แพทยสภาผนึกพลังลงมติท่วมท้นย้ำลงโทษ 3 แพทย์ปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ หักวีโต้ รมว.สาธารณสุข “หมอประสิทธิ์” ชี้กระบวนการชี้ขาดโปร่งใส ฟังข้อมูลรอบด้าน ใช้ดุลพินิจตามหลักวิชาการ หลัง “สมศักดิ์” หอบเอกสารแจงกลางที่ประชุม หวั่นบทลงโทษแพทย์สร้างบรรทัดฐานใหม่ ปัดช่วยเหลือ “ทักษิณ” เจอม็อบโห่ไล่หวิดเขวี้ยงรองเท้าใส่ “อิ๊งค์” เลี่ยงแจงปมร้อน “อนุทิน” ย้ำอีกยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องปรับครม.จากนายกฯ กั๊กตอบก๊วน 6 สส.พปชร.ซบภูมิใจไทย “บิ๊กป้อม” ยัน “กลุ่มสันติ” อยู่ที่เดิม ศาล รธน.สั่งอัยการสูงสุดแจงภายใน 15 วัน คดีเลือก สว.ไม่สุจริตโยงระดับบิ๊กๆค่ายสีน้ำเงินเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ก่อนพิจารณาว่าจะรับคำร้องหรือไม่

หลังนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข สภานายกพิเศษแห่งแพทยาสภา วีโต้มติแพทยสภาที่สั่งลงโทษ 3 แพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ล่าสุดที่ประชุมแพทยสภาหักวีโต้ดังกล่าวด้วยมติขาดลอยฟัน 3 หมอปมชั้น 14

ม็อบหมอให้กำลังใจแพทยสภา

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่อาคารมหิตลาธิเบศร กระทรวงสาธารณสุข มีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เพื่อพิจารณากรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข สภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา วีโต้มติแพทยสภาที่สั่งลงโทษ 3 นายแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก รัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ บรรยากาศก่อนการประชุมตั้งแต่ช่วงเช้า มีสื่อมวลชนมาปักหลักทำข่าวจำนวนมาก ตลอดจนบรรดาแพทย์ กลุ่มประชาคมแพทย์ มวลชนมารวมตัวให้กำลังใจแพทยสภา กระทั่งเวลา 11.45 น. นายสมศักดิ์เดินทางมาถึงแพทยสภาเพื่อเข้าร่วมประชุม โดยให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า นายกแพทยสภาให้เวลาชี้แจง 15 นาที แม้เวลาน้อย แต่พยายามทำความเข้าใจ ผลตัดสินเป็นอย่างไร เป็นอำนาจหน้าที่แพทยสภา จะทำเพื่อแพทย์ คนหนุ่มคนสาว ให้คนที่อยู่ในวิชาชีพไม่เกิดความเกลียดชัง กรณีมีมวลชนมากดดัน ไม่ได้ห่วงตัวเอง แต่ห่วงการลงมติแพทยสภาที่มีม็อบมาบีบบังคับ

...

“สมศักดิ์” หอบเอกสารแจง

ต่อมาเวลา 12.20 น. นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังชี้แจงต่อแพทยสภาว่า นำเอกสาร 10 หน้า และเอกสารฝ่ายกฎหมาย 2 หน้าเกี่ยวกับคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีผู้มีสิทธิการเข้าประชุมส่งให้คณะกรรมการแพทยสภา ได้อธิบายต่อที่ประชุมเรื่องการลงโทษแพทย์ และเพิ่มเติมในส่วนจริยธรรม หากการลงโทษเกิดบรรทัดฐานใหม่ ลูกหลานของคนไทยที่เป็นแพทย์จะขาดความมั่นใจในการรักษา ได้เน้นย้ำในคณะกรรมการสอบสวนจริยธรรม ที่มี นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา เป็นประธาน ใช้เวลา 5 เดือนกว่ากับการส่งคำพิจารณาโทษ แล้วอยู่ๆก็เป็นคณะกรรมการกลั่นกรองที่ประชุมเพียง 7 วัน ก่อนประชุมคณะกรรมการแพทยสภาใช้เวลาไม่ถึง 1 วัน แต่มีการปรับแก้โทษ คณะกรรมการแพทยสภาไม่ได้อ่านโดยละเอียด ลงโทษไปแนวทางนี้ หากเกิดขึ้นกับลูกหลานเอง หรือถ้าเขามีความรู้สึก มันผิดอยู่ในใจบ้างเล็กน้อย ก็ทบทวนเถอะ ตนทำตามหน้าที่ ถ้าไม่มาก็จะถูกร้องเรียนได้

ม็อบโห่ไล่เกือบเขวี้ยงรองเท้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า เอกสารที่แนบให้แพทยสภามีคำว่า ตีวัวกระทบคราด นายสมศักดิ์ตอบว่า หมายความเช่นนั้น เหมือนโกรธอีกคนหนึ่ง แต่ไปตีอีกคน คนที่ถูกตีก็เจ็บ สะเทือนไปทั้งระบบ เดี๋ยวจะไม่มีใครมาทำหน้าที่ตรงนี้ เมื่อถามว่าหากแพทยสภาลงมติไม่เป็นไปตามที่วีโต้จะทำอย่างไร นายสมศักดิ์ ตอบว่า ตนทำหน้าที่ครบแล้ว ก็จะมีหมอที่ถูกสอบตามมาอีก ส่วนกรณีถูกมองกำลังอุ้มแพทย์ เพื่อช่วยเหลือนายทักษิณนั้น คงไม่ใช่ เรื่องอดีตนายกฯจบแล้ว แต่การลงโทษแพทย์จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ ลูกหลานคนเรียนแพทย์จะสะดุ้ง กลัว หนาวสั่นกันไปเปล่าๆ เพราะการทำด้วยเจตนาดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายสมศักดิ์เดินทางกลับ มวลชนต่างโห่ไล่ด่าทอ มีรายหนึ่งถือรองเท้า ทำท่าเขวี้ยงไปยังรถที่นายสมศักดิ์นั่ง ขณะที่บางคนนำรูปนายสมศักดิ์มาเหยียบกับพื้น โดยมีเจ้าหน้าที่พยายามกันป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้

แพทยสภามีมติฟัน 3 หมอปมชั้น 14

ต่อมาเวลา 15.00 น. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกคณะกรรมการแพทยสภา แถลงผลการประชุมว่า การประชุมวันนี้มีคณะกรรมการเข้าร่วม 69 คน แต่มีสิทธิลงคะแนน 68 คน ผลลงมติปรากฏว่ามากกว่า 2 ใน 3 มีมติยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ให้ลงโทษแพทย์จำนวน 3 คน และในการพิจารณารายบุคคลคณะกรรมการดูแล้วในแต่ละคนที่ถูกร้องเรียนนั้น คณะกรรมการเกิน 60 คนที่มีความเห็นยืนยันตามมติเดิมในการลงโทษแพทย์แต่ละราย แต่ขอยังไม่เปิดเผยชื่อ ทราบว่าทุกคนก็น่าจะรู้ว่าเป็นใคร รอให้แพทยสภาทำหนังสืออย่างเป็นทางการส่งถึงเจ้าตัวก่อน หลังรับรองมติในวันที่ 13 มิ.ย. สามารถส่งถึงผู้ที่ถูกลงโทษได้ ส่วนจะมีผลเลยหรือไม่ก็มีกระบวนการ เช่น กรณีที่ให้พักใช้ใบอนุญาต ผู้ถูกลงโทษอาจต้องใช้ระยะเวลาสะสางงานที่ยังคั่งค้างอยู่ อาจมีคนไข้ที่นัดหมายเข้ารับการรักษาอยู่ก่อนแล้ว ตรงนี้นายกแพทยสภาเป็นผู้กำหนดตรงนี้ และสื่อสารให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ ส่วนเหตุผลที่ รมว.สาธารณสุขส่งวีโต้เข้ามานั้น ที่ประชุมฟังความคิด สภานายกพิเศษก็ได้ให้ความเห็นในการวีโต้ เป็นกระบวนการที่โปร่งใส่ ในที่ประชุมเห็นข้อมูลและใช้ดุลพินิจของตัวเองตามหลักวิชาการจึงมีมติออกมาตามนี้

ไม่หวั่นถูกฟ้องต่อศาลปกครอง

เมื่อถามว่า กังวลกับกระแสที่มีข้อเรียกร้องให้เปิดรายชื่อว่ากรรมการแต่ละคนโหวตอย่างไร นพ.ประสิทธิ์ตอบว่า การที่แพทย์จากหลากหลายสถาบัน หลากหลายรุ่น รวมทั้งประชาชนคนไทยกว่า 50,000 คน ที่ลงนามส่งมาถึงแพทยสภา สาระหลักต้องการให้แพทยสภายึดมั่นหลักความถูกต้อง รักษาจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ขอเป็นตัวแทนกรรมการแพทยสภากราบขอบพระคุณแพทย์และประชาชนทั้งหลาย ดังนั้นสิ่งที่ให้มานั้น ไม่ใช่แรงกดดัน แต่คือกำลังใจ แต่มีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างที่ทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดกับจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ให้ทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการทำ แบบนี้ถึงเรียกว่ากดดัน หรือถ้าว่าไปแล้ว ในบางกรณีเข้าเกณฑ์ข่มขู่ด้วยซ้ำ เมื่อถามว่าหากแพทย์ที่ถูกลงโทษไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง จะมีผลต่อมติแพทยสภาอย่างไร นพ.ประสิทธิ์ตอบว่า หากเห็นไม่ถูกก็สามารถไปร้องได้ เราก็สามารถชี้แจงได้ อยากย้ำวันนี้ทำตามสิ่งที่ถูกสั่งสอนไว้ แพทย์ที่กำลังเรียนอยู่ก็ใช้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษา ไม่ใช่แค่การรักษาเพียงอย่างเดียว แต่คือการรักษามาตรฐานของการรักษา

เปิดเหตุองค์ประชุมไม่ครบ 70 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการแพทยสภามีทั้งหมด 70 คน ลาประชุม 1 คน จึงเหลือ 69 คนที่เข้าร่วมประชุม ขณะที่กรรมการ 1 คนเป็นผู้ถูกร้อง จึงต้องออกจากที่ประชุมช่วงที่ลงคะแนน สำหรับมติแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พ.ค. มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง

รมว.สธ.ไม่คาดหวังผลที่ออกมา

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังแพทยสภามีมติยืนตามมติวันที่ 8 พ.ค.68 ว่า ไม่เป็นไร ไม่ได้คิดว่าจะออกมาอย่างไร เพราะทำตามหน้าที่ให้ครบถ้วน เมื่อถามถึงรู้สึกอย่างไรที่ยื่นวีโต้ไม่เป็นผล นายสมศักดิ์ตอบว่า ได้ส่งเอกสารไปให้กรรมการแพทยสภาทุกคนได้อ่าน แล้วอ่านไม่ทันหรือไม่ก็งง เมื่อถามถึงกลุ่มแพทย์ที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านมีผลต่อการทำงานร่วมกันหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า ต้องไปถามกลุ่มแพทย์ว่าทำงานกับตนได้หรือไม่ แต่ตนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ทำหน้าที่หมดแล้ว เป็นหน้าที่ของท่านอื่นก็ว่ากันต่อไป ก็ขอให้ทุกคนมีความสุข

“อิ๊งค์” เลี่ยงแจงแพทยสภายืนตามมติเดิม

เมื่อเวลา 15.15 น. ที่อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต” เป็นช่วงเดียวกับที่แพทยสภาเพิ่งแถลงยืนยันตามมติเดิม เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ลงโทษแพทย์ 3 คน กรณีการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.แพทองธารในประเด็นนี้ แต่ น.ส.แพทองธารไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยระหว่างเดินออกจากงาน มีคณะทำงาน รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย คอยช่วยทำหน้าที่กันสื่อมวลชนจนถึงประตูรถ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภารกิจของนายกฯ ในวันที่ 13 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ไปเป็นประธานมอบนโยบายในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 68 ที่โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ และในช่วงเวลา 11.30-13.00 น. ได้แจ้งลากิจ โดยมีหนังสือถึงเลขาธิการนายกฯ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ยื่นสอบเมีย “พีระพันธุ์” ถือหุ้น รร.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้ตรวจสอบบุคคลที่ถือหุ้น 21.62% ในโรงแรมย่านลุมพินี ที่มีนามสกุลสาลีรัฐวิภาค และบุตรว่า เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย หรืออยู่กินฉันสามีภรรยาของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน หรือไม่ หากเป็นภริยาและบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องดำเนินจัดการการถือครองหุ้นให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดคือ ถือได้ไม่เกินร้อยละ 5 เพราะจากการตรวจสอบเมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 พบว่า บุคคลดังกล่าวยังถือหุ้น 21.62% ในโรงแรมดังกล่าว และยังเป็น 1 ใน 4 กรรมการที่มีอำนาจลงนามในนิติกรรมต่างๆ ขอให้ กกต.ตรวจสอบการถือหุ้นบุคคลดังกล่าว หากเป็นภรรยาชอบด้วยกฎหมายจะทำให้นายพีระพันธุ์ถูกถอดถอน เพราะกระทำขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (5) ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว

ศาล รธน.พิจารณาคำร้องสอบฮั้ว สว.

วันเดียวกันสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณากรณีนายณฐพร โตประยูร ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลขาธิการ กกต.จัดการเลือก สว. ไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม โดยมีวัตถุประสงค์ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน เอื้อประโยชน์ให้พรรคภูมิใจไทย (ภท.)  คณะกรรมการบริหารพรรค ภท. (กก.บห.) สว. รายชื่อปรากฏตามสำนวนการสอบสวนของ กกต. อาทิ นายเนวิน ชิดชอบ นางกรุณา ชิดชอบ นายทองเจือ ชาติกิจเจริญ กับพวก นายศุภชัย โพธิ์สุ น.ส.วาริน ชิณวงศ์ นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ และนายสุบิน ศักดา ร่วมกันกระทำการโดยทุจริตในกระบวนการเลือก สว. โดยผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. แต่อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ จึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1-12 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯ  พร้อมขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้เลิกการกระทำดังกล่าว และสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 ที่ 5 รัฐมนตรีของพรรค ภท. และ สส.พรรค ภท. หยุดปฏิบัติหน้าที่นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง จนกว่ามีคำวินิจฉัยนั้น

สั่ง อสส.แจงปมร้อนภายใน 15 วัน

เอกสารดังกล่าวระบุอีกว่า ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ให้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุด เพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

“อนุทิน” กั๊กตอบก๊ก “สันติ” ซบ ภท.

เมื่อเวลา 10.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม.คณะที่ 3 มีนางจิตรา หมีทอง คณะที่ปรึกษารองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่เป็นทีมงานของนายสันติ  พร้อมพัฒน์  รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่นายอนุทินเพิ่งแต่งตั้งเป็นคณะที่ปรึกษารองนายกฯร่วมประชุมด้วย ท่ามกลางกระแสข่าวว่า นายสันติจะนำ 6 สส.เพชรบูรณ์ พรรค พปชร.ในสังกัดนายสันติมาร่วมอยู่กับพรรค ภท. โดยนายอนุทินกล่าวว่า ส่วนตัวรู้จักนางจิตรามาเป็น 10 ปี เป็นคนการเมืองที่มีฝีมือ ศักยภาพ เป็นการมาทำงานวันแรก และสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท.แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีปรากฏภาพนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรค ภท. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี ร่วมรับประทานอาหารกับนายสันติ เป็นการส่งสัญญาณดึงกลุ่ม สส.เพชรบูรณ์ เข้าพรรค ภท.หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่รู้จะตอบยังไง เมื่อถามว่านายสันติไม่ออกมาปฏิเสธ นายอนุทินก็ยังไม่ตอบคำถาม แต่ยิ้มให้ผู้สื่อข่าว เมื่อถามว่า การนํากลุ่มนายสันติเข้ามา เพื่อต่อรอง และเป็นเกราะป้องกันกรณีปรับครม.หรือไม่ นายอนุทินไม่ตอบ แต่หัวเราะหึๆ เมื่อถามว่า เป็นการโชว์พลังดูด สส.หรือไม่ นายอนุทินไม่ตอบคำถาม

ยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องปรับ ครม.

ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งที่อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ถึงกรณีมีกระแสข่าวนายกฯมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นผู้เจรจากับพรรค ภท. เพื่อแลกกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงพาณิชย์ว่า ยังไม่ได้คุยเลย ยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องการปรับ ครม. เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกับนายกฯ เรื่องการปรับ ครม.แล้วหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ยังไม่ได้คุยสักเรื่อง เมื่อถามว่ายังไม่มีการรื้อฟื้นปฏิญญาช็อกมิ้นต์เลยหรือ นายอนุทิน ได้ทวนคำถาม “ช็อกมิ้นต์” พร้อมกับหัวเราะและปิดประตูรถทันที

ตั้ง “ลูกสันติ” นั่งบอร์ดจัดสรรที่ดินฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า รมว.มหาดไทย มีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง โดยแต่งตั้งนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 11 มิ.ย. ทั้งนี้ นายพัฒนาเป็นลูกชายคนเล็กของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร.

“บิ๊กป้อม” ยัน 6 สส.ยังอยู่ พปชร.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีมีภาพนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. พร้อมนายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ร่วมรับประทานอาหารกับนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรค ภท. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี ว่า เห็นภาพแล้ว นายสันติแจ้งให้ทราบแล้ว ได้คุยกับนายสันติยืนยันว่า นายสันติ และ 6 สส.เพชรบูรณ์ พรรค พปชร. ยังอยู่กับพรรค ไม่หนีพรรค หรือย้ายไปอยู่กับพรรค ภท. ยืนยันเป็นแค่การไปร่วมรับประทานอาหารเท่านั้น เมื่อถามว่า การทำงานของของพรรค พปชร. หลังจากนี้เป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรตอบว่า ยังไม่รู้ๆ เมื่อถามถึงสุขภาพ พล.อ.ประวิตรตอบว่า สบายดี

สว.ไลฟ์สดถ่ายทอดประชุมงบฯ

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. โฆษกคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 วุฒิสภา แถลงว่า การพิจารณางบรายจ่าย ปี 69 สว.ไม่มีอำนาจขอลดหรือปรับเพิ่มงบรายจ่าย แต่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เห็นว่า ควรเพิ่มมิติการพิจารณางบปี 69 และปี 70 ให้แตกต่างจากที่ผ่านมา จึงมีนโยบายสร้างภาพลักษณ์การทำงาน สว.ให้โปร่งใส มีส่วนร่วมจากภาคประชาชน จะถ่ายทอดสดการประชุมพิจารณางบรายจ่ายปี 69 วุฒิสภา ผ่านช่องทางออนไลน์ ให้ประชาชนทราบการพิจารณางบประมาณที่รัฐบาลเสนอว่า ตอบโจทย์หรือไม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.นี้ ทำงานเชิงรุก เป็นมิติใหม่การพิจารณางบฯ

นายอลงกต วรกี สว. กล่าวว่า สว.มีมติชัดเจนให้ไลฟ์สดการประชุมงบฯ ผ่านยูทูบ เฟซบุ๊ก ให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลจัดสรรงบประมาณฯ ตรงความต้องการประชาชนหรือไม่ แม้การไลฟ์สดไม่ได้รับการคุ้มครอง แต่เพื่อประโยชน์ประชาชน ยอมเสี่ยงจะรับผิดชอบตนเองในการซักถามหน่วยราชการ

นายกฯถกปกป้องอุทยานชายแดน

เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก ประชุมร่วมกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จากนั้นเวลา 11.50 น. น.ส.แพทองธารทวีตข้อความผ่าน X ระบุว่า วันที่ 11 มิ.ย.ได้ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ แม่ทัพภาค 2 รายงานอีกเรื่องที่สำคัญคือ การบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและพื้นที่อุทยาน วันนี้จึงขอประชุมด่วน มีปลัดกระทรวง ทส. หัวหน้าเขตอุทยานทั้ง 5 เขตแนวชายแดน และเสนาธิการทหารบกร่วมพูดคุย แผนงานที่ต้องเร่งดำเนินการคือ เพิ่มเส้นทางตรวจการณ์พื้นที่อุทยาน ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า รักษาทรัพยากรธรรมชาติชายแดนให้อยู่ในสภาพดี รวมถึงแผนเร่งพัฒนาระบบสื่อสารและไฟฟ้าให้มีความเสถียร ให้การประสานงานระหว่างผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่สะดวกยิ่งขึ้น การปฏิบัติงานตามแนวชายแดนมีหลายสิ่งต้องเร่งจัดการ ทั้งหมดนี้รัฐบาลเดินหน้าพร้อมสนับสนุน

“อนุทิน” ปล่อยมุกยกย่องบทบาทสตรี

ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ชั้น 1 อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต” โดยมีรองนายกฯและรัฐมนตรีร่วมงานเป็นจำนวนมากอาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย โดยนายอนุทินกล่าวรายงานวัตถุประสงค์โครงการพัฒนาบทบาทสตรี ช่วงหนึ่งได้พูดถึงบทบาทสตรีว่ามีมากขนาดไหน โดยยกเหตุการณ์ระหว่างนั่งเครื่องบินไปลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ กับนายกฯและนายภูมิธรรม เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่า “ผมได้พูดถึงบทบาทสตรีระหว่างเที่ยวบินที่เดินทางไป จ.สุรินทร์ กับนายกฯ โดยนายกฯได้ถามนายภูมิธรรมว่า เวลาคุณพี่ที่บ้านทำให้โกรธท่านทำยังไง ท่านภูมิธรรมจึงยกมือขึ้น ผมก็ตกใจ ตายแล้วท่านภูมิธรรมจะกล้าทำร้ายคุณพี่ผู้หญิงขนาดนั้นเลยหรือ แต่ท่านภูมิธรรมยกมือทำท่าวันทยหัตถ์ เห็นไหมขนาดท่าน รมว.กลาโหม ยังขนาดนั้น นายกฯจึงหันมาถามผม ผมจึงบอกว่า รมว.กลาโหมยกมือเดียว แต่ผมยกสองมือเลย นายกฯถามทำยังไงตบบ้องหูหรอ ผมบอกป่าวครับ ผมยกมือขึ้นประกบแล้วไหว้ จึงเห็นได้ว่าบุรุษให้ความเกรงใจ เชื่อมั่นในศักยภาพของสตรีเพียงใด”

รัฐบาลเดินหน้าหนุนกองทุนฯ

ขณะที่ น.ส.แพทองธารกล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลสนับสนุนกองทุนพัฒนาสตรีอย่างต่อเนื่อง โดยได้บอกกับทีมงานให้ดูเรื่องของทุนให้เพิ่มมากขึ้น กลุ่มหรือโครงการหรืองานไหนที่ทำเกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มากได้เยอะจริงต้องมีรางวัลพิเศษ กองทุนนี้ไม่ใช่แค่ของรัฐ แต่เป็นพลังของประชาชนที่สามารถเปลี่ยนชีวิตได้จริงๆ ตนเคยได้ยินคำพูดของฝรั่งที่พูดว่า When women support each other amazing things happen เมื่อผู้หญิงซัพพอร์ตกันเองสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเมื่อผู้หญิงที่มีความมั่นใจซัพพอร์ตผู้หญิงอีกคนให้มีความมั่นใจให้กล้าทำตามความฝันในสิ่งที่ตัวเองวางแผนไว้ เพิ่มโอกาสให้ตัวเองและสังคม เมื่อนั้นพลังแบบนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่