“บุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์” อดีตผู้สมัคร สส.กทม. เขต 33 ลาออกพรรคประชาชน เข้ากระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ตัวเอง ลั่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามข้อกล่าวหา หลังถูกจับปมเอี่ยวฟอกเงินยาเสพติด 20,000 ล้าน
วันที่ 29 ธันวาคม 2568 จากกรณีกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เปิดปฏิบัติการ Black Mirror TKP ตรวจค้นและทลายเครือข่ายค้ายาเสพติด 22 เป้าหมาย 7 หมายจับ หนึ่งในนั้นคือพื้นที่กรุงเทพมหานคร และหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (เขต 33 เขตบางพลัดและบางกอกน้อย ยกเว้นแขวงศิริราช) สังกัดพรรคการเมืองหนึ่ง โดยตำรวจสืบสวนสอบสวนเชิงลึกจนพบว่ามีพยานหลักฐานทั้งเรื่องของเส้นทางการเงินที่รับเงินจากเครือข่ายดังกล่าวเป็นรายเดือน และผู้ต้องหาสามีภรรยาที่ถูกจับก่อนหน้ายอมรับว่า ให้เงินกับนักการเมืองรายนี้ จึงนำมาสู่การเสนอหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับ โดยตอนนี้จับกุมผู้สมัคร สส.ได้แล้ว และกำลังนำตัวเข้ากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (อ่านเพิ่มเติม : จับตามหมาย ผู้สมัคร สส. พรรคประชาชน เอี่ยวฟอกเงินยาเสพติด 20,000 ล้าน)
ต่อมา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน ในฐานะผู้รับผิดชอบแคมเปญเลือกตั้งกรุงเทพฯ แถลงข่าวด่วน หลังโทรศัพท์ไปสอบถามตารางการหาเสียงช่วงปีใหม่ของ นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส.เขตบางพลัด-บางกอกน้อย จึงได้ทราบว่านายบุญฤทธิ์ ถูกออกหมายจับเนื่องจากมีชื่อในบริษัทที่เชื่อมโยงกับการฟอกเงิน พร้อมกับกราบขอโทษพี่น้องประชาชนอย่างสูง โดยเฉพาะชาวบางพลัดและบางกอกน้อย พรรคได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครทุกคนอย่างละเอียด แต่ในกรณีของนายบุญฤทธิ์ไม่มีการออกหมายเรียก ออกมาเป็นหมายจับเลยในวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พรรคได้ตรวจประวัติผู้สมัครทุกคนเสร็จสิ้นไปแล้ว ทันทีที่ทราบเรื่องเมื่อเช้าพรรคก็ได้ดำเนินการแจ้งผู้สมัครและแถลงต่อประชาชนว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เรายืนยันว่าไม่มีการปกปิดหรือปกป้องใครทั้งสิ้น โดยยืนยันว่าพรรคจะต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัครใหม่ ส่วนในคดีของนายบุญฤทธิ์ เจ้าตัวต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเองตามสิทธิ์ ซึ่งพรรคจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พรรคประชาชนยืนยันเรื่อง “มีส้มไม่มีเทา” ไม่มีการปกป้องใครแม้เป็นผู้สมัครของตัวเอง (อ่านเพิ่มเติม : ปชน. แถลงขอโทษประชาชน เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. หลังพบถูกออกหมายจับคดีฟอกเงิน)
...
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.16 น. นายบุญฤทธิ์ เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊ก พร้อมภาพหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาชน และระบุข้อความว่า ข้าพเจ้า นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ในฐานะสมาชิกพรรคประชาชน ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาชน โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ด้วยเหตุผลและความตั้งใจใน 3 เรื่องต่อไปนี้
1. เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ ตนเองขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่า “ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ตามข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น” การลาออกในครั้งนี้ทำขึ้นเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และส่วนรวมของพรรคประชาชน และเพื่อให้ได้ไปพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรมอย่างอิสระและโปร่งใส
2. ยืนหยัดเคียงข้างความถูกต้อง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนยึดมั่นในอุดมการณ์ความถูกต้องและผลประโยชน์ของประชาชนมาโดยตลอด แม้ในวันนี้จะไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกพรรค แต่ความตั้งใจที่จะรักษาความยุติธรรมและพิสูจน์ความจริงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
3. ความรับผิดชอบต่อสังคม ตนเชื่อมั่นว่าการพิสูจน์ความจริงผ่านกระบวนการที่ตรวจสอบได้คือแนวทางที่สง่างามที่สุด และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนมีให้
พร้อมทิ้งท้ายว่า ขอขอบคุณพรรคประชาชนและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทุกท่านสำหรับโอกาสในการทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน และขอยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ทำเพื่อรักษาบรรทัดฐานความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 11.09 น. พบว่าเฟซบุ๊กของนายบุญฤทธิ์ ไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว.