นายกฯยกทีมลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ ชายแดน อยากให้ปรับเวลาเปิดปิดด่านตรงกันเพื่อค้าขายได้เท่าๆกัน ย้ำรักษาความสงบ-ป้องอธิปไตย ก่อนเดินทางไปกองกำลังสุรนารี อ.กาบเชิง ให้กำลังใจ และมอบสิ่งของเป็นขวัญแก่กำลังพล พร้อมร่วมวงทานมื้อกลางวันเป็นข้าวกล่องไข่เจียว หมูทอด ตบท้าย ของหวานเป็นทุเรียนพนมดงรัก ชาวบ้านที่มาต้อนรับชมเปาะนายกฯสวยจัง มือนิ่มมาก พร้อมขอถ่ายรูป แห่ส่องทะเบียนรถนำไปเสี่ยงโชค “ภูมิธรรม” ย้ำคุย เจบีซีเฉพาะจุดมีปัญหา ด้านโฆษกกองทัพไทยเปิดข้อมูลหลังยกระดับ เรื่องการดูแลสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.68 ส่งผลคดีสแกมเมอร์ และคดีค้ามนุษย์ลดลง
นายกฯลงพื้นที่ชายแดนดูสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.25 น. วันที่ 11 มิ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ พร้อมนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เดินทางไปยัง รพ.อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เป็นประธานประชุมติด ตามสถานการณ์การคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาและมาตรการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัด มี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยประชาชน ส่วนราชการ กลุ่มเยาวชน สส.ในพื้นที่ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทยทั้ง 8 เขต มาต้อนรับ
นายกฯรับฟังบรรยายสรุปจาก ผวจ.สุรินทร์ และแม่ทัพภาค 2 ช่วงหนึ่งมีการรายงานเกี่ยวกับการเปิด-ปิดด่าน ที่ก่อนหน้านี้ด่านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น. แต่หลังจากมีมาตรการควบคุมชายแดนจะเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดเป็นวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 08.00-15.00 น. กัมพูชาก็ประกาศเลื่อนการเปิด-ปิดด่านเช่นกันโดยเปิดเวลา 09.00 น. ปิดเวลา 16.00 น. ทำให้มีเวลาที่เปิด-ปิดตรงกันเพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น นายกฯจึงสอบถามว่าในพื้นที่ประสานได้หรือไม่ให้เปิดเวลาตรงกัน แม่ทัพภาค 2 รายงานว่า หน่วยงานความมั่นคงจะลองประสานกับกองทัพฝ่ายกัมพูชาดู พร้อมยอมรับว่าอาจมีนัยบางอย่างเหมือนมีลักษณะการเมืองเล็กน้อยเพื่อชิงความได้เปรียบ หลังจากนี้ฝ่ายความมั่นคง ผู้ว่าฯในพื้นที่จะหารือกันต่อไป นายกฯจึงกล่าวว่า ถ้าเรายึดถือผลประโยชน์ ของประชาชน เปิด-ปิดตรงกัน จะได้ค้าขายได้เท่ากันจะดีกว่า ขอให้ลองดู คงไม่ใช่เรื่องต้องมีปัญหา
...
น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า เรื่องหลุมหลบภัย ขอให้แจ้งมายังกระทรวงมหาดไทยว่าต้องการซ่อมแซมแบบไหน เพราะชีวิตเด็กนักเรียนต้องให้ความรู้เมื่อไหร่ที่ต้องใช้หลุมหลบภัย อยากให้บรรจุอยู่ในการเรียนการสอนทุกปี ต้องขอบคุณแม่ทัพภาค 2 ที่อยู่หน้างานตลอด ทราบถึงแรงกดดันมากๆ เพราะได้ติดต่อกับ ก.กลาโหมและ ก.มหาดไทย รวมถึงผู้นำฝ่ายกัมพูชาได้ทราบ เห็นใจมากๆว่าอยู่หน้างานจริง ถึงได้พยายามเน้นเรื่องสันติภาพและความสงบสุข ต้องคิดถึงชีวิตคนหน้างานว่ามีความกดดันสูงเมื่ออยู่ตรงนั้น เมื่อผู้นำคุยกันได้เน้นย้ำเรื่องนี้ ล่าสุดที่คุยกันอยากให้ทั้ง 2 ประเทศเกิดความสงบสุข ขอยืนยันการรักษาอธิปไตยเอาไว้
นายกฯยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน อะไรที่เกิดความเร่งด่วนจำเป็น ขอให้รายงานตรงมายัง ก.กลาโหม และ ก.มหาดไทย เพราะทั้ง 2 รองนายกฯติดต่อตรงกับตนอยู่แล้ว ยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ อยากให้ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ว่า ทำอะไรอยู่บ้าง ให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน ไม่เข้าใจผิดและไม่ให้ปล่อยเฟกนิวส์ อาจโดนไอโอบ้างอะไรบ้าง มีการปล่อยข้อมูลที่เกิดความเข้าใจผิดกัน จะทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคมได้ ขอให้ทุกคนทำงานร่วมกันเต็มที่เป็นทีมเดียวกัน ประเทศไทยเป็นของพวกเราทุกคน เราต้องรักษาไว้
ต่อมาเวลา 12.10 น. น.ส.แพทองธาร พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และคณะ เดินทางมายังฐานปฏิบัติการกลาง ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง ประมาณ 350 เมตร ตรวจเยี่ยม มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้แก่กำลังพล กองกำลังสุรนารีและร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับกำลังพล ที่ฐานปฏิบัติการกลางดังกล่าว โดยรับประทานเป็นข้าวกล่อง มีข้าวไข่เจียว หมูทอดและทุเรียนพนมดงรัก โดยนั่งร่วมโต๊ะทานกับนายภูมิธรรม นายอนุทิน พล.ท.บุญสิน พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผบ.กกล.สุรนารี และนายชำนาญ ชื่นตา ผวจ.สุรินทร์
ภายหลังรับประทานอาหาร น.ส.แพทองธาร เดินเข้ามาพูดคุย ทักทาย ให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ โดยสอบถามทหารว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทุกคนทำหน้าที่กันเต็มที่ ขอบคุณมากๆ ก่อนพูดติดตลกว่า “ทำไมทุกคนดูเงียบกันจัง” จากนั้นนายกฯพูดคุยกับ พล.อ.ณัฐพล สอบถามถึงเรื่องเวลาการเปิด-ปิดด่านว่าขณะนี้ ช่วงเวลาเหมาะสมแล้วหรือไม่ หรือจะต้องมีอะไรปรับเปลี่ยนหรือไม่ เสร็จแล้วนายกฯพร้อมคณะเดินทางต่อไปยังจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ประชุมรับฟังสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่ ที่ห้องประชุมหน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ 2 ก่อนจะเดินดูพื้นที่ประตูด่านชายแดนและการรายงานข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ จนท.หน้าด่านของกัมพูชา พากันมายืนสังเกตการณ์ที่บริเวณประตูด่านฝั่งกัมพูชาอีกด้วย
นายกฯได้รับฟังรายงานและสอบถามถึงสถานการณ์การข้ามแดนจาก พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.ตม.จ.สุรินทร์ นายชินวัฒน์ จันเกษม นายด่านศุลกากรช่องจอมและแม่ทัพภาค 2 ก่อนถ่ายภาพหมู่ร่วมกันระหว่างอยู่ที่ด่านถาวรช่องจอม นายศิริชัย ตันติรุตนานนท์ นายก อบต.ด่าน และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ได้ยื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อให้พิจารณาการสร้างด่านถาวรแห่งใหม่ที่ จ.สุรินทร์ เนื่องจากด่านเก่ามีขนาดเล็ก อยากให้ทุกหน่วยงานมาอยู่รวมกันทำเป็น One Stop Service น.ส.แพทองธารยังได้เดินพบปะกับประชาชนและส่วนราชการ สอบถามว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ถ่ายรูปร่วมกันได้นะ ชาวบ้านที่มาต้อนรับต่างกล่าวชมนายกฯว่า “สวยจังเลย” พร้อมขอถ่ายภาพกับนายกฯ นอกจากนี้มีตัวแทนสมาคมแม่บ้านมหาดไทย มอบผ้าไหมสุรินทร์ให้กับนายกฯ บอกว่า ของดี ราคาถูก ไม่ถึง 3,000 บาท เป็นลายยกดอก นายกฯตอบว่า “ค่ะ ขอบคุณค่ะ สวย ซื้อผ้าไหมสุรินทร์บ่อย”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรดาชาวบ้านที่มาร่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรี ต่างพากันส่องเลขเด็ด จากทะเบียนรถตู้เบนซ์สีดำ ที่นายกรัฐมนตรีนั่งมา หมายเลข นข 6689 สุรินทร์ เพื่อนำไปเสี่ยงโชคในงวดที่จะถึงนี้อีกด้วย
จากนั้น น.ส.แพทองธารเดินทางต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ต.ตะเคียน อ.กาบเชิง พบปะชาวบ้านมอบสิ่ง ของและตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้นายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทินว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค ให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ ก่อนไปเยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ และสอบถามชาวบ้านว่า ทำมานานหรือยัง ชาวบ้านบอกว่า “เมื่อวาน จะทำให้เสร็จภายในวันนี้ พอนายกฯมาก็อยากทำให้เสร็จเลย” นายกฯจึงบอกต่อว่า “ขอบคุณค่ะ ให้กำลังใจ อย่าลืมกินข้าวด้วย เดี๋ยวไม่มีแรง ทำอยู่เดี๋ยวเป็นลม”
พร้อมกันนี้นายกฯได้สอบถามว่า “ระหว่างหลุมหลบภัยแบบสี่เหลี่ยมกับวงกลม แบบไหนดีกว่ากัน แล้วยางรถยนต์ล่ะ” นายชำนาญ ชื่นตา ผวจ.สุรินทร์ รายงานว่า หลุมที่เห็นเป็นหลุมชั่วคราว เวลายิงกันไม่นาน หลุมสี่เหลี่ยมเป็นแบบของราชการ แต่ที่ทำวงกลมนี้ ขอบริจาคมา ยังไม่ได้ใช้งบประมาณ ส่วนยางรถยนต์จะไม่นิยมใช้ เนื่องจากติดไฟง่าย ขอบริจาคมีอะไรก็เอาไปก่อน ขอบริจาคมาและชาวบ้านทำกันเอง นายกฯจึงตอบกลับว่า “ทำไมไม่แจ้งกระทรวงแจ้งมหาดไทยไปเลย ต้องทำให้มันดีๆ หรือเปล่า” เสร็จแล้วนายกฯได้ถ่ายภาพร่วมกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง ชาวบ้านได้ชมว่านายกฯสวย สวยมาก มีชาวบ้านหลายคนมาขอจับมือพร้อมบอกว่า “ขอจับมือหน่อย มือนิ่มไหม” ทำให้นายกฯขำและกล่าวว่า “มาเช็กว่ามือนิ่มไหม” เสร็จแล้วเดินทางไปยังสนามกีฬาเทศบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจไปยังสนามบินนานาชาติบุรีรัมย์ เดินทางกลับ กทม.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีไทยประกาศไม่รับเขตอำนาจศาลโลก แต่กัมพูชามีการตั้งคณะกรรมการนำเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชาขึ้นสู่ศาลโลก ว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ เราไม่ได้อยู่ในอำนาจศาลโลก ถ้าฟ้องฝั่งเดียวก็ฟ้องไป คนไม่ยอมรับก็ไม่ได้เข้าและเตรียมรับมือเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ไว้แล้ว เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงประเมินหรือไม่ว่าจะมีผลกระทบด้านอื่น เหมือนกรณีเขาพระวิหาร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เขาพระวิหารเป็นอีกเรื่องหนึ่งไม่เกี่ยว เมื่อถามว่าจะทำให้มีปัญหาคาใจอะไรกันหรือไม่ในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) วันที่ 14 มิ.ย. เพราะเรื่องยังไม่จบ นายภูมิธรรมกล่าวว่า อะไรก็ตามยังไม่จบในทีเดียว ต้องใช้เวลาคุยกัน กรณีขัดแย้งข้อพิพาทครั้งนี้ เราต้องการเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น
วันเดียวกัน ทีมโฆษกกองทัพไทยเปิดข้อมูลหลังการใช้มาตรการจำกัดการผ่านแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. ว่า สืบเนื่องจากการยกระดับมาตรการดูแลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้เห็นถึงคดีสแกมเมอร์และคดีค้ามนุษย์ลดลงใน 3 วันที่ผ่านมา รวมถึงการเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบและประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ตำรวจชายแดน ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานการณ์ด้านอาชญากรรมข้ามชาติ จำนวนคดี หลอกลวงออนไลน์ (Scammer) และการค้ามนุษย์ ลดลงถึงร้อยละ 31.45 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันก่อนการใช้มาตรการจำกัดการผ่านแดนไทย-กัมพูชา
อีกด้านเย็นวันเดียวกัน บิณฑ์-เอกพัน บรรลือฤทธิ์ พร้อมด้วยน้องทับทิม อัญรินทร์ และทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางมายังประสาทตาเมือนธม ต.ตาเมือง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นำเครื่องอุปโภค บริโภค ยาสามัญประ จำบ้าน มอบให้กับเหล่าทหารหาญที่ตรึงกำลังคอยดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่ในพื้นที่ โดยมี พ.อ.จิรัฎฐ์ ช่วงฉ่ำ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 นายเอกอนันต์ ตรีอินทร์ นอภ.อพนมดงรัก และเหล่าทหารให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณที่คนไทยทุกคนมีความห่วงใย ให้กำลังใจบรรดาทหารที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน จากนั้นคณะทั้งหมดได้เข้าเยี่ยมชมความงดงาม ฟังการบรรยายประวัติความเป็นมาของประสาทตาเมือนธม จากตัวแทนทหารไทย ก่อนเดินทางกลับในเวลาต่อมา
ด้านสำนักข่าวแขมร์ไทม์สรายงานว่า นายฮุน มณี รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา นำของขวัญจากสมาพันธ์ยุวชนแห่งกัมพูชา ไปมอบให้ทหารในจังหวัดพระวิหาร พร้อมกล่าวว่า ในนามของประชาชนชาวกัมพูชา สิ่งสำคัญคือการจับตาสถานการณ์พรมแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิดให้การสนับสนุนกองทัพ เชื่อมั่นว่ารัฐบาลกัมพูชาจะคลี่คลายปัญหาผ่านยุทธ ศาสตร์ 3 เสา คือการทูต ช่องทางกฎหมายและการเตรียมความพร้อมของกองทัพ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่