พรรคเศรษฐกิจ แจงเหตุผล “พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์” แคนดิเดตนายกฯ อยู่ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 10 เจ้าตัวลั่น ไม่ได้อยากเป็น สส. แต่ต้องการเข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร แก้ไขปัญหาประเทศ


วันที่ 30 ธันวาคม 2568 พรรคเศรษฐกิจ แถลงข่าวกรณีที่พรรคถูกพูดถึงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องที่ พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 10 โดยระบุเหตุผล ว่า หากลงปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 1 และได้เข้าไปเพียงไม่กี่คน จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย จึงต้องการให้การตัดสินใจเป็นของประชาชน คะแนนเสียงที่พรรคต้องได้เพื่อให้ พลเอกรังษี ได้เข้าสภาผู้แทนราษฎร คืออย่างน้อย 3 ล้านเสียง (เทียบกับการเลือกตั้งปี 2562)

ส่วนประเด็นที่มีนักวิจารณ์มองว่าพรรคเศรษฐกิจอาจไม่ได้ที่นั่งเดียวจากแผนการนี้นั้น พลเอกรังษี เชื่อมั่นว่าจะได้คะแนนเสียงถึง 3 ล้านเสียง และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งผู้ที่อยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 1-10 จะต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการแก้ไขกฎหมายเรื่องนโยบาย “ทุจริตเท่ากับประหาร”

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2569 ที่ผ่านมา พลเอกรังษี ชี้แจงด้วยตัวเองถึงเรื่องปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 10 ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ในตอนหนึ่งว่า ดีใจที่สื่อมวลชนสนใจเรื่องนี้ นโยบายพรรคเศรษฐกิจมี 10 ข้อ โดยมีการวางยุทธศาสตร์พรรคว่า ถ้าประชาชนให้ความไว้วางใจที่จะให้พรรคเข้าไปทำงาน จึงกำหนดไว้ว่าปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 1-9 ต้องทำงานนิติบัญญัติ ไม่มีการดำรงตำแหน่งทางการเมือง เข้าไปผลักดันเพื่อแก้กฎหมายในสภาฯ ส่วนตนไม่ถนัดงานนิติบัญญัติ จึงจะมาผลักดันในการสร้างเมกะโปรเจกต์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งมหภาคและจุลภาค

...

“สมมติผมเป็นเบอร์ 1 แล้วได้ไปคนเดียว มันจะมีความหมายอะไรครับ นอกจากว่าเราขายฝัน แต่นี่เราเป็นการเตรียมการว่าถ้าประชาชนตัดสินใจมอบเสียงข้างมากให้พรรคเศรษฐกิจ พรรคเราพร้อมทำงาน และจะไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันในเรื่องการแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี”

พลเอกรังษี ระบุอีกว่า วันนี้การเมืองแบบเก่า เป็น สส.ด้วย เป็นรัฐมนตรีด้วย แล้วก็ขาดประชุมสภาฯ สภาฯ ก็ล่ม ผมไม่อยากทำแบบนั้น เพราะวันนี้บ้านเมืองอยู่ในโซนอันตราย แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับประชาชน พร้อมระบุว่า การเล่นการเมืองครั้งนี้ไม่ได้อยากมาเป็น สส. แต่ต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ

อ่านเพิ่มเติม