ทหารสามเหล่าทัพ “บก-เรือ-อากาศ” ยิงสลุตหลวงพิเศษงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก...

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ทหารสามเหล่าทัพได้ทำการยิงสลุตหลวงพิเศษ ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ กองทัพบก นำปืนใหญ่โบราณ 4 กระบอก ยิงสลุตหลวงพิเศษ บริเวณท้องสนามหลวง ด้านฐานทัพเรือกรุงเทพ กองทัพเรือ ทำการยิงสลุตหลวงพิเศษ ที่บริเวณป้อมวิไชยประสิทธิ์ ภายในกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม

ขณะที่กรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ ทำการยิงสลุตหลวงพิเศษ บริเวณโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ซึ่งทำการยิง 3 ช่วง เริ่มต้นจากช่วงแรกยิงสลุตหลวงพิเศษ จำนวน 101 นัด หลังจากเลขาธิการพระราชวังไขสหัสธาราอันเจือด้วยน้ำเบญจสุทธคงคาและน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 4 สระ ต่อมาช่วงที่ 2 จำนวน 101 นัด ทำการยิงเมื่อพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ทูลเกล้าฯ ถวายพระสุพรรณบัฏ เป็นปืนโบราณ 4 กระบอก ทำการยิงกระบอกละ 10 นัด รวมเป็น 40 นัด ขณะเดียวกันปืนใหญ่จะทำการยิงสลุตจำนวน 101 นัด

จากนั้นช่วงที่ 3 ทำการยิงสลุตหลวง จำนวน 21 นัด เริ่มยิงเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ โดยปืนใหญ่ทำการยิงสลุตอีกจำนวน 21 นัด

อย่างไรก็ตาม การยิงสลุตหลวง เป็นการยิงปืนใหญ่ที่มีขนาดลำกล้องไม่เกิน 120 มิลลิเมตร โดยใช้ปืนใหญ่ไม่น้อยกว่า 4 กระบอก เพื่อเป็นการถวายคำนับต่อองค์พระมหากษัตริย์ จำนวน 21 นัด ส่วนการยิงปืนใหญ่ที่ใช้ฝึกทั่วไป จะมีขนาด 105 มิลลิเมตร และขนาด 155 มิลลิเมตร ทั้งนี้การยิงสลุตหลวงเป็นธรรมเนียมที่ทั่วโลกยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาล การยิงสลุตคือการแสดงความเคารพให้แก่ชาติ หรือธง หรือบุคคล โดยยิงปืนใหญ่ด้วยดินดำ หรือดินไม่มีควัน มีจำนวนนัดเป็นเกณฑ์ตามควรแก่เกียรติ หรือสิ่งที่ควรรับความเคารพ.