สรุปนโยบาย พรรคเศรษฐกิจ คอร์รัปชันโทษถึงประหาร-สร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมต่างชาติ ปฏิรูประบบยุติธรรม ตั้งกรมฯใหม่ทำหน้าที่สอบสวนแทนตำรวจ
พรรคเศรษฐกิจ นำโดย พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ เปิดตัว 4 นโยบายหลัก ภายใต้สโลแกน “ชาติไทย ต้องมาก่อน” เพื่อสะท้อนถึงเจตจำนงในการรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินเหนือสิ่งอื่นใด พร้อมประกาศตัวเป็นแคนดิเดตเพียงหนึ่งเดียวของพรรค พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง 2569 ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 8 ก.พ. 69 นี้
4 นโยบายเรือธงพรรคเศรษฐกิจ
1.สร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง
- ผลักดันโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางของ อาเซียน โดยเชื่อมกับโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน และเชื่อมโยง ลาว เมียนมา อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ยกระดับประเทศสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับโลก
- กำหนดสองฝั่งข้างทางรถไฟเป็น “นิคมเกษตร” และ “นิคมอุตสาหกรรม” โดยนิคมเกษตรจะมีโรงผลิตปุ๋ยของตนเอง และมีศูนย์โดรนเพื่อการเกษตร-ศูนย์รถเก็บเกี่ยวที่รัฐเป็นผู้ลงทุนและเปิดให้ประชาชนเช่าใช้ มีโรงสีข้าว รัฐบาลออกใบรับรอง-ติดต่อตลาดต่างประเทศ ส่วนนิคมอุตสาหกรรม เชื่อว่าเมื่อประเทศไทยมีรถไฟความเร็วสูง ต่างชาติจะย้ายฐานการผลิตเข้ามา พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมแปรรูปทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า
...
2. OCEAN LINK
- เปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ เชื่อมทะเลอันดามัน-อ่าวไทย เพิ่มศักยภาพการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวในภูมิภาค
- จัดตั้งเขตอุตสาหกรรมเกษตรริมทะเล เพื่อดึงดูดกลุ่มทุน BRICS เข้าไทย พร้อมตั้งเป้ารายได้ประชาชน 20,000 เหรียญสหรัฐฯ/ปี ภายใน 10 ปี เพื่อสร้างงานสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจชายฝั่ง
3. ZERO CORRUPTION
- เสนอกฎหมายต่อต้านทุจริตฉบับใหม่ ข้าราชการทำความผิด ม.157 ปรับโทษสูงสุดเป็นประหารชีวิตทั้งผู้ให้และผู้รับ ไม่มีการลดโทษแต่ให้เวลาอุทธรณ์ 1 ปีเพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการบริหารงาน ลดการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างเด็ดขาด และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุน
4. ปฏิรูประบบยุติธรรม
- ปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำคือตำรวจ ไปจนถึงปลายน้ำคือกรมราชทัณฑ์ ทำลายวงจรอาชญากรรมเชิงระบบ แยกการจับกุมออกจากการสืบสวน เพื่อสร้างความยุติธรรม โปร่งใส ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรม โดยให้ตำรวจมีหน้าที่จับกุมและสืบสวน ส่วนการสอบสวน-พิสูจน์หลักฐานจะให้เป็นหน้าที่ของ กรมฯ" ที่พรรคเศรษฐกิจจะตั้งขึ้นมาใหม่ จากนั้นทั้ง 2 หน่วยงานนี้จะส่งตัวผู้กระทำผิดและหลักฐานให้อัยการส่งฟ้อง และศาลตัดสิน