“ทักษิณ” ออกโรงถกทีมไทย แลนด์สู้ภาษีทรัมป์ “พิชัย” แจงเชิญอดีตนายกฯมาให้ข้อคิดเห็นทีมเจรจาอ้างจดหมายสหรัฐฯถือว่าเลื่อนเวลาให้ไทย ยังมีเวลาถึง 1 ส.ค. เร่งทำการบ้านปรับทบทวนข้อเสนอ พร้อมเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ-กลุ่มเกษตรกร “ชัยเกษม” ลั่นเคยเป็นข้าราชการ มีประสบการณ์พร้อมนั่งนายกฯ ทำงานให้ ประเทศโดยไม่มีเงื่อนไข เชื่อบ้านเมืองยังไม่ถึงทางตัน “แพทองธาร” ลงพื้นที่โคราชดูปัญหาจัดการน้ำ-เปิดงานแห่เทียน อ้อนพร้อมรับใช้ชาวบ้านเสมอไม่ว่าอยู่ในหน้าที่ใด “ไผ่” แย้มเสียงหนุนรัฐบาลจะเพิ่ม เรื่อยๆ “ภูมิธรรม” เร่งจัดทัพข้าราชการสั่ง รมต.ทุกกระทรวงเร่งแต่งตั้งโยกย้ายจบก่อนสิ้นเดือน ก.ย.นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกโรง ประชุมร่วมกับทีมไทยแลนด์และทีมที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดทิศทางการเจรจาต่อรองรับมือกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ออกหน้ารับเป็น คนเชิญอดีตนายกฯ มาให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์“ทักษิณ” ถกทีมไทยแลนด์ดีลภาษีทรัมป์เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 11 ก.ค. ที่บ้านพิษณุโลก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เรียกประชุมทีมไทยแลนด์ พร้อมทั้งทีมที่ปรึกษานโยบาย ของนายกฯ เพื่อรับมือมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เผยแพร่จดหมายแจ้งอัตราภาษีนำเข้า ไทยถูกเก็บ ที่ 36% มีรัฐมนตรีทีมไทยแลนด์และทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกฯทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรฯ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ เข้าร่วม กระทั่งเวลา 07.47 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางเข้าร่วมประชุมด้วย โดยใช้เวลาหารือประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 10.54 น. นายทักษิณ เดินทางออกจาก บ้านพิษณุโลก โดยนายจตุพร ร.อ.ธรรมนัส และนายอรรถกร เดินออกมาส่ง“พิชัย” อ้าง จม.มะกันเลื่อนเวลาให้ไทยต่อมา เวลา 11.05 น. นายพิชัยแถลงผลการ ประชุมว่า วันนี้เชิญหลายหน่วยงาน มีทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาหารือกรณีสหรัฐฯ เผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% ขอย้ำว่าอันนั้นเป็นการเลื่อนเวลาให้เรา เรายัง ไม่ได้เจรจาถึงที่สุด วันนี้ได้มีการทบทวนกันว่าเรามี เวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. เพื่อให้ได้ข้อยุติกับสหรัฐฯ ยังเชื่อว่า การได้ข้อยุติวันที่ 1 ส.ค. จะได้ข้อยุติระดับกว้างๆ เสร็จแล้วยังต้องคุยกันอีกนาน สำหรับการหารือในวันนี้ เป็นเพราะวันที่ 10 ก.ค. ได้เรียกประชุมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและ บริษัทใหญ่ๆว่าหากได้รับผลกระทบในเรื่องใดจะมี มาตรการอย่างไรในการรองรับโดยแยกเป็นหมวดๆ ไป เรามีข้อมูลเยอะพอสมควรและกลับไปทำการบ้านกันคงได้ก่อนวันที่ 14 ก.ค. เพื่อดูผลกระทบแต่ละส่วน เป็นอย่างไร และเพื่อให้การทำงานระหว่างภาคเอกชน และภาครัฐเดินไปได้อย่างเรียบร้อย จึงเป็นที่มาของการคุยกันวันนี้ สิ่งที่คุยกันคือเราได้ให้ข้อมูลทั้งหมดที่ทำงานไป ให้รู้ในรายละเอียดว่าทำอะไรไปบ้างและ มีท่าทีความคิดเห็นอะไรกันบ้าง เพื่อมาดูกันว่าถ้าเกิด ผลกระทบจะแก้ปัญหาอย่างไรตั้งเป้าภาษีไม่ให้น้อยกว่าคู่แข่งเมื่อถามว่า ตัวเลขภาษีที่เวียดนามได้ 20% ภาค เอกชนห่วงว่าหากไทยโดนมากกว่า 20% อาจกระทบต่อสินค้าประเภทเดียวกัน เพราะเราเสียภาษีมากกว่า คู่แข่ง จะมีมาตรการอย่างไร นายพิชัยกล่าวว่า เราคุยกัน ว่าสิ่งที่เราทำจะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำไปหลาย เรื่องที่ไม่ใช่อัตราภาษีอย่างเดียว มีเรื่องอื่นๆประกอบด้วย จะชี้แจงให้ชัดเจนและหวังว่าสิ่งที่เราได้ น่าจะได้ในส่วนที่ไม่ทำให้เสียเปรียบ และสหรัฐฯเขาแบ่งสินค้า เป็น 2-3 ประเภทใหญ่ๆ ประเภทสินค้าทั่วไปเริ่มที่ 10% ประเภทไหนตกที่ 20% เช่นเวียดนาม และอีก ประเภทคือสินค้าผ่านทางที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก เชื่อว่าประเทศไทยวันนี้เริ่มเข้มงวดและกวดขัน ส่วนนี้ เราดูแลได้ดีเมื่อเทียบกับบางประเทศ เมื่อถาม ว่า ข้อมูลที่ประชุมกันจะสรุปแล้วส่งไปยังสหรัฐฯ เมื่อใด นายพิชัยกล่าวว่า เราส่งข้อเสนอมาตรการภาษี ไปแล้ววันที่ 6 ก.ค. วันนี้มาดูรายละเอียดเป็นรายสินค้า และให้เห็นสิ่งที่เราทำ เพื่อยืนยันว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว จะส่งข้อมูลไปเพิ่มหรือไม่ อยู่ระหว่างพูดคุย หาโอกาสคุยทางออนไลน์กับผู้ปฏิบัติว่ายังต้องการอะไรอีก หากจะยื่นไปอีกก็เล็กน้อยที่เราจะปรับปรุงในสิ่งที่ควรปรับปรุงอยู่แล้ว ถ้าจำเป็นพร้อมเดินทาง บอกเชิญ “ทักษิณ” มาให้ข้อคิดเมื่อถามว่า วางเป้าไว้หรือไม่ว่าอยากได้ตัวเลข ภาษีที่เท่าไหร่ นายพิชัยตอบว่า ต้องไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่งขัน เมื่อถามว่าหากเป็นตัวเลข 25% จะพอใจ หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า “แล้วเสียเปรียบหรือไม่หาก 25% ถ้าเสียเปรียบเราไม่วางเป้าไว้ที่ตัวเลขนี้ เมื่อถามต่อว่า การที่นายทักษิณมาร่วมประชุมด้วย ได้ให้ความเห็นอะไรบ้าง นายพิชัยกล่าวว่า ตนได้เชิญ ทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกมาร่วมประชุม และเห็นว่า นายทักษิณรู้เรื่องเหล่านี้ดี น่าจะให้ข้อคิดเห็นได้ดี จึงเชิญมาร่วมประชุมด้วยกมธ.ศก.วุฒิชงถกด่วนผลกระทบนายพละวัต ตันศิริ โฆษกคณะ กมธ.การเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีสหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 36% เริ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ว่า กมธ.จะเสนอให้วุฒิสภาเปิดอภิปรายพิจารณาศึกษาผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เพื่อส่งความเห็นและข้อเสนอ แนะให้รัฐบาลเร็วที่สุด ก่อนเวลาเจรจาจะหมดไปคณะ เจรจาควรเจรจาเพิ่มและยื่นข้อเสนอใหม่ ถ้ารีบเปิดเงื่อนไขยอมสหรัฐฯมากไป อาจเสียหายหลายกลุ่มสินค้า เช่น สินค้าเกษตร กลุ่มปศุสัตว์ผู้เลี้ยงหมู จะส่ง ผลกระทบวงกว้าง ถ้าใกล้เคียงกับเวียดนาม 20% และ ภาษีนำเข้าสินค้าที่มีต้นทางจากประเทศอื่นที่ถูกส่งมาผลิตที่เวียดนามก่อนส่งไปยังสหรัฐฯ 40% หากไทย เจรจาลดภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยเหลือ 20% ส่วน สินค้าต้นทางจากประเทศอื่นที่ถูกส่งมาผลิตที่ไทย 36% จะกระทบการย้ายฐานการผลิตไม่มากนัก แต่หากสหรัฐฯยืนยันที่ 36% ทุกชนิด ผู้ประกอบในไทย จะได้รับผลกระทบวงกว้างแน่ อาทิ อาหารกระป๋อง อาหาร ไม้แปรรูปต่างๆ อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุปกรณ์ไอทีต่างๆด้วย“ชัยเกษม” พร้อมนั่งนายกฯอีกเรื่อง เมื่อเวลา 13.30 น. นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุเป็น 1 ในทางเลือก ทางออกของสถานการณ์การเมืองไทยว่า เรื่องยังไม่เกิดขึ้น ยังไปไม่ถึงจุดนั้น อย่าเพิ่งมาถามรอให้ไปถึง จุดนั้นก่อนค่อยว่ากัน อย่าไปคาดการณ์อะไรล่วงหน้า เมื่อถามว่า หากสถานการณ์ไปถึงจุดที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ไม่สามารถทำหน้าที่นายกฯต่อได้ พร้อมเป็นทางเลือกตามหรือไม่ นายชัยเกษมตอบว่า คนเคยเป็นข้าราชการ ไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหนต้องพร้อม ไม่ต้องห่วงมีประสบการณ์มาเยอะ ความพร้อมไม่ต้อง พูดถึง แต่จะเป็นไปได้หรือไม่ รอให้ถึงเวลานั้นก่อน ถ้าไปพูดถึงก่อนแล้วไม่เกิดขึ้นจริงจะอายเปล่าๆเชื่อประเทศยังไม่ถึงทางตันเมื่อถามว่านายทักษิณเคยพูดคุยให้เตรียม พร้อมรับตำแหน่งนายกฯหรือไม่ นายชัยเกษมตอบว่า ยังไม่ได้พูดคุย ยังไม่เคยคุยกับนายทักษิณ สถานการณ์จะไปถึงจุดนั้นหรือไม่ ยังไม่รู้ ถ้าเกิดขึ้นจริงก็พร้อมทำงานให้ประเทศโดยไม่มีเงื่อนไข สุขภาพไม่มีปัญหา แข็งแรงดี แต่ถ้าไม่เกิดขึ้นก็ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวต่อไป ทั้งนี้ สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น เชื่อว่าประเทศไม่มีทางตัน คนไทยคุยกันรู้เรื่อง คงไม่มีใครอยากให้ประเทศเดินต่อไม่ได้ มั่นใจว่าประเทศเดินต่อได้ เราผ่านอุปสรรคมากี่ยุคสมัยแล้ว“ไผ่” แย้มเสียง รบ.จะเพิ่มมาเรื่อยๆที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จ.ชลบุรี นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ว่า หลายคนบอกว่าประเทศถึงทางตัน ไม่เห็นจะตันตรงไหนเลย นายกฯถูกร้องเรียนเป็นเรื่องปกติ ถึงวันนั้นถูกผิดว่ากันไป ถ้าวันหนึ่งศาลตัดสินอย่างไรว่าไปตามนั้น แต่ยังไม่มีการเลือกตั้งหรอก ทางตันยังไม่เกิดขึ้น ยังไม่เห็นเลยว่ามันตันตรงไหน มันมีทางไปเรื่อยๆของมัน ส่วนเรื่องเสียงของรัฐบาล องค์ประชุมสภาฯ ไม่ได้เป็นปัญหา เดี๋ยวจะทยอยมีมาเรื่อยๆ ผ่านแน่นอน องค์ประชุมสบายๆ เมื่อถามถึงกรณี 3 สส.อีสาน พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โหวตให้รัฐบาล เป็นฝีมือของพรรค กธ.หรือไม่ นายไผ่ยิ้มกล่าวว่า ให้เขาพูดเองดีกว่า เมื่อถามย้ำว่า ตกลงขณะนี้รัฐบาลมีกี่เสียงกันแน่ นายไผ่กล่าวว่า หลังจากนี้คงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ“บิ๊กอ้วน” จี้แต่งตั้ง ขรก.ก่อนสิ้น ก.ย.นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาการนายกฯ มีข้อสั่งการให้รัฐมนตรีทุกกระทรวง เร่งสำรวจข้าราชการที่จะครบวาระเกษียณฯ ปีนี้จะมีข้าราชการระดับสูง และระดับกลางเกษียณอายุราชการภายในวันที่ 1 ต.ค.จำนวนมาก และขอให้เร่งรัดในการแต่งตั้งข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถ ตั้งใจจริงที่จะทำงานรับใช้ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล ให้เสร็จทันก่อนสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ตำแหน่งสำคัญที่ต้องขอความเห็นชอบ ครม. ขอให้ตรวจสอบและนำเข้าสู่ที่ประชุมขอความเห็นชอบต่อไป เพื่อจะได้เป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลแต่ละกระทรวง และขอให้ข้าราชการระดับสูงตั้งแต่ปลัดกระทรวงลงมา เร่งเดินหน้าทำตามนโยบายรัฐบาลให้มีผลเป็นรูปธรรม อย่าปล่อยให้เจ้าหน้าที่ระดับล่างกล่าวหาว่าเข้าเกียร์ว่างก่อนเกษียณ หรือรอดูท่าทีรัฐบาล เพราะประเทศต้องขับเคลื่อนทุกวันไม่มีวันหยุด“ป๊อก” อัดนักการเมืองยุคนี้ขี้ขลาดวันเดียวกัน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าโพสต์เฟซบุ๊กว่า เหตุที่บรรดานักการเมืองและพรรคการเมืองจำนวนมาก ตั้งข้อรังเกียจกับการนิรโทษกรรมในความผิดการแสดงออกทางการเมือง โดยรวมความผิดตามมาตรา 112 ไปด้วย ไม่มีเหตุผลอื่นใดหรอก นอกจากยังไม่มี “ใบอนุญาต” ให้ทำ จึงเกรงว่าหากทำลงไปแล้วจะถูกยึด “ใบอนุญาต” ที่ให้เป็นรัฐบาล หรือตัดโอกาสการได้ “ใบอนุญาต” ให้เป็นรัฐบาล ลองถ้ามีปาฏิหาริย์ มี “ใบอนุญาต” ให้นิรโทษกรรมขึ้นมาสิ ขี้คร้านจะกลับลำ 360 องศา จนคนดูงงไปตามๆกัน ปัญหาที่ควรขบคิดพิจารณาต่อไปถ้าสัมพันธภาพทางอำนาจตามการเมืองความเป็นจริงนี้บอกเราว่านิรโทษกรรมความผิดตามมาตรา 112 โดยพลการไม่ได้ ต้องมี “ใบอนุญาต” เสียก่อน บรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองพยายามหา “ใบอนุญาต” เพื่อนิรโทษกรรมคดี 112 แล้วหรือยัง เหตุใดการตรากฎหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็น อำนาจนิติบัญญัติของสภาฯกลับต้องมี “ใบอนุญาต” เสียก่อน ตกลงแล้วสภาของผู้ที่รวมตัวกันแล้วอ้างเป็นผู้แทนของราษฎร เป็นผู้แทนของใครกันแน่ นักการเมืองและพรรคการเมืองไทยในยุคนี้ขี้ขลาดขี้กลัวกว่านักการเมืองและพรรคการเมืองไทยในอดีตมาก“ธนกร” ซัดเสี้ยมให้สังคมแตกแยกนายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า นายปิยบุตร กำลังบิดเบือนยุยงปลุกปั่นคนในสังคมให้เข้าใจผิด สร้างความแตกแยกในสังคม ใบอนุญาตที่แท้จริงมาจากประชาชน ผ่านระบบสภาฯ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต้องรับฟังทุกฝ่ายให้รอบคอบ ไม่ยึดมั่นถือมั่นอยู่กับความคิดตัวเองหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ส่วนที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรค ปชน.กล่าวหาว่าร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุขของพรรค รทสช.เลือกปฏิบัติล้างผิดกลุ่ม กปปส. ร่างของพรรคเห็นควรนิรโทษกรรมคดีการเมืองทั่วไปที่ไม่ก่อเหตุรุนแรง ย้อนหลังไปตั้งแต่การชุมนุมสร้างความขัดแย้งในสังคมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยไม่เลือกช่วยบางกลุ่มบางฝ่าย ร่างของทุกพรรคไม่รวมคดีมาตรา 112 ใช่หรือไม่ ทำให้พาลกล่าวหาพรรคเห็นต่างว่าเลือกปฏิบัติ หยุดใช้แนวคิดสุดโต่งยุยงปลุกปั่นกลุ่มเยาวชน เลิกสร้างความแตกแยกในสังคมเสียที ควรเลิกเป็นเด็ก เอาแต่ใจ เมื่อไม่สบอารมณ์หรือไม่ได้ตามที่ต้องการพาล กล่าวหาเพื่อน ขอให้มองบนหลักการรัฐธรรมนูญที่ถูกต้องกกต.ยกคำร้องฮั้ว สว.ขอนแก่น 22 รายผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน กกต. เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.ที่ 132/2568 ในคดีที่มีผู้กล่าวหาว่า ผู้สมัครรับเลือก สว.ในจังหวัดขอนแก่น จำนวน 22 ราย ซึ่งถูกร้อง 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77 (1) และฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 81 กกต.มีคำ วินิจฉัย “ยกคำร้อง” ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 22 ราย เนื่องจาก กกต. ได้พิจารณารายงานการไต่สวน ตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว อย่างเช่น ผู้ใหญ่บ้าน ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ให้ถ้อยคำว่าไม่พบหรือได้ยินข่าวว่าผู้สมัครรับเลือกเป็น สว.นัดพบกัน เนื่องจากในหมู่บ้านโนนเรือง มีเพียงร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านอาหารตามสั่ง ไม่สามารถนัดพบปะหรือประชุมกันได้ ขณะที่ผู้จัดการฝ่ายการตลาดโรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล ให้ถ้อยคำว่าระหว่างวันที่ 1-15 มิ.ย.67 ไม่มีผู้สมัครรับเลือกเป็น สว.จัดประชุมที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ลรอดบ่วงไม่พบเส้นเงินผิดปกติผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากนี้ กกต.ได้ตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมการเงินของผู้ถูกร้องที่ 1-22 ระหว่าง 1 พ.ค.-30 มิ.ย.2567 ไม่พบข้อมูลที่น่าสงสัย นอกจากนี้ ผู้ถูกร้องย่อมมีสิทธิลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ตนเอง หรือบุคคลใดตามความประสงค์ของตนเท่าที่ไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณสถานที่เลือก ก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ถูกร้องมีพฤติการณ์กระทำการฝ่าฝืนต่อกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. แต่อย่างใด อีกทั้งไม่ปรากฏพยานหลักฐานอื่นที่ยืนยันได้ว่ามีการกระทำฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกร้องที่ 1-22 กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 77 (1) และมาตรา 81 ตามคำร้อง จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง“อิ๊งค์” อ้อนคนโคราชพร้อมรับใช้เสมอเมื่อเวลา 15.30 น. ที่บ้านไร่ หมู่ 1 ต.ท่าอ่างอ.โชคชัย จ.นครราชสีมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลฯ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว. การอุดมศึกษาฯ และ สส.นครราชสีมา ลงพื้นที่ดูปัญหาการจัดการน้ำในพื้นที่ มีพี่น้องประชาชนรอต้อนรับ ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พร้อมตะโกนให้กำลังใจ “นายกฯอิ๊งค์สู้ๆ” โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่าการมาลงพื้นที่วันนี้ มีนายประเสริฐ รองนายกฯ ที่ดูแล เรื่องการบริหารจัดการน้ำมาพร้อมคณะด้วย จะนำความเดือดร้อนของประชาชนเสนอฝ่ายบริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าที่ไหน ยินดีรับใช้ประชาชนเสมอ วันนี้ขอมารับใช้ในฐานะหัวหน้าพรรค พท. มีอะไรให้บอก สส. เรื่องถึงหัวหน้าพรรคแน่นอน และเรามีรองนายกโคราช ที่ดูแลเรื่องน้ำอยู่ ท่านจะไปบอกนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ ต่อแน่นอน ดูแลและแก้ปัญหากันต่อไป ปัญหาของพี่น้องต้องถูกได้ยิน ถูกรับฟังเปิดงานแห่เทียนศาสตร์ศิลป์ถิ่นย่าโมต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมาและภาคีเครือข่าย จัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2568 “แห่เทียนโคราช ศาสตร์ศิลป์ถิ่นย่าโม” น.ส.แพทองธารมาเป็นประธานในพิธี มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกฯ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมช.ศึกษาธิการ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา เข้าร่วม โดย น.ส.แพทองธารจุดธูปเทียนสักการะเครื่องบวงสรวงท้าวสุรนารี ถวายเชี่ยนหมากพลูและดาบแห่งชัยชนะ คล้องพวงมาลัย ปิดทองรูปหล่อจำลอง ผูกผ้าแพรเจ็ดสีที่ฐานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ท่ามกลางขบวนแห่และการแสดงศิลปวัฒนธรรมภาคอีสานมาแสดงต้อนรับอย่างคึกคัก จากนั้น น.ส.แพทองธารพร้อมคณะ ชมขบวนแห่ต้นเทียนประเภท ข. ขบวน “สามมรดกโลก” แห่งเมืองโคราช การแสดงช้างดึกดำบรรพ์ชุด “กอมโฟธีเรียม ช้าง 4 งา” การแสดงความหลากหลายของสัตว์ในเขตพื้นที่ป่าดงดิบดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช และปิดท้ายด้วยขบวนแห่ต้นเทียนประเภท ก. ทั้งนี้ก่อนเริ่มงานมีกลุ่มรักชาติชาวนครราชสีมากว่า 30 คน โบกธงชาติตะโกนขับไล่ น.ส.แพทองธารให้ลาออกจากนายกฯอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่