุพรรณบัฏ เป็นปืนโบราณ 4 กระบอก ยิงกระบอกละ 10 นัด รวมเป็น 40 นัด และปืนใหญ่จะยิงสลุตจำนวน 101 นัด ช่วงที่ 3 ยิงสลุตหลวง 21 นัด เริ่มยิงเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯขึ้นประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ปืนใหญ่ยิงสลุตอีก 21 นัด

ถวายเคารพธรรมเนียมสากล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยิงสลุตหลวง เป็นการยิงปืนใหญ่ที่มีขนาดลำกล้องไม่เกิน 120 มิลลิเมตร ใช้ปืนใหญ่ไม่น้อยกว่า 4 กระบอก เพื่อเป็นการถวายคำนับต่อองค์พระมหากษัตริย์ จำนวน 21 นัด ส่วนการยิงปืนใหญ่ที่ใช้ฝึกทั่วไป จะมีขนาด 105 มิลลิเมตร และขนาด 155 มิลลิเมตร ทั้งนี้ การยิงสลุตหลวงเป็นธรรมเนียมที่ทั่วโลกยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาล การยิงสลุตคือการแสดงความเคารพให้แก่ชาติ หรือธง หรือบุคคล โดยยิงปืนใหญ่ด้วยดินดำ หรือดินไม่มีควัน มีจำนวนนัดเป็นเกณฑ์ตามควรแก่เกียรติ หรือสิ่งที่ควรรับความเคารพ

พระราชทานโรงครัวแก่พสกนิกร

ที่ท้องสนามหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานโรงครัวพระราชทานมาบริการประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ โรงครัวพระราชทานจุดท้องสนามหลวง ตั้งอยู่ตรงข้ามประตูด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถนนหน้าพระธาตุ มีบริการน้ำดื่ม อาหารกล่อง คือ ข้าวไก่ทอด และไอศกรีมกะทิ มีประชาชนมายืนต่อแถวจำนวนมาก โรงครัวพระราชทานทุกจุดจะให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 5 พ.ค. กรมอนามัย ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจความเรียบร้อย พบว่า พื้นที่ตั้งโรงครัวและอุปกรณ์ปรุงอาหารสะอาด เจ้าหน้าที่ประกอบอาหาร ได้สวมผ้าคลุมกันเปื้อน ใส่ถุงมือและ หมวกรัดผม ทำให้มั่นใจได้ว่าประชาชนจะได้รับบริการอาหารและน้ำดื่มที่สะอาด และปลอดภัย

รอเฝ้ารับเสด็จเลียบพระนคร

ต่อมาในช่วงค่ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ มีการแสดงมหรสพ การแสดงดนตรีบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยวงออเคสตราคนพิการ เอส 2 เอส ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และการแสดงนาฏศิลป์ “พระรามตามกวาง” “โนราตัวอ่อน” โดยชมรมนาฏศิลป์ กรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการแสดงจากคณะนักเรียนจากโรงเรียนนวมินทราชูทิศบดินทรเดชาและโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ท่ามกลางประชาชนมาชมเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ประชาชนบางส่วนยังคงปักหลักในท้องสนามหลวงเพื่อรอเวลาเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯเลียบพระนครในช่วงบ่ายวันที่ 5 พ.ค.

ทั่วประเทศร่วมถวายพระพร

ในส่วนจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงเช้า ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วย ตำรวจ ทหาร และข้าราชการพลเรือน ร่วมกับประชาชน ภาคเอกชน บรรดาจิตอาสา และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า พากันสวมใส่เสื้อเหลืองเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จัดขึ้น ณ พระอารามหลวงประจำจังหวัด กิจกรรมเริ่มด้วยการลงนามถวายพระพร และทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จากนั้นร่วมกันรับชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจากในพระบรมมหาราชวัง ผ่านการถ่ายทอดสดของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ต่อมาช่วงเที่ยงได้มีกิจกรรมทำความสะอาดสถานที่สาธารณ– ประโยชน์ การปลูก “ต้นรวงผึ้ง” ต้นไม้ประจำพระองค์ ทั้งนี้ ในแต่ละจังหวัดยังได้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ประกอบอาหารและน้ำดื่มแจกจ่ายแก่ประชาชนผู้มาร่วมงาน ท่ามกลางความปลาบปลื้มที่ได้เข้าร่วมพิธีสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ของชาติ

บรรยากาศแห่งความจงรักภักดี

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการแสดงความ จงรักภักดีของพสกนิกรไทยทั้งประเทศ เพื่อแสดงให้ชาวโลกได้เห็นถึงความเคารพรักเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสูงสุด ทันทีที่โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถ่ายทอดมาถึงช่วงนาทีประวัติศาสตร์ เวลา 10.09 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ จากนั้นพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระมหาพิชัยมงกุฎ ทรงรับแล้วทรงสวม ระหว่างนั้น วัดทุกแห่งทั่วราชอาณาจักร ได้ย่ำระฆัง ฆ้อง และตีกลองอย่างพร้อมเพรียงดังก้องทั่วสารทิศ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ สวดชัยมงคลคาถา ประชาชนที่เฝ้ารอชมหน้าจอโทรทัศน์ ต่างพากันยกมือขึ้นพนมไหว้เหนือศีรษะ บางคนก้มลงกราบ พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญด้วยความตื้นตันใจที่ได้ชื่นชมพระบารมี หลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปีติที่มีโอกาสได้เห็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด

สถานทูตไทยทั่วโลกจัดกิจกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ ได้จัดกิจกรรมจิตอาสากระทรวงการต่างประเทศ เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีข้าราชการ คนไทยในต่างประเทศ ร่วมกิจกรรมดังกล่าว อาทิ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล จัดกิจกรรมเก็บกวาดขยะและทำความสะอาดบริเวณถนนทางเข้า และบริเวณโดยรอบวัดป่าพุทธรังษี เมืองฮวาซอง จังหวัดคยองกีและปูพื้นข้างอาคารวัดด้วยอิฐ ทำความสะอาดอุโบสถ ปลูกต้นไม้ ตกแต่งกิ่งไม้ ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ไทย ณ กรุงโตเกียว นำหัวหน้าสำนักงานทีมประเทศ ไทยประจำกรุงโตเกียว ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและคู่สมรส รวมทั้งประชาชนชาวไทยในญี่ปุ่นกว่า 200 คน ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาดบริเวณสถานเอกอัครราชทูตฯ และพื้นที่สาธารณะใกล้เคียง บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อยและสวยงาม

จิตอาสาเอื้อเฟื้อชาวต่างชาติ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา และทีมประเทศไทย ร่วมกับชุมชนไทยในกรุงจาการ์ตา ประมาณ 80 คน จัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ณ โรงพยาบาลฮาราปัน คีตา ได้บริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือเด็กผู้ป่วยโรคมะเร็งในอินโดนีเซีย รวมทั้งเยี่ยมเด็กผู้ป่วยเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ มีผู้บริหารโรงพยาบาล และมูลนิธิเด็กผู้ป่วยโรคมะเร็ง รวมทั้งเด็กผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ปกครองชาวอินโดนีเซีย ร่วมกิจกรรมด้วย เช่นเดียวกับสถานเอกอัครราชทูต ไทย ณ กรุงพนมเปญ ร่วมกับชุมชนชาวไทยในกัมพูชา จัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์บริจาคเงินสด 6,299.50 ดอลลาร์สหรัฐฯและสิ่งของแก่องค์กร Sacrifice Families and Orphans Development Association (SFODA) กรุงพนมเปญ ดูแลเด็กและเยาวชนที่มีความเป็นอยู่ยากลำบากหรือต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ

ทำอาหารไทยเลี้ยงฝรั่งไร้บ้าน

เช่นเดียวกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน ประเทศจีน นำภาคเอกชนไทย และนักศึกษาไทยร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ด้วยการทำความ สะอาดหอฉัน และโรงทาน ณ วัดต้าซิงซ่าน นครซีอาน มณฑลส่านซี ด้านสถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน น.ส.นิธิวดี มานิตกุล กงสุลใหญ่ นำข้าราชการกงสุล ร่วมกับทีมประเทศไทย และอาจารย์ไทยที่ไปสอนภาษาวิชาภาษาไทยในมหา– วิทยาลัยของจีน จัดกิจกรรมจิตอาสากระทรวงการต่างประเทศ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหา– มงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเช่นกัน ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา นำข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ร่วมกับผู้แทนชุมชน จัดกิจกรรมอาสาเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ประกอบอาหารไทย และนำไปจัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่กลุ่มคนไร้บ้านในกรุงเวียนนา ประมาณ 220 คน ณ ศูนย์สงเคราะห์ Gruft ของมูลนิธิ Caritas พร้อมบริจาคเงินสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิด้วย

“สี จิ้นผิง” ส่งสาส์นถวายพระพร

วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่แถลงการณ์ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ส่งสาส์นถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ใจความว่า ในนามของรัฐบาลจีน ประชาชนชาวจีนและข้าพเจ้า ขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจและความปรารถนาดีแด่พระองค์ และประชาชนชาวไทย พระองค์ทรงเป็นมิตรเก่าแก่ของปวงชนชาวจีน ทั้งทรงยึดมั่นในความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประเทศไทย-จีน ข้าพเจ้าให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-จีน และพร้อมทำงานร่วมกับพระองค์เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ฉันมิตรไทย-จีนที่มีมาแต่โบราณกาล กระชับความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ไทย-จีนแบบครอบคลุม ข้าพเจ้าขออวยพรให้ราชอาณาจักรไทย ประชาชนชาวไทยประสบแต่ความสุขเจริญรุ่งเรือง