พรรครวมไทยสร้างชาติฟัดกันนัว “เอกนัฏ” ซัดหนังสือเถื่อนชงนายกฯปรับ ครม.เลื่อยขาเก้าอี้ “พีระพันธุ์” อัดพิรุธอื้อ สส.แห่ปฏิเสธ ลายเซ็นตัดแปะไม่ตรงกับในเอกสารราชการ แขวะ “สุชาติ” ลงชื่อรับรองด่าตัวเอง “นายกฯอิ๊งค์” ปิดปากไม่ตอบปมร้อนปรับ ครม. ถก ครม.อึมครึม รมต.ภท.แท็กทีมเข้าประชุมช้า ไม่ร่วมหารือวาระชายแดน ส่วน “เสี่ยตุ๋ย” เข้าทำเนียบฯเก็บตัว ไร้เงาร่วมวง ครม. “อนุทิน” ยึดคำพูดนายกฯ 4 มิ.ย. ยังไม่คิดปรับ ครม. ปัดจับมือ รทสช.ต่อรองโควตา รมต. จับตา ป.ป.ช.รับไต่สวนคำร้อง ครม.-สส.-สว.-เห็นชอบ พ.ร.บ.งบฯปี 68 โยกงบฯมาแจกเงินหมื่น ผิด รธน.มาตรา 144 “พิชัย” มั่นใจไร้ปัญหา ยันไม่ได้ตัดงบฯเงินต้น-ดอกเบี้ย โปะดิจิทัลวอลเล็ต “ประเสริฐ” โต้ทำตามขั้นตอน ไม่กังวลเป็นเหตุหลุดตำแหน่ง “วิญญัติ” เผยศาลอนุญาต “ทักษิณ” ขยาย 10 วันทำคำชี้แจงกรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ

จากกรณีที่มีข่าว 21 สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่งหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอปรับ ครม.ในสัดส่วนของพรรค โดยถูกตั้งข้อสังเกตจากแกนนำพรรคเป็นเอกสารเถื่อนมี สส.ที่ถูกอ้างชื่อออกมาปฏิเสธ ขณะที่นายกฯยังคงปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนในเรื่องดังกล่าว

 “อิ๊งค์” ไม่ตอบหนังสือ รทสช.จี้ปรับ ครม.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุม ที่หน้าตึกบัญชาการ 1 ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยและคณะเข้าพบนายกฯขอบคุณที่ช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาเกษตรกรและมารายงานตลอด พร้อมแก้ไขทุกเรื่องอยู่แล้ว อยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขอให้ทุกคน “รวยๆ รวยทุกปี” ตัวแทนเกษตรกรแซวว่าขอให้ได้สัก 1 เปอร์เซ็นต์ของนายกฯจากนั้นนายกฯเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 ผู้สื่อข่าวถามถึงหนังสือของ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่เสนอขอปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นำโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรค รทสช.ได้รับแล้วหรือไม่ นายกฯไม่ได้ตอบ

...

กระทั่งเวลา 12.50 น.ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล หลังแถลงข่าวหลังประชุม ครม. ผู้สื่อข่าวสอบถามนายกฯถึงการปรับ ครม. รวมถึงหนังสือที่มีลายเซ็น 21 สส.พรรค รทสช.เสนอให้ปรับ ครม.ในสัดส่วนของพรรค นายกฯยังคงไม่ตอบคำถามนี้ เพียงแค่หันมายิ้ม แล้วเดินไปขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที

รมต.ภท.เข้าช้าไม่ร่วมถกวาระชายแดน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุม ครม.ครั้งนี้เริ่มช้ากว่าปกติ จากเดิมเริ่มประชุม 10.00 น. แต่ครั้งนี้กว่าจะเริ่มได้ต้องรอถึงเวลาประมาณ 10.40 น. ส่วนหนึ่งเพราะรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เข้าห้องประชุมช้า โดย น.ส.แพทองธาร เข้าห้องประชุมเวลา 10.15 น. เมื่อเข้ามาแล้ว นายกฯได้หารือกับบรรดารัฐมนตรีคนอื่นๆเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จนกระทั่งเวลา 10.40 น. รัฐมนตรีพรรค ภท.ถึงจะเข้าห้องประชุม เป็นช่วงเวลาที่หารือเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาเสร็จสิ้นไปแล้ว เป็นที่น่าสังเกตว่าบรรยากาศการประชุมค่อนข้างอึมครึม ไม่คึกคักเหมือนทุกๆครั้ง

“พีระพันธุ์” เข้าทำเนียบฯแต่ไม่เข้า ครม.

ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางมาที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่มีใครเห็นว่าอยู่ในห้องประชุม ครม. และตลอดทั้งวันนายพีระพันธุ์ นั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงานตึกบัญชาการ 1 โดยเมื่อเวลา 15.40 น. นายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกฯประจำนายพีระพันธุ์และ ผอ.พรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นตึกบัญชาการ 1 คาดว่ามาพบหารือกับนายพีระพันธุ์

“ทวี” เผยนายกฯยังไม่นัดคุยพรรคร่วมฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า อยู่ที่นายกฯ ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานเพื่อพูดคุยปรับ ครม.แต่พรรคอื่นไม่ทราบ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการนัดดินเนอร์พรรคร่วมฯ เมื่อถามว่ากระทรวงยุติธรรมเป็นสายล่อฟ้าหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า “กระทรวงยุติธรรมไม่ใช่สายล่อฟ้า แต่ขึ้นกับสถานการณ์และบริบทในช่วงนั้น รัฐมนตรี และข้าราชการ ต้องทำตามกฎหมาย ยึดกฎหมายเป็นหลัก มั่นใจว่าการทำงานปฏิบัติตามหลักนิติธรรมปราศจากอคติ อำนวยความสะดวกให้ประชาชน

“อัครา” ย้ำในพรรคเพื่อไทยยังนิ่ง

นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ กล่าวถึงการปรับ ครม.ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ยังไม่ได้มีการแจ้งปรับ ครม.พรรคนิ่งมาก น่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ที่ปรึกษาประธานพรรคกล้าธรรม (กธ.) ก็ยังไม่ได้แจ้งอะไร ยังเดาแนวทางไม่ถูก ถึงแม้จะเป็นพี่ชาย ยังไม่ได้เจอกัน ตนเป็นสมาชิกพรรค พท.ทุกอย่างยังนิ่ง ร.อ.ธรรมนัสไม่เคยมาแจ้งว่าจะปรับ ครม.หรือปรับเปลี่ยนอะไร ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกัน ปรึกษาเรื่องงานมากกว่า เรื่องการเมืองไม่ได้คุยกันเลย ต้องฟังผู้ใหญ่พรรค พท. และรัฐมนตรีของพรรค พท.ยังปฏิบัติหน้าที่เต็มที่

“อนุทิน” ชี้นายกฯยังไม่แจ้งยังไม่คิด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯยังไม่มีการประสานมา ขอให้เลิกถามเรื่องปรับ ครม. เพราะนายกฯบอกว่าหากจะปรับเมื่อไหร่จะเรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือ ตอนนี้ยังไม่เรียกแสดงว่ายังไม่มีการปรับ เมื่อถามว่าหากมีเงื่อนไขแลกกระทรวงมหาดไทยกลับไปให้พรรค พท. พรรค ภท.จะว่าอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า พูดไปหมดแล้ว ยังไม่มีการปรับ ครม.ตอนนี้ ก็ทำงานเต็มที่ เมื่อถามย้ำว่าหากมีสัญญาณมาค่อยคุยตอนนั้นใช่หรือไม่ นายอนุทินย้ำว่า ไม่มีสัญญาณขอให้ผู้สื่อข่าวฟังท่านนายกฯวันที่ 4 มิ.ย. นายกฯบอกแล้ว ณ ขณะนี้ยังไม่มีความคิดที่จะปรับ หากจะปรับเมื่อไหร่จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลท่านพูดชัดเจน จะไปถามคนอื่นได้อย่างไร ภท.ไม่ได้คิดอะไร คิดแต่จะทำงาน โดยเฉพาะชายแดนต้องดูแลประชาชนอย่างไร เมื่อถามอีกว่าสถานการณ์การเมือง ขณะนี้ไม่มีอะไรน่ากังวล นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้ ทำงานกันเต็มที่อยู่และไม่มีประเด็นอะไรน่ากังวล

ปัดจับมือ รทสช.ต่อรองเก้าอี้ รมต.

เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรค รทสช.ขอจับมือกับพรรค ภท. เพื่อกดดันสร้างอำนาจต่อรองในการปรับ ครม. นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี จะไปกดดันได้อย่างไร อยู่ด้วยกันไม่ต้องกดดันกัน ที่ผ่านมาทำงานสร้างความเข้าใจผูกพันกันพอแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการสร้างอำนาจต่อรอง เพราะหากใช้คำว่าต่อรองจะวุ่นวาย ทุกอย่างต้องใช้เหตุใช้ผลหารือกัน ขณะนี้ยังไม่มีการนัดหัวหน้าพรรคร่วมทานข้าวตามธรรมเนียมเลย

“วิชัย” โต้ไม่จริง 3 สส.ชุมพรร่วมลงชื่อ

ส่วนความเคลื่อนไหวภายในพรรค รทสช. หลังช่วงค่ำวันที่ 9 มิ.ย. ที่มีรายชื่อ สส.พรรค รทสช. 21 คนลงลายมือชื่อในหนังสือถึงนายกฯเสนอขอปรับ ครม.ในสัดส่วนของพรรค รทสช.นำโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค รทสช. มีชื่อของนายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร เขต 1 อยู่ในลำดับที่ 5 เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 9 มิ.ย. นายวิชัยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชี้แจงกรณีนี้ว่า “ในฐานะตัวแทนของ สส.ทั้งสามเขตของ จ.ชุมพร ขอยืนยันว่าพวกเราไม่เคยได้ลงชื่อในหนังสือถึงนายกฯให้ปรับ ครม.ในสัดส่วนของพรรค รทสช.ที่ปรากฏตามข่าว ไม่เป็นความจริง” อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. มีภาพปรากฏ 3 สส.ชุมพร ประกอบด้วย นายวิชัย นายสันต์ แซ่ตั้ง เขต 2 และนายสุพล จุลใส เขต 3 ไปร่วมดื่มกาแฟ มี น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช เขต 10 นายสุชาติ รวมถึงนางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่ออยู่ในภาพด้วย

“เอกนัฏ” ฉะเอกสารเถื่อนข้อพิรุธเพียบ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เลขาธิการพรรค รทสช.กล่าวว่าตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ยื่นถึงนายกฯ จริงหรือไม่ มีหลายข้อพิรุธหลายอย่างหลังมีข่าวออกมา 1.มี สส.หลายท่านปฏิเสธ เช่น สส.ชุมพร 3 คน 2.เนื้อความเขียนว่ารัฐมนตรีของพรรคไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ ขาดจริยธรรม ลงชื่อโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ไม่ทราบว่านายสุชาติเห็นข้อความ ในเอกสารนี้หรือไม่ ถ้าเห็นแล้วอ่านแล้วแปลว่าลายเซ็นนายสุชาติ รับรองการด่าตัวเอง ต้องไปถามนายสุชาติว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และลายเซ็นที่เห็น หลายลายเซ็นไม่ตรงกับลายเซ็นที่ใช้ในเอกสารราชการ บางชื่อเซ็นแค่ตัวอักษรย่อ ผิดวิสัยเอกสารสำคัญ จึงไม่รู้ว่านำลายเซ็นที่เคยเซ็นมาประกอบเอกสารแนบหรือไม่ เรื่องนี้จะไปจัดการกันเองภายในพรรค ไม่เกี่ยวอะไรกับเสถียรภาพรัฐบาล พูดคุยกับนายพีระพันธุ์แล้ว ตอนนี้ให้โอกาสผู้มีรายชื่อได้แสดงความโปร่งใส หากไม่มีเจตนากดดันนายกฯ หรือด่ารัฐมนตรีของพรรคควรออกมาพูด ชัดเจนมีไม่ต่ำกว่า 5 คนออกมาปฏิเสธ นี่มันเอกสารเถื่อนแล้ว

เตือนอย่าทำผิดข้อบังคับพรรค

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า สส.ภายในพรรคอยากให้ขับออก นายเอกนัฏกล่าวว่า ยังไม่มีใครพูดเรื่องนี้ เป็นเอกสิทธิ์ของทุกคน แต่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค ขอเตือนว่าหากกระทำความผิดต่อข้อบังคับร้ายแรง เช่น การฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น ผิดจริยธรรมร้ายแรง บิดเบือนเอกสารและปลุกปั่นความแตกแยกภายในพรรคเพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง อาจมีผลทำให้ขาดสมาชิกภาพ ขอให้ไปอ่านดูดีๆ เมื่อถามว่าต้องตั้งคณะกรรมการสอบ 21 สส.ที่ลงชื่อหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ให้สื่อมวลชนไปสอบถาม 21 สส.ได้ไปลงชื่อหรือไม่ นายสุชาติมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ขอให้ไปถามเจ้าตัวเอง เพราะขณะนี้ยังไม่รับสายตนเลย จึงไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างไร แต่มันแปลกตรงที่ว่าใครจะไปเซ็นชื่อปลดตัวเอง ด้วยเหตุผลขาดความรู้ความสามารถและขาดจริยธรรม เพราะนายสุชาติเป็นรัฐมนตรี เมื่อถามว่าพรรค รทสช.จะเสนอปรับ ครม.ในสัดส่วนของพรรคหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า การจะปรับหรือไม่ปรับต้องรอสัญญาณจากนายกฯ และนายกฯได้ให้กำลังใจพรรครทสช.ทุกเรื่อง แต่ยังไม่ได้ถามว่ายื่นหนังสือถึงนายกฯจริงหรือไม่ และนายกฯสนับสนุนการทำงานเป็นอย่างดี

จับผิด 21 ชื่อตัดแปะจากงานอื่น

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ สมาชิกพรรค รทสช.กล่าวว่า ตั้งข้อสังเกตว่าหนังสือที่นายสุชาติยื่นและการเซ็นชื่อในหนังสือเป็นฉบับเดียวกันหรือไม่ หรือแค่มาแปะรวมกัน ตรวจสอบเป็นการเซ็นชื่อกรณีอื่น ไม่ใช่ประกอบการยื่นหนังสือครั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าตัดแข้งตัดขาร่างพ.ร.บ.พลังงาน พรรค รทสช. เขียนกฎหมาย 3 ฉบับ อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ หรือเป็นการกระทำให้กฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน หรือความพยายามจะล้มพรรค หรือเอานายพีระพันธุ์ออกหรือไม่ ที่ระบุนายพีระพันธุ์ นายเอกนัฏ ไม่มีคุณสมบัติ ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ยืนยันนายพีระพันธุ์กำลังต่อสู้เรื่องพลังงาน น่าจะเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่กล้างัดกับอะไรที่ไม่เคยกล้าทำมาก่อน ส่วนนายเอกนัฏต่อสู้กับจีนเทา ต้องถามกลับผลงานเป็นที่ประจักษ์แปลว่าอะไร ช่วงนี้ถูกเฟกนิวส์เยอะ

ครม.สัญจรพิษณุโลก 24 มิ.ย.

เมื่อเวลา 13.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.รับทราบรายงานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2568 ในวันที่ 24 มิ.ย. ที่ จ.พิษณุโลก ส่วนวันที่ 23 มิ.ย. เป็นการลงพื้นที่รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง และส่วนราชการต่างๆ เพื่อติดตามการบริหารราชการต่างๆ ในพื้นที่ จ.ตาก จ.พิษณุโลก จ.เพชรบูรณ์ จ.สุโขทัย และ จ.อุตรดิตถ์ เป้าหมายพิจารณาส่งเสริมการลงทุนโครงข่ายคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ การพัฒนา การท่องเที่ยว การยกระดับการเกษตร การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การบริหารจัดการน้ำ และการสร้างความมั่นคง ความปลอดภัย โดยมอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม เป็นประธานประชุมบูรณาการการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1

“ประเสริฐ” แจงโครงการน้ำที่มาที่ไปชัด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)รับเรื่องไต่สวนการทุจริตแผนการใช้งบฯจัดการทรัพยากรน้ำปี 2568 วงเงิน 51,584 ล้านบาท ที่นายประเสริฐอนุมัติเสนอเข้าสู่การประชุม ครม.ว่า ที่ไปที่มาของเงินทั้งหมดชัดเจน เริ่มจากหน่วยงานต่างๆคีย์เข้าระบบ Thai water plan และเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการระดับจังหวัด คณะกรรมการลุ่มน้ำและเข้าสู่คณะกรรมการน้ำแห่งชาติ ในฐานะประธานลงนามให้เข้า ครม.และยอดถูกตัดเหลือ 7,000 ล้านบาท ไม่ทราบใครไปยื่นร้อง ป.ป.ช.และยังไม่ได้รับหนังสือใดๆจาก ป.ป.ช. ทราบแค่จากรายงานข่าว ไม่อยากให้เป็นประเด็น ขอให้รอความชัดเจนจาก ป.ป.ช.ก่อน เมื่อถามว่าข่าวถูกปล่อยออกมาช่วงจะปรับ ครม.เป็นเกมการเมืองสกัดหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่อยากให้มองอย่างนั้น เรายึดการแก้ปัญหาประชาชนเป็นสำคัญ ยืนยันไม่มีการแปรงบฯ เพราะผ่านคณะกรรมการต่างๆ ไม่มีองค์ประกอบคนที่เป็น สส. เป็นหน่วยงานที่ขอมา

ยันโยงงบแจกเงินหมื่นตามขั้นตอน

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า ป.ป.ช.รับไต่สวนกรณีที่ ครม. สส. และ สว. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 ที่โยกงบฯมาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องของกระทรวงการคลัง เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะทำให้ ครม. สส. และ สว.มีความผิดหลุดจากตำแหน่งได้ นายประเสริฐกล่าวว่า “ไม่ง่ายมั้ง” เพราะเท่าที่ดูเหตุผล ยังไม่มีความชัดเจนที่จะทำให้สส.ติดบ่วงเรื่องนี้ และฟังจากรายงานข่าวต้องรอความชัดเจนจาก ป.ป.ช. เมื่อถามว่าทั้ง 2 เรื่องร้องเรียนนี้จะไม่ทำให้ครม.เสี่ยงใช่หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่าไม่เกี่ยวกับ ครม. เพราะอนุมัติไปตามขั้นตอนและวิธีการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เรื่องที่ดูแลอยู่ไม่มีอะไรผิดปกติ

“ขุนคลัง” ชี้ไม่ได้ตัดงบฯมั่นใจไร้ปัญหา

ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กล่าวถึงที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับเรื่องกรณีกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและพวกเป็นร้อยคนจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 144 วรรคหนึ่งและวรรคสอง 2 สำนวน โดยหนึ่งในนั้นมีเรื่องเงินดิจิทัลด้วยว่า ยังไม่เห็นเรื่องนี้ แต่ว่าได้รับทราบจากข้างนอก ต้องรอดูความเห็น เพราะเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆและยังไม่ทราบว่าที่ส่งมาคือประเด็นใด ส่วนคำร้องต่อ ป.ป.ช.อ้างว่า ครม.ไปตัดงบฯรายการเงินต้นและดอกเบี้ยรายจ่ายที่ควรใช้ แต่นำไปใช้ในโครงการแจกเงินหมื่นดิจิทัล ยืนยันไม่ได้ตัดเหมือนเดิม ไม่ได้ตัดเลยอย่างแน่นอน เมื่อถามว่าที่ว่ามีการหั่นเงินชดเชยธนาคาร นายพิชัยกล่าวว่า เรื่องธนาคารไม่ใช่เงินต้นหรือดอกเบี้ย ไม่ใช่ดอกเบี้ยตามนิยาม ยืนยันว่าไม่ได้ตัด เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดโดยยืนพื้นเดิม

ทสท.ปูดแบ่งเค้ก สส.หัวละ 50–300 ล้าน

นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เปิดเผยว่า พรรคติดตามใกล้ชิดกรณี ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องร้องเรียนให้ไต่สวนการจัดสรรงบฯ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ประจำปีงบฯ 68 กว่า 51,584 ล้านบาท มีลักษณะจัดสรรแบ่งเค้กให้ สส.อย่างน่าสงสัย มีข้อมูลว่ามีการเสนอแบ่งโควตางบฯให้ สส.รายละ 50-300 ล้านบาท ไม่มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนอาจเข้าข่ายละเมิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ห้าม สส.แทรกแซงการจัดทำงบฯ เชื่อว่ามีน้ำหนักน่าเชื่อถือและรัฐบาลอนุมัติงบกลางอีกหลายก้อน อาทิ งบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถูกโยกมาจากโครงการแจกเงินหมื่น ปี 68 วงเงิน 157,000 ล้านบาท จะนำไปใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมและแล้งแทน ใช้ชื่อโครงการคล้ายคลึงกัน โดยไม่มีรายละเอียดเพียงพอ ส่วนใหญ่กระจุกอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคแกนนำฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรค พท.

จับตา 1.5 แสนล้านงบกลางปี 68 ส่อโกง

นายปริเยศกล่าวว่า แม้กระทั่งช่วงที่มีข่าวคราวปัญหาชายแดน รัฐบาลอนุมัติงบกลางอย่างรีบเร่ง สำหรับแผนงานรัฐบาลดิจิทัล สำหรับปี 68 และ 69 ร่วม 700 ล้านบาท น่าจะนำบรรจุในงบฯประจำปี 69 ได้ เพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล น่าสนใจเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.มีการอนุมัติงบฯ แต่ทีมโฆษกรัฐบาลกลับไม่แถลงเรื่องนี้ พรรค ทสท.จะทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ เปิดโปงพฤติกรรมทุจริตในการใช้งบฯสาธารณะทุกรูปแบบของรัฐบาล โดยเฉพาะงบกลาง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยรายละเอียดการใช้จ่ายทุกโครงการ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงและตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส เพื่อสร้างการเมืองสุจริตให้เกิดขึ้นได้จริง

ศาลอนุญาตขยาย 10 วันแจงคดีชั้น 14

วันเดียวกัน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตั้งองค์คณะไต่สวนการบังคับโทษจำคุกของนายทักษิณที่ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย. ว่าตามที่เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าจะมีการเลื่อนนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ที่มีข่าวออกมาในฐานะทนายความของทักษิณได้ยื่นคำขอขยายเวลาส่งเอกสารคำชี้แจงต่อศาลออกไปก่อน 30 วัน แต่ศาลได้มีการอนุญาต 10 วัน เป็นภายในวันที่ 23 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ เมื่อครบกำหนดขยายเวลาแล้วนายทักษิณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปศาลด้วยตัวเอง ในวันที่ 13 มิ.ย. ตนในฐานะทนายความจะเดินทางไปยังศาลฎีกาฯตามนัดไต่สวน โดยที่นายทักษิณจะไม่ได้เดินทางไปด้วยตนเอง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่