ประวัติ "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หลังเสนอดัน "ชัยเกษม" ขึ้นเป็นนายกฯ แก้วิกฤติการเมือง
จากกรณีคลิปเสียงเจรจาอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่าง "นายกฯ อิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร กับ "สมเด็จฮุน เซน" ประธานวุฒิสภา อดีตผู้นำกัมพูชา กรณีข้อขัดแย้งชายแดนระหว่างประเทศ ทำให้หลายคนออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบ ขณะเดียวกันก็พบว่า พรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ ได้นัดประชุมถกจุดยืนทางการเมือง ว่าจะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่
โดยพรรครวมไทยสร้างชาติมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตา คือ หัวหน้าพรรค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ได้นำข้อหารือในที่ประชุมเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ยื่นข้อเสนอให้มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ จาก น.ส. แพทองธาร เป็น "ชัยเกษม นิติสิริ" ก่อนที่วิกฤติจะลุกลามไปมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดวิกฤติการเมืองถึงขั้นไล่รัฐบาลเพื่อไทยเช่นในอดีต
อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวด้วยว่า ครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ ได้หารือทางออกของวิกฤติการเมืองกับอดีตนายกฯ ซึ่งก็มีท่าทีว่าอยากจะสนับสนุน นายพีระพันธุ์ ให้นั่งเก้าอี้นายกฯ เพื่อผ่านวิกฤติในช่วงนี้ไปให้ได้ ซึ่งมีการสนับสนุนเห็นด้วยกับแนวความคิดนี้ ทั้งจากเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคและลุงกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ซึ่งจะมีผลต่อการปรับ ครม. ที่อาจจะต้องรอให้สถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนมากกว่านี้
ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ จึงพาทำความรู้จัก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้

...
ประวัติ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เกิดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 ชื่อเล่น ตุ๋ย เป็นบุตรของ พลโท ณรงค์ สาลีรัฐวิภาค อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์และเจ้ากรมการพลังงานทหาร และโสภาพรรณ สาลีรัฐวิภาค (นามสกุลเดิม: สุมาวงศ์) อดีตดาวจุฬาฯ คนแรก ส่วนชีวิตครอบครัว สมรสกับ สุนงค์ สาลีรัฐวิภาค (นามสกุลเดิม: โทณวณิก) มีบุตรธิดารวมกันทั้งหมด 4 คน
นายพีระพันธุ์ เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนเดียวกับ “บิ๊กป้อม” จากนั้น เรียนต่อปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบเนติบัณฑิตไทย ที่สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา จบปริญญาโท กฎหมายอเมริกันทั่วไป (LLM) และเรียนปริญญาโทอีกใบ ด้านกฎหมายเปรียบเทียบ (MCL) ที่มหาวิทยาลัยทูเลน สหรัฐอเมริกา
ในด้านการทำงานเป็นทนายความมาตั้งแต่ปี 2524-2529 ในตำแหน่งที่สำคัญๆ คือ ผู้ช่วยผู้พิพากษา ปี 2529, ผู้พิพากษาประจำกระทรวง ปี 2530, ผู้พิพากษาศาลจังหวัดตาก ปี 2530, ผู้พิพากษาศาลจังหวัดธัญบุรี ปี 2531, ผู้พิพากษาประจำกระทรวง ช่วยราชการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองวิชาการ สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ กระทรวงยุติธรรม ปี 2532, ช่วยราชการในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลแพ่ง ปี 2535
ในทางการเมืองเคยลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2535 และปี 2538 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ สอบตกทั้งสองครั้ง ได้รับเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2539 และเคยได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกมากมาย อาทิ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, กรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2535, ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปี 2536, ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และกรรมาธิการการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ปี 2539, รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกฯ นายศุภชัย พานิชภักดิ์) 15 พฤศจิกายน 2540, ส.ส.กทม. เขต 11 (เขตดินแดง) พรรคประชาธิปัตย์ 6 มกราคม 2544, ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ 12 มิถุนายน 2544, กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ 20 เมษายน 2546, ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคประชาธิปัตย์ 6 กุมภาพันธ์ 2548, ส.ส.กทม.เขต 3 หมายเลข 7 พรรคประชาธิปัตย์ 23 ธันวาคม 2550, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 20 ธันวาคม 2551, ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 19 พรรคประชาธิปัตย์ 3 กรกฎาคม 2554, ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคประชาธิปัตย์ 24 มีนาคม 2562 (ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ 9 ธ.ค.2562),

ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) 17 ธันวาคม 2562, ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ พรรครวมไทยสร้างชาติ 14 พฤษภาคม 2566 (ลาออก 30 มิ.ย.2566), เลขาธิการนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) 20 ธันวาคม 2565 และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 1 กันยายน 2566 (รัฐบาลฯเศรษฐา ทวีสิน ศาลรัฐธรรมนูญให้สิ้นสุด 14 ส.ค.2567)
ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ 3 สิงหาคม 2565 และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 3 กันยายน 2567 (รัฐบาลฯแพทองธาร ชินวัตร)