ประเด็นการถอนทหารของกัมพูชา บริเวณช่องบก ที่ดูเหมือนว่า สถานการณ์ข้อพิพาทเขตแดน ไทย–กัมพูชา จะคลี่คลายไปในทางที่ดี ถึงขนาดที่รองนายกฯและ รมว.กลาโหมของไทย ภูมิธรรม เวชยชัย ออกแถลงการณ์ ขอบคุณกัมพูชา ที่ถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทเข้าสู่โหมดการเจรจาผ่านคณะกรรมการร่วมเขตแดนไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้

ยังไม่ทันจะแสดงความยินดี สมเด็จฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานรัฐสภากัมพูชา โพสต์ข้อความยืนยันว่า กัมพูชายังไม่มีข้อตกลงในการถอนทหารออกจากพื้นที่แต่อย่างใด เป็นเพียงการปรับทัพ โดยอธิบายให้เห็นภาพด้วยว่า เหมือนเป็นการเปลี่ยนท่านอนบนเตียง อีกทั้งเงื่อนไขที่ กัมพูชายืนยันว่าจะ ส่งศาลโลก ให้ชี้ขาดเรื่องของเขตแดนพิพาท รวมทั้งปราสาทอีก 2-3 แห่งในบริเวณใกล้เคียง โดยอ้างว่าอยู่ในการครอบครองของกัมพูชาก็หมายความว่าเรื่องข้อพิพาทเขตแดนไทย-กัมพูชายังเป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องสู้กันอีก หลายยก ตามมาด้วยความสงสัยว่า แล้วฝ่ายไทยจะไปรีบขอบคุณกัมพูชาทำไม ในเมื่อเรามั่นใจว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายผิด

กรณีข่าวฮือฮา ทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ลืมเงินไว้ในลังจำนวน 12 ล้านบาท ทำให้ชาวเน็ตสนใจว่า ทวีวัฒน์ คนนี้เป็นใครตามข่าวบอกว่าเป็นที่ปรึกษา กสทช. มีภรรยาเป็นข้าราชการอยู่ใน ป.ป.ช. อ้างอิงจากการไปขุดของ รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน ปรากฏข้อมูลว่า ทวีวัฒน์ เป็นที่ปรึกษาบอร์ด กสทช. ต่อพงศ์ เสลานนท์ เคยเป็นอนุกรรมการใน กสทช.หลายคณะ อาทิ คณะอนุกรรมการศึกษาวิเคราะห์การรวมธุรกิจระหว่างทรูกับดีแทค คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กสทช.สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลก อนุกรรมการติดตามการประเมินผลการรวมธุรกิจทรูและดีแทค อนุกรรมการจัดให้มีการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม อนุกรรมการกรองงาน กสทช. เกี่ยวกับ การจัดสรรเงินกองทุนวิจัยและพัฒนา

...

แสดงว่าเป็นบุคคลสำคัญสำหรับ กสทช.พอสมควร สส.รักชนกยังขยายความด้วยว่า บอร์ด กสทช.ต่อพงศ์ เคยเป็นคณะที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่มีมูลค่า 2 แสนกว่าล้าน อายุการสัมปทาน 50 ปีและมีบริษัทเอเชีย เอรา วัน หรือซีพี เป็นผู้รับสัมปทาน ทั้งยังโยงไปถึงชื่อของคณะกรรมการที่ให้ความเห็นชอบในการควบรวมทรูกับดีแทค บทสรุปเงิน 12 ล้านจะไปจบที่ใครอย่างไร แค่ไหน ต้องรอดูผลลัพธ์จากการไปยื่นหนังสือให้กรมสรรพากรตรวจสอบเส้นทางเงิน ยื่น ป.ป.ช.ถึงการยื่นบัญชีทรัพย์สิน และยื่นให้ กสทช.ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย สส.ไอซ์ตบท้ายว่า เงิน 12 ล้านอาจมองเป็นเรื่องตลก แต่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องใหญ่พอกับตึก สตง.ถล่ม

ที่ยังจับมือใครดมไม่ได้ แค่เปลี่ยนท่าเอาหน้ารอดไปเรื่อยๆ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th 

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม