“อนุทิน” แจงข้อความขออภัย “นายกฯ อิ๊งค์” หลัง “ไชยชนก ชิดชอบ” ประกาศกลางสภาฯ ไม่เอากาสิโน บอกยังไม่ได้คุยกัน ยืนยันไม่ใช่มติพรรค เป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว ย้ำจากนี้สวนมติพรรคไม่ได้ เชื่อไม่กระทบสถานะพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 10 เมษายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่ นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 จะไม่รับร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันกับนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ ว่า ตนส่งข้อความผ่านไลน์ไปแจ้งท่านแล้วว่า สิ่งที่นายไชยชนกได้อภิปรายเป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งพรรคก็มีแนวทางในเรื่องนี้แล้ว (อ่านเพิ่มเติม : “ไชยชนก” ประกาศกร้าวไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน พร้อมเตือนสติปม “ภาษีทรัมป์”)
ผู้สื่อข่าวถามต่อ นายกรัฐมนตรีโอเคและไม่ได้ติดใจอะไรใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า มันก็ไม่ดีหรอก เพราะก่อนที่สมาชิกพรรคจะขึ้นอภิปราย พรรคต้องอนุมัติก่อน ซึ่งกรณีเมื่อวานพรรคไม่ได้มีการอนุมัติ ส่วนคำถามว่าได้มีการเคลียร์กับนายไชยชนกแล้วหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ยังไม่ต้องเคลียร์ รู้สึกว่าเขามีความเครียดเยอะ ซึ่งนายไชยชนกก็ไม่ได้แจ้งตนว่าจะขึ้นอภิปราย นี่คือเหตุผลที่พรรคจะมีการประชุมทุกครั้งก่อนที่จะประชุมสภาฯ เพื่อที่จะรู้ได้ว่าสมาชิกคนไหนจะพูดเรื่องอะไรบ้าง เราไม่ได้มีมติว่าวันพรุ่งนี้จะให้มีใครขึ้นมาพูด ฉะนั้นตนก็ไม่รู้ เพราะถ้าพรรคมีมติให้นายไชยชนกขึ้นมาพูดเรื่องอย่างนี้ ตนก็ต้องอยู่ในที่ประชุมสภาฯ แต่นี่ตนไปทำงานอยู่ข้างนอก
...
ทางด้านคำถามว่าได้มีการพูดคุยกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ในฐานะบิดาของนายไชยชนก แล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ก็คุย แต่อย่างที่ตนบอกว่านายไชยชนก เขาพูดในนามของเขาเอง อย่าไปมองว่าเขาเป็นลูกชายของใคร ทุกคนสามารถมีความคิดเป็นของตัวเองได้ ถ้าเขาพูดในนามพรรคเมื่อไหร่ค่อยเป็นประเด็น แต่นี่เขาพูดในนามส่วนตัวของเขา ก็เหมือนกับพรรคอื่นที่ร่วมรัฐบาล ก็มีคนที่ไม่เห็นด้วยเยอะแยะ บางพรรคก็มี 3-4 คนที่ไม่เห็นด้วย บางพรรคก็มีสมาชิกอีกหลายคนถึงขั้นออกแถลงการณ์มา ส่วนพรรคภูมิใจไทยตอนแรกคิดว่าจะไม่มี แต่ก็ดันมีแล้วคนหนึ่ง ซึ่งคิดว่าตนต้องไปแก้ไข แต่ยืนยันว่าไม่ใช่มติของพรรค ย้ำว่าแนวทางพรรคภูมิใจไทยยังเหมือนเดิมคือสนับสนุนรัฐบาล

ในคำถามว่ารู้สึกอึดอัดหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า อึดอัดเมื่อวาน แต่วันนี้ไม่อึดอัดแล้ว ตอนที่นายไชยชนกขึ้นพูดตนรู้สึกอึดอัดเพราะเป็นห่วง ลุ้น แต่ตอนนี้ไม่อึดอัดแล้ว เพราะมีความชัดเจนแล้วว่าพรรคภูมิใจไทยมี 1 คนที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้นโยบายนี้ ซึ่งตนก็ต้องไปแก้ไข ต้องให้ไม่มีคนที่ 2 คนที่ 3 ส่วนกรณีความเห็นของ นายชาดา ไทยเศรษฐ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย นั้นเป็นเรื่องของศาสนา
สำหรับกรณีมีคนมองว่า นายไชยชนก ที่อภิปรายนั้นเป็นเลขาธิการพรรค ไม่ใช่สมาชิกธรรมดา นายอนุทิน ย้ำว่า นายไชยชนกไม่ได้พูดในนามพรรค เพราะพรรคไม่ได้มีมติ ย้ำว่าพรรคมีแนวทางที่ชัดเจนจะสนับสนุนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล กรณีนี้ก็เช่นกัน ร่างพระราชบัญญัติทุกอย่างที่เข้าสู่สภาฯ ได้ ก็ต้องผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยมีตั้ง 8 คน หนึ่งในนั้นเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อร่างนี้ผ่าน ครม. เข้าสู่สภาฯ ก็เท่ากับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเห็นชอบแล้ว ซึ่งแบบนี้ถือเป็นมติพรรค แต่การที่อยู่ๆ มี สส.คนหนึ่ง ที่พอดีท่านเป็นเลขาธิการพรรค แล้วลุกขึ้นอภิปรายในสิ่งที่ไม่ได้หารือกับพรรค อันนี้ต้องถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ เขามีสิทธิ์ตนห้ามเขาไม่ได้
เมื่อถามต่อไปได้มีการพูดคุยกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายอนุทิน เผยว่า ตนต้องพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งได้เขียนข้อความผ่านไลน์ไปขออภัยท่านนายกรัฐมนตรีแล้ว ตนคิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย อย่างที่ตนบอกถ้าเรื่องสำคัญแบบนี้ ถ้าทราบว่าจะมีการอภิปรายแบบนี้ ถ้าเขาบอกตนก่อน ตนก็ต้องอยู่ในสภาฯ ด้วย แต่เมื่อวานมีภารกิจสำคัญมากและไม่คิดว่าจะมีคิวที่นายไชยชนกพูด
พร้อมกันนี้ นายอนุทิน ยอมรับว่าสบายใจขึ้นหลังได้ชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีให้เกิดความเข้าใจ แต่ถ้าถามในฐานะเลขาธิการพรรคและลูกหลานก็ไม่สบายใจเต็มที่ ซึ่งตอนนายไชยชนกพูดตนนั่งอยู่ในรถ ไม่ได้เห็นภาพก็นั่งเกร็งอยู่หลายระลอกเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็เร่งไปที่สภาฯ ดูว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าจำเป็นอาจจะต้องลุกขึ้นแถลงว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีแนวคิดแบบนั้น แต่เรื่องนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล และเมื่อเข้าสภาฯ เจอผู้สื่อข่าวก่อน ก็มีโอกาสได้พูดให้ผู้สื่อข่าวฟัง

กังวลหรือไม่ว่ากระแสที่จะนำออกจากพรรคร่วมกลับมาอีกครั้ง นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนั้นตนไม่ห่วง อย่างที่บอกแนวทางของพรรคภูมิใจไทยเรื่องนี้ผ่าน ครม. ไปแล้ว และเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเรียกพรรคร่วมรัฐบาลคุยก็มีการแจ้งกันหมดแล้ว มีบางพรรคที่ 4-5 คนไม่เห็นด้วยก็แจ้งไว้ ซึ่งหัวหน้าพรรคบางพรรคบอกไม่มีปัญหา แต่ก็มีแถลงการณ์ออกมาไม่สามารถรับได้ ส่วนตนก็บอกว่าไม่ได้มีปัญหา พรรคภูมิใจไทยไม่เคยมีปัญหาแบบนี้ แต่ตอนนี้มีปัญหา 1 คนก็ต้องแจ้งท่านนายกรัฐมนตรี และเป็นหน้าที่ของตนที่จะไปบอก สส.ทุกคนของพรรค อย่าไปมองว่านายไชยชนกเป็นลูกชายนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และเลขาธิการพรรค เพราะนายไชยชนก พูดในสภาฯ ว่าเป็นราษฎรคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าเป็นผู้แทนราษฎร ซึ่งตรงนี้เราห้ามเขาไม่ได้ หน้าที่ตนตอนนี้ก็ต้องไปคุยกับเขา คุณได้แสดงท่าทีออกไปแล้ว แต่ถ้าพรรคมีมติคุณต้องโหวต จะสวนมติพรรคไม่ได้ ถ้าสวนกับพรรคพรรคก็มีกฎระเบียบที่จะดำเนินการเหมือนสมาชิกพรรคทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าเป็นคนกลางลำบากใจหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวตอบรับว่าลำบากใจ เวลาต้องมาเป็นกันชนลำบากใจแน่นอน เพราะตนเป็นกันชนถูกชนก่อน เราจะให้คู่กรณีไปชนกันไม่ได้ ลำบากใจ แต่ตนก็เป็นหัวหน้าพรรค ก็ต้องทำตามตน เมื่อถามว่าปัญหานี้ถึงขั้นต้องปรับเปลี่ยนอะไรในพรรคหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า เดี๋ยวเราไปพูดคุยกัน เพราะเอกลักษณ์ของพรรคที่ทุกคนมีความภาคภูมิใจ เวลาไปพูดหรือเจรจากับใคร ตนให้ความมั่นใจกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนก็บอกว่าไม่ต้องกังวล อย่างเช่นก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนที่จะรู้ว่านายกรัฐมนตรีโดนอยู่คนเดียว ตนก็ได้แสดงความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนทุกคนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้น เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ และเอกภาพ ซึ่งตนเป็นหัวหน้าพรรคจะให้ใครมาทำลายและแตะไม่ได้ ถ้าใครมาแตะตรงนี้แล้วมีตำแหน่งก็ต้องดำเนินการ.