“อิ๊งค์” รับนั่งควบ รมว.วัฒนธรรม หวังผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ปัดไม่ใช่แก้เกมหากถูกศาล รธน.สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ รับกังวล-ทำให้งานสะดุด ย้ำขอโฟกัสที่งาน “สรวงศ์” คาดศาล รธน.รับคำร้อง ชี้นายกฯกังวลแต่ต้องเดินหน้าต่อ “ชูศักดิ์” ยกเคสเทียบ “ลุงตู่” ตอนนั่งควบ รมว.กลาโหม จับตา ครม.เลื่อนถกเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง “ภูมิธรรม” ยัน ผบ.เหล่าทัพไม่มีใครคิดปฏิวัติ เย้ยแกนนำม็อบยังมีคดีติดตัว “จุลพันธ์” รอดูรวมเสียงซักฟอกถึงไหม แต่ ปชน.ไม่เดินตามเกม ภท.กลัวเสียของ ฉะแกนนำม็อบทำทางนายกฯมาตรา 5 กำชับสมาชิกห้ามร่วมปลุกรัฐประหาร ภูมิใจไทยคึกสุดขีดพร้อมลุยเลือกตั้งรอถกพรรคฝ่ายค้านก่อนยื่นอภิปราย “วันนอร์” ชี้ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้วยื่นซักฟอกไม่ได้ เร่งเลือกรองประธานสภาฯคนที่ 2 ฮือฮาเปิดทรัพย์ “แสวง” อู้ฟู่ 50 ล้าน อธิบดีสรรพากรรวยที่ดิน 26 แปลงสถานการณ์การเมืองที่บีบรัดรุมเร้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยนั่งควบตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม แต่ไม่ใช่แก้เกมหากถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ตั้งใจไปผลักดันซอฟต์พาวเวอร์จริงจัง ยอมรับเป็นกังวลไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งเป็นอย่างไร ห่วงทำให้งานต้องสะดุดนายกฯชูเสน่ห์วัฒนธรรมไทยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ นครลอสแอนเจลิส และนายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง ประธานโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ นำเยาวชนในโครงการฯเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 14 เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายกฯให้โอวาทว่า โครงการนี้ดีมากๆ ขอสนับสนุนให้เด็กไทยที่ไปเรียนเมืองนอกได้เรียนรู้ชีวิตพื้นฐานของคนไทย คนไทยคือซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญที่สุด ทั่วโลกรู้จักคนไทยคือมีน้ำใจ เฟรนด์ลี่อบอุ่นเป็นมิตร ต่างชาติรับรู้และหลงเสน่ห์คนไทยเพราะแบบนี้ เราอยู่เมืองนอก เรารู้รากฐานของวัฒนธรรมไทย ต้องฝากให้ช่วยนำซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก มีลูกๆเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ยังเอ๊ะว่าจะได้วัฒนธรรมไทยไหม จะสวัสดีไหว้สวยนอบน้อมเหมือนคนไทยไหม เห็นน้องๆ น่ารักอ่อนโยนก็สบายใจว่าถึงอยู่ที่ไหนเราก็ยังมีความเป็นไทยติดตัว แน่นอนการกลับมาอยู่ที่บ้านของเราจะช่วยพัฒนาประเทศให้มีแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มีไอเดียใหม่ๆ บ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับเสมอ จากนั้นนายกฯถ่ายภาพร่วมกับคณะเยาวชน พร้อมทักทายพูดคุยด้วยความเป็นกันเองควบ วธ.ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ต่อมาเวลา 15.00 น. น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีกระแสข่าวว่าจะนั่งควบ รมว.วัฒนธรรมว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ แต่ที่ไปดูกระทรวงวัฒนธรรมด้วย เป็นเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ กระทรวงนี้ไม่ใช่กระทรวงที่เป็นเกรดบี เกรดซี หรือเกรดอะไร แต่เป็นกระทรวงที่สำคัญมาก ส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ของเราได้จริง ผู้สื่อข่าวถามว่า เพราะกังวลที่มีผู้ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญปมคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่เกี่ยว แค่ต้องไปเน้นเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ เมื่อถามว่าจะไปมุ่งเน้นอะไรเป็นพิเศษ น.ส.แพทองธารตอบว่า จะไปดูว่ามีอะไรที่เราสามารถผลักดันเพิ่มเติมได้ จริงๆก็ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย เมื่อถามว่าวางใครไว้เป็น รมว.กลาโหม น.ส.แพทองธารตอบว่า เดี๋ยวรอดู ขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอน รอให้จบก่อนแล้วจะได้เห็นชื่อทั้งหมดกังวลปมศาล รธน.ห่วงงานสะดุดน.ส.แพทองธารยังกล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมวันที่ 1 ก.ค. ที่คาดการณ์ว่าอาจมีการพิจารณาคดีคำร้อง สว. ปมคลิปเสียง หากผลเป็นลบรัฐบาลจะเดินหน้าต่ออย่างไรว่า ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ถามว่ากังวลหรือไม่ ก็มีความกังวล เมื่อถามว่าเตรียมความพร้อมไว้อย่างไรบ้าง นายกฯตอบว่า เราก็พยายามทำ และเน้นเรื่องกระบวนการทำงาน ไม่อยากให้สะดุด อย่างที่สื่อถามวันนี้มีเรื่องกำแพงภาษี รวมถึงมีอีกหลายอย่างที่ต้องเจรจากับต่างประเทศเยอะ ไม่อยากให้สะดุด อยากทำให้มันดีม็อบชุมนุมเป็นสิทธิโฟกัสที่งานผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังปกป้องอธิปไตยอย่างไร น.ส.แพทองธารตอบว่า เราอยู่ในกรอบที่ไม่ทำผิดกฎหมาย อยู่ในสันติวิธีเป็นสิทธิเสรีภาพ ถ้าไม่มีเรื่องความรุนแรงก็ถือเป็นสิทธิ คิดว่าไม่มีอะไร เมื่อถามว่ากังวลว่าคนจะเยอะขึ้นจนทำให้ไม่มีสมาธิทำงานหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เราโฟกัสเป็นเรื่องๆ เน้นเรื่องการทำงาน ตอนนี้ไม่สามารถรอได้สักเรื่อง มุ่งเน้นทำงานทุกเรื่องให้สำเร็จและให้จบ เมื่อถามว่าผลโพลที่สะท้อนออกมาว่าคะแนนนิยมนายกฯและพรรคเพื่อไทยลดลงไป น.ส.แพทองธารตอบว่า เวลาผลโพลออกมาดีเราก็กำลังใจดี หากไม่ดีก็ต้องเตือนใจว่าต้องสู้ต่อ และต้องทำงานให้เต็มที่ ต้องแสดงผลงานให้ชัดเจน และต้องสื่อสารกับประชาชนให้ดียิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่เราต้องรับฟังไม่ว่าเป็นโพลสำนักไหนก็ตามย้ำกองทัพไม่มีใครคิดรัฐประหารนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย มีการปลุกกระแสรัฐประหารว่า เรื่องรัฐประหารพยายามให้ตายก็ยากที่จะเกิดขึ้น ได้มาอยู่กระทรวงกลาโหม ได้พูดคุยผู้บังคับบัญชาส่วนต่างๆ ผู้บัญชาการทั้ง 4 เหล่าทัพ ยืนยันว่าวันนี้ประเทศวิกฤติอยากช่วยให้ผ่านพ้นไปได้ เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในความคิดของนายทหารชั้นผู้ใหญ่เลย ข้อเสนอที่ดีเราพร้อมรับฟัง แต่อะไรที่เป็นปัญหาต่อระบบการเมืองและกฎหมาย จะพิจารณาต่อไปเย้ยแกนนำม็อบยังมีคดีติดตัวอยู่นายภูมิธรรมกล่าวว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่หรือที่จะยกระดับไม่มีประโยชน์อะไร วันนี้กระบวนการเริ่มแล้ว เราได้ยื่นทูลเกล้าฯถวายขอปรับ ครม.เพื่อแก้ไขปัญหาเดินหน้าไปให้ได้ ฉะนั้นอย่ามาใช้วิธีแบบเดิม เคยทำมาแล้วเสียหายมา 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ม็อบ กปปส. หลายคนที่อยู่บนเวทียังมีคดีอยู่ ศาลตัดสินไปแล้วบางส่วน แม้คดียังไม่ถึงที่สุดว่ากระบวนการที่ทำมาทำไม่ได้ ถ้ายังยืนยันทำอยู่ก็คงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการประเมินกลุ่มผู้ชุมนุม การกลับมาของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตร น่ากังวลหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เป็นคนละเรื่องคนละขั้นตอน ไม่สามารถเอามาอ้างอิงได้ อย่างที่บอกเขายังมีคดีอยู่ จะมาหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อมาแก้ปัญหาในคดีต่างๆ ทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะกระบวนการดำเนินไปแล้ว“สรวงศ์” คาดศาล รธน.รับคำร้องนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการนัดประชุมของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 1 ก.ค. นายกฯสั่งการให้เตรียมความพร้อมอะไรหรือไม่ว่า ไม่มี ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ นายกฯย้ำแล้วทุกอย่างต้องเดินหน้า ถามว่าในใจกังวลหรือไม่ นายกฯก็เป็นกังวลอยู่ แต่ทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อ ในส่วนของพรรคก็รอมอนิเตอร์ เราเฝ้าดูดีกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนายกฯแสดงถึงความตั้งใจในการทำงาน เมื่อถามว่าจากข้อมูลคำร้อง มั่นใจหรือไม่ว่าชี้แจงได้ นายสรวงศ์ตอบว่า ถ้ามีโอกาสก็ชี้แจงได้อยู่แล้ว เรายืนยันมาตลอดถึงความบริสุทธิ์ใจในการพูดคุย เมื่อถามว่าหากนายกฯถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลสามารถทำงานได้ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า ต้องดูว่าศาลจะสั่งอย่างไร รับหรือไม่รับคำร้องก่อน แต่มองว่าถ้ายื่นมาในกระบวนการของ สว. อย่างไรศาลก็ต้องรับตามกฎหมาย หรือกระบวนการที่เคยเป็นมา แต่การจะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ อยู่ที่ดุลพินิจของศาล“ชูศักดิ์” เทียบ “ลุงตู่” นั่งควบ รมว.กห.นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรค พท. ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีหากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องและมีคำสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะสามารถทำหน้าที่ รมว.วัฒนธรรมได้หรือไม่ว่า ให้เทียบเคียงกับสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ให้ไปค้นดูว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำหน้าที่ รมว.กลาโหมได้หรือไม่ เมื่อถามว่ามองว่าเป็นคนละเรื่องกับกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะคดีที่ร้อง น.ส.แพทองธารเป็นเรื่องจริยธรรม นายชูศักดิ์ตอบว่า ไม่เกี่ยว เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ น.ส.แพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่และมีการโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ ขั้นตอนจะเป็นอย่างไร นายชูศักดิ์ตอบว่า ต้องให้รองนายกฯรักษาการนายกฯ เป็นผู้นำถวายสัตย์ปฏิญาณ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ยืนยันไม่กระทบกับการปรับ ครม.พท.มีแผนรับคำวินิจฉัยศาล รธน.นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล และประธาน สส. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยรับหรือไม่รับคำร้อง กรณีกลุ่ม สว.สีน้ำเงินยื่นถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 ก.ค. ว่า พรรคเพื่อไทยมีมาตรการเตรียมรับผลคำวินิจฉัยอยู่แล้ว ไม่ได้กังวล เป็นเรื่องที่จินตนาการไปได้หลายอย่าง แต่มั่นใจว่าไม่มีอะไร การชุมนุมของกลุ่มม็อบขับไล่รัฐบาลกดดันให้นายกฯลาออก เป็นธรรมดาของการแสดงออกทางการเมือง แต่ที่ไม่เห็นด้วยคือการพูดให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร ยังไม่เข็ดอีกหรือ หวังอะไรกับการรัฐประหาร มีหลายคนในม็อบเห็นอยู่พอปฏิวัติแล้วได้ดี ก็รู้อยู่ว่าใครหน้าเดิมๆ ไม่อยากไปกล่าวหา ส่วนที่ม็อบจะกดดันปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล อย่าปิดบ้านเมืองเช่นนั้น หากรัฐบาลทำงานไม่ได้บ้านเมืองจะเสียหายขนาดไหน เมื่อยื่นศาลแล้วควรจบ ไม่ใช่มาห้ามไม่ให้ทำงาน ไม่ถูกต้อง“จุลพันธ์” รอดู ภท.รวมเสียงถึงไหมนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่าพรรคภูมิใจไทยแจ้งมาแล้วว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและ ครม. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 แต่ต้องดูว่ากระบวนการที่ยื่นมาครบถ้วน เข้าชื่อครบ 99 คนหรือไม่ หากไม่ครบคงไม่ได้อภิปราย และต้องดูจังหวะเวลา ประชาชนอาจมองว่าเพิ่งอภิปรายไม่ไว้วางใจไป จุดประสงค์ของพรรคประชาชนอาจไม่ใช่เรื่องการเปลี่ยนตัวนายกฯ โจทย์มันต่างกัน เวลายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯไม่มีอำนาจในการยุบสภาฯ ต้องรอให้ลงมติเสร็จสิ้นก่อน ถือเป็นสิทธิ ของแต่ละฝ่ายต้องไปพูดคุยกันเอง แต่รัฐบาลยืนยันว่าพร้อมชี้แจงทุกประเด็น ถือเป็นเรื่องดีจะเป็นเวทีให้รัฐบาลได้ชี้แจง เชื่อว่านายกฯและ ครม.พร้อม แต่ต้องดูว่าภูมิใจไทยจะรวบรวมเสียงได้ครบหรือไม่“อิ๊งค์” เลื่อนถก ครม.เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนเวลาการประชุม ครม. วันที่ 1 ก.ค.เร็วขึ้น จากเดิมเวลา 10.00 น. มาเป็นเวลา 09.00 น. น่าสังเกตว่าเป็นช่วงใกล้เคียงกับที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุม ที่คาดว่าจะมีการพิจารณาคดีที่ สว.ร้องปมคลิปเสียงนายกฯพูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา สำหรับภารกิจงานนายกฯในช่วงเดือน ก.ค. มีการวางงานไว้ตลอดทั้งเดือนตามปกติปชน.ไม่ตามเกม ภท.กลัวเสียของขณะที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯว่า พรรค ปชน. ไม่คัดค้าน แต่จังหวะการยื่นต้องแม่นยำ ต้องประเมินสถานการณ์ โดยเฉพาะวันที่ 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ทำได้ปีละ 1 ครั้งต่อสมัยประชุม หากยื่นญัตติไปก่อนแล้วเกิดอุบัติเหตุการเมืองกับนายกฯ ก็ไม่สามารถบอกได้ 100% ว่าจะเสียของหรือไม่ ขอดูความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญ และอีกหลายเรื่องให้มีความแม่นยำ คงไม่ทำให้เสียเวลา มองว่าร่างกฎหมายทุกฉบับที่รัฐบาลจะผลักดันหลังจากนี้ มีโอกาสสูงจะเกิดอุบัติเหตุการเมืองได้ ตราบใดที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเกินจากฝ่ายค้านแค่ 10 เสียง บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลสามารถเรียกร้องได้ทุกครั้งฉะแกนนำม็อบทำทางนายกฯ ม.5นายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า ส่วนการชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่มีข้อกังวลอาจนำไปสู่การรัฐประหารนั้น เชื่อว่าผู้ชุมนุมเรียกร้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ ต้องการเปลี่ยนตัวนายกฯ แต่วิธีเปลี่ยนมีหลายแบบ ทั้งการลาออกของนายกฯ การถูกกระบวนการถอดถอน การยุบสภา รวมถึงการทำรัฐประหาร จึงกังวลจะมีแกนนำบางคนใช้สถานการณ์นี้เรียกร้องกระบวนการนอกรัฐธรรมนูญ เพราะแกนนำชุมนุมเป็นหน้าเดิมๆ ที่เคยออกแล้วนำไปสู่การรัฐประหาร แม้ในเวทีไม่พูดชัดเจนแต่พูดเปิดช่องไว้ จึงน่ากังวลว่าแกนนำการชุมนุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์แอบแฝงหรือไม่ขอสื่อสารไปยังผู้ชุมนุมต้องระมัดระวังไม่ตกเป็น เครื่องมือ ส่วนผลสำรวจนิด้าโพลที่มีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ มีคะแนนสูงกว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯนั้น ที่ผ่านมาโพลไม่เคยมีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ แต่อยู่ดีๆกลับมีความนิยมถึง 12% มุมหนึ่งมองว่าคะแนนนิยมนายกฯตกสะท้อนความไม่เชื่อมั่นของประชาชน ที่ต้องการเลือกนายกฯที่เข้มแข็งมาจากฝ่ายทหาร ในช่วงการเมืองหัวเลี้ยวหัวต่อ ขอให้ทุกฝ่ายปฏิเสธการรัฐประหารให้หนักแน่น ไม่เปิดช่อง นอกจากนี้ สิ่งที่เลวร้ายไม่แพ้รัฐประหาร คือการได้นายกฯนอกระบบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 5 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเป็นไปได้จะเดินไปสู่จุดนั้นห้ามสมาชิก ปชน. ร่วมปลุกปฏิวัติวันเดียวกัน นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน ออกหนังสือเวียนถึงสมาชิกพรรค ปชน. ระบุว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และสถานการณ์ทางการเมือง การชุมนุมที่เกี่ยวเนื่องกัน ขอสื่อสารเน้นย้ำกำชับให้ทราบและปฏิบัติให้สอดคล้องกับจุดยืนอุดมการณ์และแนวนโยบายพรรค แบ่งเป็น 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ 1.ยืนยันสิทธิเสรีภาพของประชาชนวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล กองทัพ พรรคการเมือง ผู้แทนราษฎร ฯลฯ สามารถกระทำได้ 2.ข้อเสนอให้นายกฯลาออก หรือยุบสภา ถือเป็นข้อเสนอที่อยู่ในครรลองประชาธิปไตย 3.การชุมนุมของประชาชน ถือเป็นสิทธิเสรีภาพพื้นฐานในการแสดงออก “ต้องห้ามข้ามเส้น” ต้องไม่สื่อสาร หรือกระทำการใดอันเป็นการสนับสนุนสิ่งที่ขัดต่อจุดยืนทางอุดมการณ์และแนวนโยบายพรรค ได้แก่ 1.ไม่สื่อสาร หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการยึดอำนาจ รัฐประหาร ที่ขัดหลักการประชาธิปไตย ผิดกฎหมาย และขัดรัฐธรรมนูญ 2.ต้องไม่สื่อสารกระทบต่อหลักการรัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ “เน้นย้ำจุดยืนข้อเสนอพรรค” เดินหน้าใช้กลไกรัฐสภาแก้ไขปัญหาประเทศ เรียกร้องให้นายกฯยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนกำหนดทิศทางประเทศภท.เสนอผ่าทางตันประเทศไทยด้านเพจเฟซบุ๊กพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการนำเสนอทางออกประเทศไทย จะไปทางไหน ระหว่างลาออก ยุบสภา รัฐประหาร โดยใช้สัญญาณไฟเขียว นายกฯลาออก กลไก สส.และสภายังอยู่ สรรหานายกฯใหม่จากแคนดิเดตนายกฯจากพรรคต่างๆ ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรค ภท. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พรรครวมไทยสร้างชาติ นายชัยเกษม นิติสิริ พรรคเพื่อไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคประชาธิปัตย์ ยุบสภาใช้สัญญาณไฟเหลือง ทำให้สภาฯสิ้นสุด สส.พ้นตำแหน่ง เดินหน้าเลือกตั้งใหม่ นายกฯคนเดิมรักษาการจนกว่าได้นายกฯใหม่ อาจนานถึง 5-6 เดือน ใช้งบแผ่นดิน 6 พันล้านบาท เศรษฐกิจแย่ นักลงทุนชะลอตัวจนกว่าได้รัฐบาลใหม่ รัฐประหารใช้สัญญาณไฟแดง ยึดอำนาจสิ้นสุดกระบวนการประชาธิปไตยทั้งหมด วนลูปม็อบและประเทศหยุดชะงัก หมดงบไปกับการรักษาความสงบ แต่ประชาชนอยู่ตรงไหน?ค่ายน้ำเงินพร้อมลุยศึกเลือกตั้งนายสิรภพ ดวงสอดศรี ผอ.พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรค ภท.เตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. และคณะกรรมการ กลั่นกรองผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อนำเสนอให้สมาชิกพรรคในแต่ละจังหวัดพิจารณาในขั้นตอนไพรมารีโหวต คัดเลือกเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. พรรค ภท.ประเมินสถานการณ์ทางการเมือง เห็นว่าจำเป็นต้องทำการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว นับตั้งแต่พรรค ภท.ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล มีปรากฏการณ์ ที่น่าสนใจคือ มีประชาชน นักการเมืองท้องถิ่น และอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. จำนวนมากติดต่อมาที่พรรค ขอสมัครเป็นสมาชิกพรรค ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปกติพรรคจะต้องไปประชาสัมพันธ์ในพื้นที่เขตเลือกตั้งเป้าหมาย แต่ครั้งนี้มีผู้สนใจติดต่อเข้ามาจำนวนมาก เป็นการยืนยันว่าการตัดสินใจถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องที่ถูกต้องถกพรรคฝ่ายค้านก่อนยื่นซักฟอกน.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรค ภท.ยกร่างญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯไว้แล้ว จะเสนอให้พรรคประชาชน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคเป็นธรรม (ปธ.) และพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พิจารณาว่ามีเหตุผลเพียงพอร่วมลงชื่อหรือไม่ เบื้องต้นได้รับแจ้งจาก พปชร.เห็นด้วยในหลักการ เพราะนายกฯมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคง กระทบต่ออธิปไตยและดินแดนของรัฐ สำคัญที่สุดกระทบต่อจิตใจคนไทยทั้งชาติ สำหรับพรรค ภท.เห็นว่าเรื่องนี้ร้ายแรง ทุกคนที่ได้ฟังเข้าใจได้ทันทีว่า ขณะคุยโทรศัพท์กัน นายกฯเป็นพวกเดียวกับสมเด็จฮุน เซน และทหารกัมพูชา ที่กำลังรุกรานดินแดนไทย พฤติกรรมเท่านี้เพียงพออภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว หากโพลมีการสำรวจว่าคนไทยไว้วางใจให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯต่อหรือไม่ น่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ รัฐบาลควรใช้เวทีนี้ถ้าไม่ต้องการให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมาต่อต้านนอกสภาฯ เป็นเงื่อนไขอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีใครต้องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ยื่นซักฟอกไม่ได้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 แต่ต้องรอดูการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 1 ก.ค. จะมีคำสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่ว่า การหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯเป็นเรื่องขององค์กรอิสระ แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องของสภาฯ และฝ่ายนิติบัญญัติ การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยื่นได้ตลอด รัฐบาลพร้อมเมื่อไรถึงเรียกประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อกำหนดวันอภิปราย และแบ่งเวลา เมื่อถามว่าหากวันที่ 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะไม่สามารถอภิปรายนายกฯได้ใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ถ้าศาลฯสั่งนายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ยื่นอภิปรายไม่ได้ แต่ไม่รู้ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายเฉพาะนายกฯคนเดียวหรือรัฐมนตรีคนอื่นด้วย ต้องดูญัตติก่อน ฝ่ายค้านคงดูด้วยความรอบคอบจะอภิปรายใครบ้างเร่งเลือกรองประธานสภาคนที่ 2นายวันมูหะมัดนอร์ยังกล่าวถึงการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ว่า ยังไม่ได้คุยกัน ให้วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านตกลงกันก่อน จะเลือกเมื่อไหร่ สภาฯพร้อมดำเนินการให้ คงต้องเลือกโดยเร็ว คาดว่าไม่น่าเกินเดือน ก.ค.นี้ เมื่อถามว่าต้องรอให้ ครม.ใหม่โปรดเกล้าฯลงมาก่อนหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ต้องดำเนินการไปตามนั้น เมื่อฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านชัดเจนแล้ว จะประชุมกำหนดตัวบุคคลว่า แต่ละฝ่ายจะเสนอใครมาเป็นแคนดิเดต เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยระบุต้องการตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ไม่ได้เป็นโควตาพรรคใด เป็นเรื่อง สส.ต้องคุยกัน ถ้าเสนอคนเดียวก็ไม่ต้องเลือก แต่ถ้าเสนอมากกว่า 1 คน ต้องดำเนินการตามกติกามีการแสดงวิสัยทัศน์และโหวต ใครได้เสียงข้างมากก็ได้เป็นฮือฮาเปิดทรัพย์ “แสวง” มี 50 ล.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง มีบัญชีทรัพย์สินที่น่าสนใจ อาทิ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นบัญชีทรัพย์สินครบ 3 ปี ในการดำรงตำแหน่ง แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 50,246,048 บาท ไม่มีหนี้สิน เป็นทรัพย์สินของนายแสวง 28,280,675 บาท และทรัพย์สินของนางรุ่งทิวา บุญมี คู่สมรส 21,965,156 บาท มีทรัพย์สินที่น่าสนใจ อาทิ เงินฝากในบัญชีธนาคาร 8,220,933 บาท เงินลงทุน 4,435,169 บาท และทรัพย์สินอื่น 10,602,250 บาท อาทิ พระเครื่อง 530 องค์ รวมมูลค่า 8,627,450 บาท พระพุทธรูป 73 องค์ 98,400 บาท เครื่องเสียง+ลำโพง 1,382,400 บาท แผ่นเสียง 800 แผ่น 4 แสนบาท ภาพศิลปะ 6 รูป 12,000 บาท กระเป๋าหนัง เข็มขัด แหวน 2 วง มูลค่า 82,000 บาท ส่วนภริยา ถือครองทองรูปพรรณ หนักรวม 57.25 บาท มูลค่า 1,774,750 บาท กระเป๋าแบรนด์เนม 12 ใบ 219,300 บาทอธิบดีสรรพากรรวยที่ดิน 26 แปลงอีกคนที่น่าสนใจ นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 400,481,933 บาท โดยแจ้งสถานะว่าหย่า ที่น่าสนใจ อาทิ เงินฝาก 25 รายการ 4,164,806 บาท เงินลงทุน 13 รายการ 12,734,297 บาท ที่ดิน 26 แปลง ที่ จ.นนทบุรี ลำพูน สมุทรปราการ กทม. รวม 343,293,900 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นห้องชุดมูลค่า 12 ล้านบาท ยานพาหนะ 3 คัน มูลค่า 5,303,000 บาท ได้แก่ รถ Benz GLA 250 มูลค่า 1,340,000 บาท รถ Mitsubishi Xpander 563,000 บาท และรถ Benz GLC 220 d AMG Dynamic 3.4 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นอีก 20,765,000 บาท อาทิ พระเครื่องชื่อดังจำนวนมาก เช่น พระกริ่งวัดสุทัศน์ (รุ่นพรหมมุนี) องค์ละ 1 ล้านบาท จำนวน 2 องค์ เหรียญหลวงปู่ทวด ปี 2508 มูลค่า 1 ล้านบาท กะลาตาเดียว หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง และลูกสะกดหลวงพ่อทับ วัดอนงค์ มูลค่า 3 แสนบาท งาช้างสมบูรณ์พร้อมฐานไม้ 3 คู่ 6.5 แสนบาท นาฬิกาหรูอีกหลายเรือน เช่น Patek Philippe รุ่น Grand Complications 2.7 ล้านบาท นาฬิกา Patek Philippe รุ่น Nautilus 5712 มูลค่า 2.7 ล้านบาท“ทักษิณ” ไปศาลอาญาเองสู้คดี 112อีกเรื่อง นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์นัดแรก วันที่ 1 ก.ค. ในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณเป็นจำเลย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอน มีเดีย (The Chosun Media) ของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน ยืนยันนายทักษิณจะเดินทางไปศาลอาญาด้วยตัวเองในเวลา 09.00 น.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่