“เสี่ยหนู” ไม่รับข้อเสนอ พท.ขอคืน มท.แลกเก้าอี้ รมว.สธ.กับ รมต.ประจำสำนักนายกฯ โวยลั่นรักษาข้อตกลงไว้ไม่ได้ก็ต่างคนต่างไป ตกค่ำ ภท.รุกกลับทันที ร่อนแถลงการณ์ถอนตัวพ้นรัฐบาล รมต.สีน้ำเงินยื่นลาออกมีผล 19 มิ.ย. ขยี้ “แพทองธาร” บี้รับผิดชอบเซ่นคลิป คุย “ฮุน เซน” ทำประเทศเสียเกียรติภูมิ “นายกฯอิ๊งค์” หน้าเครียดพยักหน้ารับทราบคำตอบ “ภูมิธรรม” ปากเก่งถ้านายกฯไม่มั่นใจ รบ.อยู่ครบวาระก็คงไม่ปรับ ครม. รัฐบาล พท.กุม 261 เสียง เกินกึ่งหนึ่ง 13 แต้มลุยต่อ แกนนํา พท.เร่งดึงเสียง “กลุ่มสันติ”-พรรค พปชร.-ทสท.-เด็ก ภท.เสริมทีม รอเสียงเติมนิ่งค่อยวางบุคคลลงตำแหน่ง รมต. ขีดเส้นปิดจ๊อบภายในสิ้นเดือน มิ.ย. “เดชอิศม์” แบะท่าขอเกลี่ยเก้าอี้เพิ่ม “บิ๊กป้อม” ย้ำจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลเรือรั่วเละจนใกล้จม “ไหม” ต้อนรับน้องใหม่เติมเสียงฝ่ายค้าน “ปิยบุตร” จี้นายกฯยุบสภาก่อนถึงทางตัน ปิดทางทหารยึดอำนาจ

หลังจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายขีดเส้นตาย 48 ชั่วโมงให้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) คืนเก้าอี้ รมว.มหาดไทย แลกกับ รมว.สาธารณสุขและ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท.ตอบชัดเจนว่าให้ไม่ได้ เมื่อรักษาข้อตกลงกันไม่ได้ ก็ต่างคนต่างไป

“อนุทิน” ลั่นผิดข้อตกลง ไม่รับข้อเสนอ

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. เดินทางไปติดตามตรวจการพัฒนาและการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่วัดโบสถ์ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ก่อนไปเป็นประธานเปิดโครงการนนทบุรีน่าอยู่ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิ.ย. ที่สนามกีฬา จ.นนทบุรี จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรค พท.ขีดเส้นตาย 48 ชั่วโมงให้คืนกระทรวงมหาดไทยว่า ไม่มี อย่าไปพูดขีดเส้นใครจะมาขีดเส้นได้ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ มาหารือที่กระทรวงและบอกว่าพรรค พท.มีความจำเป็นอยากบริหารกระทรวงมหาดไทยเอง โดยได้ปฏิเสธไป เพราะมันผิดข้อตกลง แต่ นพ.พรหมินทร์บอกว่าเป็นความต้องการของพรรค พท. ใช้คำว่าไพ่ใบสุดท้าย เริ่มต้นมาเช่นนี้ไม่ต้องรอ 2-3 วันตอบได้เลย และตอบไปแล้ว

...

รักษาข้อตกลงไม่ได้ก็ต่างคนต่างไป

เมื่อถามต่อว่าจากสัญญาณที่ส่งมา หากพรรคภท.ไม่ยอม จะเดินหน้าต่ออย่างไร นายอนุทินตอบว่า เราไม่ได้มีเงื่อนไขอื่น มันไม่ใช่เรื่องการต่อรองเอาอย่างนั้นได้ไหมอย่างนี้ได้ไหม แต่มันเป็นข้อตกลงสนับสนุนรัฐบาล ที่เป็นเอกภาพมาโดยตลอด คงตอบได้แค่นี้ เมื่อถามว่า สส.พรรค พท.อ้างว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ตอบสนองนโยบายรัฐบาล นายอนุทินตอบว่า ไม่จริง สุดท้ายตนตอบได้หมด เมื่อตอบได้หมดสุดท้ายเขาบอกว่าพูดกันตรงๆ เลยอยากได้กระทรวงมหาดไทยกลับคืนไป ตนก็บอกพูดกันตรงๆให้ไม่ได้ เราพร้อม ถ้าเราไม่พร้อมจะตอบไปอย่างนั้นเหรอ ของอย่างนี้มันไม่ใช่การต่อรอง เรื่องการบริหารบ้านเมือง เมื่อถามว่าเหมือนพรรคภท.เตรียมแถลงพร้อมเป็นฝ่ายค้าน นายอนุทินตอบว่า ไม่มี ตนได้รับอำนาจจากคณะกรรมการบริหารพรรค ภท.ตัดสินใจเรื่องนี้ และได้แจ้งการตัดสินใจไปยังเลขาธิการนายกฯเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.แล้ว เมื่อถามว่าเคยคิดหรือไม่ว่าเดินมาถึงจุดนี้กับรัฐบาลเพื่อไทย นายอนุทินตอบว่า ไม่เคยคิด เพราะคิดว่าทุกคนรักษาข้อตกลง แต่ไม่เป็นไร ถ้าข้อตกลงรักษากันไม่ได้ เราก็ต่างคนต่างไป

ชี้ มท.เป็นปึกแผ่นจนพรรคอื่นกังวล

เมื่อถามว่าเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.เจอเลขาธิการนายกฯ แต่ไม่ได้เจอนายกฯเข้าหน้ากันไม่ติดหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่มาคุยกับตนแล้วจะสบายใจมากนัก หลังจากนี้คงต้องมานั่งเขียนเงื่อนไข เขียนสัญญา ที่ไม่ใช่เพราะข้อตกลงแบบนี้ต้องมีความหมาย มีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่าข้อตกลงที่เป็นข้อเขียนด้วยซ้ำ เพราะเป็นความเชื่อมั่นเชื่อใจกันและกัน ที่ผ่านมาไม่มีอะไรที่พรรค ภท.ไม่ทำตามข้อตกลงแม้แต่อย่างเดียว เมื่อถามว่าไปเป็นฝ่ายค้านมองว่าอายุรัฐบาลสั้นหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า คงทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ยืนยันไม่ได้เล่นเกมอะไร ต้องทำตามบทบาท เหมือนตอนเป็นฝ่ายบริหารก็บริหารเต็มที่ มั่นใจว่าได้ทำทุกอย่างถูกต้องเหมาะสม และการบริหารกระทรวงมหาดไทยเป็นปึกแผ่น อาจทำให้พรรคการเมืองอื่นกังวล

ไม่มีนายกฯคนใดอยู่ได้โดยงูเห่าค้ำยัน

เมื่อถามถึงเอกภาพเสียงพรรค ภท. 77 เสียงจะไปด้วยกันใช่หรือไม่ ขณะที่พรรค พท.มั่นใจมีเสียงมาเติมฝั่งรัฐบาล นายอนุทินตอบว่า เชื่อมั่นว่าไม่มีนายกฯคนไหนที่อยากมีโครงสร้างรัฐบาลที่อยู่ได้ เพราะเอางูเห่ามาค้ำยัน ที่มีคนพูดว่าไปก่อนแล้วค่อยเอางูเห่ามา เชื่อว่าไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสม เพราะรัฐบาลควรมีองค์ประกอบที่เป็นนักการเมืองที่เริ่มต้นด้วยกันมาตั้งแต่แรก ที่ผ่านมาเราสนับสนุนมาโดยตลอด การที่นายกฯส่ง นพ.พรหมินทร์มาพูดคุยขอกระทรวงมหาดไทยคืนไปเห็นชัดเจนว่านายกฯคงไม่สบายใจนักที่จะมาพูดคุย เพราะความสัมพันธ์ของเรามันดีมาก แต่ก็ไม่เป็นไร ความสัมพันธ์เคารพนับถือกันยังเหมือนเดิม แต่ไปทำตามหน้าที่แต่ละคน ท่านบริหารไป ตนเป็นฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ รักษาประโยชน์ในบริบทฝ่ายตรวจสอบพึงจะกระทำ

ให้อยู่กันด้วยเงื่อนไขนี้คงอยู่กันไม่ได้

เมื่อถามว่าในใจลึกๆคิดไว้หรือไม่ว่าพรรคพท.กล้าตัดพรรค ภท. นายอนุทินย้อนว่า ถ้าไม่คิดจะออกมาพูดแบบนี้หรือ ถ้าไม่คิดว่าเขาทำแบบนี้คงรับข้อเสนอไปแล้ว รับกระทรวงสาธารณสุขกับสำนักนายกฯไปแล้ว มันเป็นคำตอบที่ไม่ต้องคิดมาก ที่บอกให้เวลา 48 ชั่วโมง ในความจริงแล้วไม่ได้บอก แต่ท่านบอกว่าให้ไปคิด 2-3 วัน ไม่มีการขีดเส้นตาย แต่ไม่รู้ว่าสื่อออกไปได้อย่างไร เพราะท่านบอกว่าไม่ต้องรีบตอบนะ และยังบอกด้วยว่าอยากให้อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าอยู่กันด้วยเงื่อนไขนี้คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่าตอนนี้แยกทางกันแล้วหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ถ้าหากเป็นไปตามนี้ ต้องเป็นเช่นนั้นแหละ เมื่อถามว่าเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ร่วมกับนายกฯเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ยังต้องทำตามหน้าที่จนกว่าจะโปรดเกล้าฯให้พ้นจากตำแหน่งรองนายกฯและรมว.มหาดไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรค ภท.เตรียมแถลงข่าวการทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการทันที หลังจากนายกฯทูลเกล้าฯรายชื่อ ครม.“อิ๊งค์ 2” วันไหน พรรค ภท.จะแถลงการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

ฝาก มท.1 คนใหม่คุมเข้มงบกระตุ้น ศก.

ต่อมาเวลา 10.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทินให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ถึงการใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจว่าเป็นการดำเนินการเร่งด่วน สุ่มเสี่ยงเปิดช่องเรียกรับผลประโยชน์ว่า ไม่ต้องกังวลอะไร หาก รมว.มหาดไทยท่านใหม่เข้ามาคงดูและสั่งการให้ดี เพราะจะไปซ้ำรอยที่เคยมีหนังสือเตือนโครงการเมื่อหลาย 10 ปีที่แล้ว ใครรับผิดชอบจะได้ระมัดระวังให้มาก เมื่อถามว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.รับเรื่องการใช้งบฯ ปี 68 ส่อขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 แปลงยอดชำระเงินกู้มาเป็นงบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการเงินหมื่น แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นงบจัดสรรให้โครงการต่างๆ ของ อปท.ทั่วประเทศ งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทต้องกังวลด้วยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ต้องระมัดระวังทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส เมื่อถามถึงจุดยืนในร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงแบบครบวงจรอย่างไร นายอนุทินตอบย้ำถึง 2 ครั้งว่า ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

สั่งเก็บของไม่ต้องเคลียร์ใจอีก

จากนั้นเวลา 13.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทินกล่าวถึงกรณีให้ทีมงานเก็บของออกจากกระทรวงมหาดไทยว่า ต้องเก็บสิ เพิ่งสั่งไปเมื่อเช้า ยังมีเวลาอยู่ สั่งเก็บเพื่อไม่ให้เสียเวลา ตอนนี้ยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ เมื่อถามว่า การขนของออกจากกระทรวงมหาดไทยถือว่าปิดประตูตาย ไม่พูดคุยเรื่องการปรับ ครม.แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า คุยกับ นพ.พรหมินทร์ชัดเจนแล้วว่าเราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร นพ.พรหมินทร์ระบุว่าเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยก็เป็นแบบนี้ โดยนายอนุทินถามสื่อมวลชนว่า “ไม่ดีเหรอ” และไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจ เป็นเรื่องข้อตกลง และมีเงื่อนไขที่เปลี่ยนไปเขาบอกมา เราไม่รับเงื่อนไขที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาคนที่ 2 จะลาออกด้วยลงมาทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ก็ดีจะได้ไม่มีอะไรค้างคา ที่มีคนปรามาสเยอะพรรค ภท.ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน เคยเป็นแล้วเมื่อปี 2554 เดี๋ยวจะทำให้ดู เดี๋ยวจะไปฝึกกับ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน (ปชน.) หากมีศึกซักฟอกจะทำตามหน้าที่ ยืนยันทำงานกับพรรค ปชน.ได้ เรื่องต่างๆ ข้อมูลต่างๆสอดรับกันดี 

รมต. ภูมิใจไทยเก็บของเกลี้ยงห้องทำงาน มท.

กระทั่งเวลา 15.37 น. นายอนุทินออกจากทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้มีสถานการณ์กดดันให้นายกฯลาออก แคนดิเดตนายกฯคนต่อไปคือนายอนุทิน พร้อมหรือไม่ นายอนุทินหัวเราะตอบว่า “แค่นี้ยังเอาตัวเองไม่รอดเลยอีหนูเอ้ย” เดี๋ยวเข้ากระทรวงก่อนไปเก็บของ เมื่อถามว่าพร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ตอนนี้ยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ต้องให้กำลังใจท่านนายกฯก่อน ยังไกลเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ ก่อนขึ้นรถไปกระทรวงมหาดไทยทันที ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้า รมต.พรรค ภท.ทยอยเก็บของออกจากกระทรวง มท.แล้ว

นายกฯหน้าเครียดถอนหายใจเฮือก

ขณะที่เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ “การเชื่อมโยงและปรับปรุงฐานข้อมูลประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ และการจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิ/สวัสดิการที่จะได้รับรายบุคคลเพื่อบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่ขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ” ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างนายกฯเดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า มีสีหน้านิ่งเคร่งขรึม ถอนหายใจเสียงดังระหว่างเดิน ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรค ภท.ไม่รับเงื่อนไขพรรค พท. นายกฯยิ้มให้แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ต่อมาเวลา 10.40 น. ผู้สื่อข่าวถามนายกฯอีกครั้งกรณียื่นเงื่อนไข 48 ชั่วโมงไปยังนายอนุทิน นายกฯตอบเพียงสั้นๆว่า “ยังไม่ได้คุย” เมื่อถามย้ำว่านายอนุทินปฏิเสธมาแล้ว เราจะตัดจบปรับเลยหรือไม่ นายกฯไม่ตอบเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที

พยักหน้ารับทราบ ภท.ไปเป็นฝ่ายค้าน

จากนั้นเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงพลังงาน น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอนุทินไม่รับเงื่อนไขของพรรค พท. นายกฯมีความในใจอะไรจะพูดหรือไม่ว่า ไม่มี เมื่อสักครู่ได้ประชุมกับปลัดกระทรวงทั้งหมดได้มอบหมายงานต่อเนื่องไป เรื่องงานการค่ะ เมื่อถามว่า สรุปนายกฯได้แจ้งกับพรรค ภท.ไปแล้วใช่หรือไม่ เรื่องเงื่อนไขการปรับ ครม. นายกฯกล่าวว่า ยังค่ะ เมื่อถามอีกว่า นายอนุทินระบุชัดเจนไปเป็นฝ่ายค้าน นายกฯได้พยักหน้า และกล่าวว่า ขออนุญาตไปขึ้นรถ เมื่อถามอีกว่า ส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายกฯไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

สั่งดีอีคุมเข้มเฟกนิวส์จี้เบิกงบค้างท่อ

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุม The Synergy Hall ชั้น 6 อาคาร C ศูนย์ Energy Complex (EnCo) กระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีรังสิต น.ส.แพทองธารเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 5/2568 มี พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงพลังงาน ต้อนรับแทนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงานที่ติดภารกิจ นายกฯกล่าวเปิดประชุมว่า เหตุการณ์ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งสำคัญมากๆ วันนี้เฟกนิวส์เยอะมาก โดยเฉพาะสถานการณ์กัมพูชาต้องขอมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลฯ ติดตามดูแลเฟกนิวส์ให้หนักแน่นยิ่งขึ้น และขอความร่วมมือทุกกระทรวงเร่งเบิกจ่ายงบฯค้างท่อจากปี 67 และรัฐบาลมีมาตรการระยะสั้นลดค่าไฟเดือน พ.ค.-ส.ค.ปี 68 เหลือไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย และระยะยาวขอมอบโจทย์เพิ่มให้กระทรวงพลังงานปรับโครงสร้างราคาไฟฟ้าสร้างความสมดุลให้ประชาชนมีไฟฟ้าที่มั่นคง ราคาเป็นธรรม

“ประเสริฐ” เหนียมนั่ง มท.1 รอดูก่อน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แกนนำพรรค พท. กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า ยังไม่ทราบเลย ที่สมาชิกพรรค พท.พยายามกดดันให้ยึดกระทรวงมหาดไทยคืนมาให้ได้ ไม่ทราบ ไม่ได้เข้าประชุมพรรคด้วย เมื่อถามว่า ถึงเวลานี้ต้องเตรียมตัวที่จะไปนั่งเป็น รมว.มหาดไทย ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ นายประเสริฐ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า รอดูก่อน เมื่อถามว่า ขณะนี้ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่าจะมีการปรับ ครม.แน่นอนแล้ว นายประเสริฐกล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ

“อ้วน” โอ่ไม่มั่นใจครบวาระไม่ปรับ ครม.

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรค พท. กล่าวว่า ไม่ว่าพรรค ภท.จะออกหรือไม่ออก ทางการเมืองต้องดูเงื่อนไขต่างๆให้พร้อม ถ้าจะมีการตัดสินใจทางการเมืองไม่ว่าพรรคไหน เมื่อถามว่าเมื่อพรรค ภท.ออก รัฐบาลอยู่ครบวาระหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถ้าอยู่ไม่ครบวาระนายกฯ คงไม่มีการปรับ ครม.มั้ง เพราะรัฐบาลประกาศตลอดว่า อย่างไรจะร่วมไม้ร่วมมือกันอยู่ให้ครบวาระ เมื่อถามต่อว่าประเมินเกมในสภาฯหรือไม่ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร เพราะเสียงปริ่มน้ำ นายภูมิธรรมกล่าวว่า การเมืองในสภาถ้าเรามีข้อเท็จจริง เราทำงานไม่ต้องไปกังวลอะไรมาก เมื่อถามว่ามีโอกาสยุบสภาก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าไม่เคยได้ยิน ทุกคนตั้งเป้าทำงานให้ครบวาระ ตอนนี้เสียงปริ่มหรือไม่ปริ่มไม่มีใครรู้หรอก ส่วนที่ผลโพลอยากให้ปรับ รมว.กลาโหม นายภูมิธรรมหัวเราะกล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ

รัฐบาลเพื่อไทยไปต่อเหลือ 261 เสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่มี 332 เสียง หลังพรรค ภท.ออกไปเป็นฝ่ายค้านจะเหลือ สส.ขั้วรัฐบาล 261 เสียง ประกอบด้วย 1.พรรค พท. 142 เสียง 2.พรรค รทสช. 36 เสียง 3.พรรคกล้าธรรม 26 เสียง บวกกับอีก 5 เสียง สส.งูเห่า คือ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรค ปชน. นางกาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ พรรค พปชร. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี และนางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร พรรค ทสท. 4.พรรค ปชป. 25 เสียง 5.พรรค ชทพ. 10 เสียง 6.พรรคประชาชาติ 9 เสียง 7.พรรค ชพน. 3 เสียง 8.พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง 9.พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง 10.พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง และ 11.พรรคไทยก้าวหน้า 1 เสียง ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมี 234 เสียง คือ 1.พรรค ปชน. 142 เสียง 2.พรรค ภท. 69 เสียง กับอีก 2 สส.อุดรธานี พรรค ทสท. 3.พรรค พปชร. เหลือ 19 เสียง 4.พรรค ทสท. เหลือ 1 เสียง และพรรคเป็นธรรม 1 เสียง

เสียงเกินกึ่งหนึ่ง 13 แต้มเร่งหามาเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจำนวน สส.ในสภาฯมีทั้งสิ้น 495 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งคือ 248 คน เสียงพรรคร่วมรัฐบาลมี 261 เกินเสียงกึ่งหนึ่งเพียง 13 เสียง แกนนำพรรค พท. และแกนนำพรรคร่วมอื่นๆพยายามหาเสียงจาก สส.ซีกฝ่ายค้าน อาทิ กลุ่มนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ที่มี สส.อย่างน้อย 6 เสียงเป็นไปได้สูง และอาจรวมถึง สส.บางกลุ่มในพรรค พปชร.ด้วย ขณะที่พรรค ทสท. จากเดิมอยู่กับพรรคกล้าธรรม 2 เสียง และไปเปิดตัวกับพรรค ภท. 2 เสียง และอีก 1 เสียงยังอยู่ที่เดิมจะกลับมารวมตัวกันเป็น 5 เสียงอีกครั้ง เพื่อรวมตัวมาเข้าร่วมรัฐบาลในนามพรรค ทสท. และยังประสานไปยัง สส.พรรค ภท.หลายคนให้มาเติมเสียงให้รัฐบาล โดยใช้เก้าอี้รัฐมนตรีสัดส่วนพรรค ภท.ที่ว่างลง 8 ตำแหน่งเป็นแรงจูงใจ พรรค พท.จึงยังไม่ได้วางตัวบุคคลที่จะมานั่งตำแหน่งที่ว่างลง ต้องรอให้เสียงที่เพิ่มเข้ามานิ่งลงตัวก่อนแล้วค่อยจัดสรรเกลี่ยโควตารัฐมนตรี เพื่อต้องการทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากที่สุด เบื้องต้นจะพยายามทำให้ทุกอย่างลงตัวภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้

“เดชอิศม์” แบะท่าขอเกลี่ยเก้าอี้เพิ่ม

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงเสถียรภาพรัฐบาลหรือจะยุบสภาก่อนเวลาหรือไม่ว่า คนเป็นนักการเมืองพร้อมทุกอย่าง วันนี้ไม่มีใครอยากให้ยุบสภา แต่พร้อมรับทุกสถานการณ์ ส่วนตัวความผูกพัน อยากให้ทุกพรรคเป็นรัฐบาลด้วยกันทั้งหมด ไม่อยากให้ใครไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข เลขาธิการพรรค ปชป.กล่าวว่า นายกฯยังไม่มีการแจ้งพรรค ปชป. ต้องเกลี่ยตัวเลขใหม่หรือไม่ ต้องดูจำนวนคนที่เหลือในรัฐบาล ระหว่าง 300 คน กับ 200 คน ตำแหน่งไม่เท่ากันอยู่แล้ว เมื่อถามว่าพรรค ปชป.จะขอเพิ่มหรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า ต้องดูตัวเลขก่อนว่าเหลือเท่าไหร่ แต่เชื่อว่ารัฐบาลยังมีเสถียรภาพ สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯมีเสียงปริ่มน้ำนิดเดียว แต่ยังอยู่จนครบวาระ เชื่อว่านายกฯถ้าเขาปรับออก เขาต้องมั่นใจว่าอยู่ได้ ในฐานะพรรคร่วมมั่นใจ

“บิ๊กป้อม” ย้ำ พปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล พท.

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์จุดยืนการร่วมรัฐบาลของพรรค พปชร. หลังมีข่าวว่าพรรค ภท.จะออกไปเป็นฝ่ายค้านว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค พปชร. กําชับตลอดอยู่แล้วว่าไม่ร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวทั้งพรรค ภท. และพรรค พท.ต่างพยายามดูด สส.พรรค พปชร.เติมเสียง นายไพบูลย์กล่าวว่า เรายึดตามที่หัวหน้าพรรคกำชับไว้ มีนโยบายชัดเจน เพราะปัญหาของรัฐบาลแพทองธารมีมากมาย หากเปรียบเหมือนเรือรั่วจนจะล่มแล้ว หากใครไปร่วมจะถูกประชาชนด่า รัฐบาลเละจนไม่รู้จะยังไง รอยุบสภาดีกว่าไม่พ้นปีนี้หรอก เมื่อถามว่าพร้อมทำงานร่วมกับพรรค ภท.ที่จะมาเป็นฝ่ายค้าน นายไพบูลย์กล่าวว่า “โห...เป็นพรรคพวกเก่ากัน สนิทกันอยู่แล้ว”

สส.ชี้เปลี่ยนนายกฯอาจรับพิจารณา

 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรค พปชร. นำ สส.ของพรรคแถลงจุดยืนพรรค พปชร.ว่า วันนี้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทหารกำลังปกป้องอธิปไตยประเทศ แต่นายกฯจริงจังปรับ ครม. ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยพอไปได้สนับสนุนการทำหน้าที่กองทัพ แต่ 3 กระทรวงที่เป็นปัญหาคือกระทรวงกลาโหม กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ พรรคขอแสดงจุดยืนชัดเจนว่า วันนี้ขอเป็นฝ่ายค้านอย่างมีเกียรติ ดีกว่าเป็นรัฐบาลไร้ศักดิ์ศรี หลายคนบอกว่า สส.พปชร.ที่ยืนอยู่ตรงนี้ เป็นเป้าหมายการติดต่อเป็นงูเห่า ขอยืนยันพวกเราจะอยู่พรรค พปชร. เพราะมีหัวหน้าพรรคชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มีอุดมการณ์ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศ ขอแนะนำการปรับ ครม.ให้ปรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ถ้าเปลี่ยนตัวนายกฯเป็นบุคคลอื่น พรรค พปชร.อาจพิจารณาร่วมงานกับรัฐบาล

ปัด 6 สส.ทสท.ซบ พท. แลก 1 เก้าอี้

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรค ทสท. กล่าวถึงรัฐบาล พท.เตรียมดึงงูเห่า มี 6 สส.พรรค ทสท.ไปสนับสนุนรัฐบาล พท.ว่า ไม่เป็นความจริง เป็นความพยายามปล่อยข่าวเพื่อผลักดัน อ้างมีชื่อตนว่าได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ขาดแหล่งที่มา เจตนาปล่อยข่าวหวังผลทางการเมือง ขอสื่อมวลชนตรวจสอบข้อเท็จจริงรอบคอบก่อนนำเสนอ ขอยืนยันว่าตนและพรรค ทสท.ยังคงรักษาจุดยืนทำหน้าที่ตรวจสอบ เป็นพรรคฝ่ายค้านไม่ทรยศอุดมการณ์และคำมั่นที่ให้กับประชาชน รัฐบาลจะเสียงปริ่มน้ำหรือมีความพยายามใดที่จะดึง สส.ไปสนับสนุน บางคนดิ้นเฮือกสุดท้ายต้องการเป็น รมช.มหาดไทย ปล่อยข้อมูลเท็จสร้างภาพว่าได้รับการสนับสนุน

“ไหม” รอต้อนรับเติมเสียงฝ่ายค้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์กรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ทำหนังสือด่วนถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เตือนเรื่องชงงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ขาดความรอบคอบ เปิดช่องเรียกรับผลประโยชน์เป็นเกมการเมืองหรือไม่ว่า เป็นไปได้ แต่งัดข้อกันในทางที่ดี ประชาชนน่าจะได้ประโยชน์ ต้องดูผลลัพธ์สุดท้ายไม่ใช่ไปเกี้ยเซียะกัน 2 พรรคแบ่งเท่ากัน แล้วจบ ไม่ดี ไม่เหมาะสม ส่วนที่พรรค ภท.ถอนตัวมาเป็นฝ่ายค้าน เสียงฝ่ายค้านจะเยอะขึ้น อำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นมาก

“ปิยบุตร” จี้นายกฯยุบสภาก่อนทางตัน

เมื่อเวลา 15.00 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า จากกรณี คลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกฯไทยกับสมเด็จฮุน เซน กรณีความขัดแย้งระหว่างพรรค พท.กับพรรค ภท.เรื่องการแย่งตำแหน่ง รมว.มหาดไทย จนกระทบกับเสถียรภาพรัฐบาลประกอบกับเกือบ 2 ปีภายใต้รัฐบาล “ข้ามขั้ว” นี้ พรรค พท.ไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้ จึงขอเรียกร้องให้นายกฯยุบสภาฯให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ ได้ตัดสินใจกันใหม่ว่าต้องการให้ใครเป็นรัฐบาล เพื่อแก้วิกฤติการเมืองในระยะสั้น ทั้งของประเทศและทั้งของพรรค พท.เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถึงทางตัน และเพื่อไม่ให้สถานการณ์เดินไปจนเข้าทางพวกจ้องรัฐประหาร นายกฯโปรดแสดงภาวะผู้นำ ยุบสภาเถิดครับ ไม่มีอะไรใหญ่กว่าประชาชน

ภูมิใจไทยร่อนแถลงการณ์ถอนตัวพ้นรัฐบาล

ต่อมาเวลา 20.40 น. พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกแถลงการณ์ว่า กรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา มีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทยและกองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้ว พรรค ภท.ขอเรียนว่ากรรมการบริหารพรรค ภท.ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้นและมีมติให้พรรค ภท.ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรค ภท.ทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกฯ ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิ.ย.68เป็นต้นไป พรรค ภท.ขอเรียกร้องให้น.ส.แพทองธาร แสดงความรับผิดชอบต่อการทำให้ประเทศไทยต้องเสียเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของชาติ ประชาชนและกองทัพ พรรค ภท.พร้อมจะร่วมมือกับประชาชนชาวไทย สนับสนุนกองทัพและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจ เพื่อธำรงรักษาอธิปไตย ดินแดน และประโยชน์ของประเทศไทย ทุกวิถีทางอย่างสุดกำลัง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่