การเมืองไม่โกงก็พอ อนุทินค้าน กฎหมายสกัดปฏิวัติ ซัดแทรกแซงกองทัพ

“สนธิ” นำมวลชนบุกทำเนียบฯ ยื่น 6 ข้อ เรียกร้องจี้นายกฯยุติดำเนินการตาม MOU 44 ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความMOU 44 และ JC 2544 แถลงการณ์ร่วมทักษิณ-ฮุน เซน ขัดรัฐธรรมนูญ เบรกตั้งกรรมการเจทีซีไปก่อน พร้อมตั้งเวทีสาธารณะให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินเรื่องสำคัญของชาติ ขีดเส้น 15 วัน มาทวง คำตอบ “ภูมิธรรม” ลงที่สื่อขออย่าถามเกินเลยตอกลิ่มความขัดแย้ง “วิสุทธิ์” โวยเรื่องค้าง 20 ปียังไม่ผ่านรัฐสภา อย่าอ้างเหตุปลุกม็อบลงถนน “อนุทิน” ค้านแหลก เพื่อไทยแก้กฎหมายสกัดปฏิวัติ ย้ำชัดการเมืองไม่ควรแทรกแซงกองทัพ แค่นักการเมืองทำตัวให้ดี อย่าขี้โกง ไม่ไปลงถนน “ภูมิธรรม” ปัดวุ่นร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบ กลาโหมฉบับ “หัวเขียง” กับพวก ไม่ใช่จุดยืนพรรค พท. วิปสามฝ่ายนัด 12 ธ.ค. หารือจัดคิวแก้รัฐธรรมนูญ กมธ.ศึกษานิรโทษกรรมซุ่มวางไทม์ไลน์ประกาศใช้ มิ.ย.68

นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำมวลชนเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกร้อง 6 ข้อเพื่อให้รัฐบาลยกเลิก MOU44โดยกำหนดเวลา 15 วันจะกลับมาทวงคำตอบ ขณะที่รัฐบาลยืนยันยังไม่มีการเจรจาใดๆ กับฝ่ายกัมพูชาทั้งสิ้น

“อ้วน” ขอสื่ออย่าถามเกินเลย MOU44

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลให้ยกเลิก MOU44 ว่า นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง น่าจะไปรับหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล รัฐบาล พร้อมรับฟังความคิดเห็น แต่ยังไม่ได้เริ่มอะไรเลย ประเด็นอย่างโน้นอย่างนี้คือสื่อไปตั้งคำถาม ไปลงในสิ่งที่ถาม ขอความกรุณาเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น ไม่มีผลดีต่อประเทศ ทำให้ประเทศหมดความเชื่อมั่น อยากขอร้องว่าอย่าไปตั้งคำถามอะไรเกินเลย อย่าให้ข้อเท็จจริงเกิดแล้วค่อยถามข้อเท็จจริง

โวยอย่าอ้างเหตุปลุกม็อบลงถนน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท. ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านจะตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิเส้นไหล่ทวีปราชอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (เอ็มโอยู 44) ว่าไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะถามวันใด แต่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลชี้แจงได้ แต่ตั้งแต่ปี 2544 ยังไม่มีการเจราจาใด ผ่านมา 20 ปี ยังไม่มีการอนุมัติใดๆจากสภาฯ ที่พูดหรือวิตกกังวลพูดกันไป ความจริงยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเป็นสิทธิที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม.จะยื่นหนังสือถึงนายกฯ แต่สุดท้ายต้องจบที่รัฐสภา พูดกันในสภาฯได้ ไม่จำเป็นต้องไปปิดถนน ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ยินดีจะรีบจัดให้ทันที เรื่องนี้จะมาเขย่ารัฐบาลอย่างไรในเมื่อยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ยังไม่เสียดินแดนแม้แต่นิ้วเดียว

“สนธิ” มาตามนัดจี้นายกฯยกเลิก

ต่อมาเวลา 09.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรฯ นัดมวลชนมาร่วมลงชื่อแนบท้ายคำร้องและยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯให้ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 มีนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา อดีตทนาย กปปส. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัย รังสิต พร้อมมวลชนจำนวนหนึ่งทยอยมารอต้อนรับ จากนั้นเวลา 09.38 น. นายสนธินำสไลด์ภาพ ส.ค.ส. พ.ศ.2547 ของในหลวง ร.9 ที่เป็นภาพแผนที่ตามพระบรมราชโองการประกาศเส้นทวีปของประเทศ ไทยด้านอ่าวไทย พ.ศ.2516 และแผนที่เส้นแบ่งเขตแดนมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยนายสนธิและนายปานเทพยื่นหนังสือถึงนายกฯผ่านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง มีเนื้อหาสรุปว่าขอให้นายกฯหยุดดำเนินการตาม MOU 2544 และแถลงการณ์ร่วมระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร นายกฯไทยกับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกฯกัมพูชา (JC 2544) เพราะมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการในการประกาศทะเลอาณาเขตและเขตทะเลต่อเนื่อง ขอให้ปฏิบัติตามข้อเสนอภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ

บี้ส่งศาล รธน.ตีความ-ยุติตั้งเจทีซี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อเรียกร้องที่นายสนธิเสนอต่อนายกฯ มี 6 ข้อ คือ 1.ขอให้นายกฯ และ ครม.รักษาไว้ซึ่งเอกราชและอธิปไตยของไทย และแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีป เป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาล 2.ขอให้นายกฯ เสนอเรื่องต่อ ครม.พิจารณามีมติให้ส่ง MOU 2544 และ JC 2544 ต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติมาตราหนึ่งและมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญไทยหรือไม่ 3.หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU 2544 และ JC 2544 ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญให้ยกเลิกการเจรจาตาม MOU 2544 และ JC 2544 เพื่อปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาทันที

ให้เบรกตั้งเจทีซี-ผุดเวทีสาธารณะ

ข้อ 4.หากศาลวินิจฉัยแล้วว่าไม่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ขอให้ ครม.จัดให้มีการเจรจากับกัมพูชา เพื่อยกเลิก MOU 2544 และ JC 2544 ทันที ให้เจรจากันใหม่ภายใต้การกำหนดขอบเขตเฉพาะพื้นที่พัฒนาร่วมบนพื้นฐานโดยใช้หลักการของเส้นมัธยะ ข้อ 5.ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคหรือ JTC ไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและดำเนินการให้ถูกต้อง และข้อ 6.ให้จัดเวทีสาธารณะแก่ประชาชนเรื่อง MOU 2544 และ JC 2544 ให้ความรู้ความเข้าใจที่เป็นกลาง เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องสำคัญของประเทศ ทั้งนี้ขอให้ ครม.พิจารณาและแจ้งผลการพิจารณากลับภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ ครม.ได้พิจารณา

ขีดเส้น 15 วันกลับมาทวงคำตอบ

จากนั้นนายสนธิแถลงหลังการยื่นหนังสือว่า มีคำถามว่า MOU 2544 เกิดขึ้นได้อย่างไร คำตอบคือเกิดขึ้นเพราะนายทักษิณ จับมือกับสมเด็จฮุน เซน เพื่อร่าง MOU 2544 ลากเส้นของตัวเองเข้ามากินในพื้นที่ของคนไทย มีนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการ ถามว่าทำไมถึงกล้าพอที่จะร่าง MOU 2544 นายสุรเกียรติ์ต้องการให้นายทักษิณส่งเสริมให้ตัวเองเข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการสหประชาชาติในตอนนั้น ประเทศไทยไม่เคยมีพื้นที่ทับซ้อน แต่เรามีนายกฯทับซ้อน ตนกล้าพูดว่า MOU2544 เป็น MOU ขายชาติ ตนให้เวลารัฐบาลชุดนี้ 15 วัน หลังจากนั้นจะมาติดตามผล ซึ่งขั้นตอนต่อไปตนจะร้องเรียนต่อประธานสภาฯ จะส่งเอกสารให้ สส. สว.ทุกคนยืนยันสิทธิของประเทศ ไทย หาก สส. สว.คนไหนลงมติเห็นชอบ MOU 2544 จะถือว่าอยู่ในขบวนการร่วมกันขายชาติเช่นกัน หากอนาคตความจริงปรากฏ จะทำให้ สส. สว.ที่ยกมือติดคุกติดตะรางในฐานะขายชาติ นอกจากนี้ จะยื่นหนังสือร้องเรียนที่กระทรวงการต่างประเทศ ถ้าท่านไม่ปกป้องอาณาเขตไทยร่างสัญญาใหม่แล้วตกลงทำตาม ท่านก็คือข้าราชการขายชาติเช่นกัน

สกัดนายกฯทับซ้อนแบ่ง 50:50

นายสนธิกล่าวว่า นี่คือประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ต้องทำด้วยความระมัดระวัง การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องชนะลูกเดียว พวกแกนนำเก่าๆพากันพูดว่าไม่มีมวลชนแล้ว วันนี้ไม่ได้ปลุกระดมพ่อแม่พี่น้องแต่ว่ามากันด้วยใจ ถ้าถึงเวลาจะต้องลงถนนกันจะมามากกว่านี้เป็นพันเท่า ถ้าอะไรที่เป็นของเราแล้วมาเอาไปต้องเจอกัน บางคนพูดถึงเรื่องเก่าว่าประเทศไม่เดินหน้าเพราะการประท้วง ตนเป็นสารตั้งต้นความวุ่นวาย ถามว่าที่ประท้วงในปี 2548 เราประท้วงใคร เรื่องอะไรใช้เวลา 18 ปี พิสูจน์ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวให้นายทักษิณสารภาพผิดและบรรจุลงในราชกิจจานุเบกษาว่าได้คดโกงประเทศชาติอย่างไร ความจริงและประวัติศาสตร์รอมาตั้ง 18 ปี ขอถามถึงนายกฯ และพรรคเพื่อไทย ตนและพวกทำผิดตรงไหนที่ไม่ยอมส่งดินแดนของเราให้กับกัมพูชา เพียงเพราะนายกฯทับซ้อนบางคนมีข้อตกลงกัน จะแบ่งผลประโยชน์กันห้าสิบห้าสิบ “ตามความรู้สึกผม พวกเราคงได้เจอกันอีกหลายครั้ง” นายสนธิกล่าวจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมแยกย้ายเดินทางกลับไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบฯ เวลา 10.40 น. เป็นช่วงที่นายสนธิยื่นหนังสือเสร็จเรียบร้อยแล้ว

วิป 3 ฝ่ายนัดหารือจัดคิวถกแก้ รธน.

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์หลังหารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ว่า ได้หารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ขอความกรุณาให้เลื่อนวันประชุมวิป 3 ฝ่าย จากวันที่ 13 ธ.ค. ที่ตรงกับ วันที่พรรค พท.จะไปจัดงานสัมมนาพรรคที่ จ.ประจวบ คีรีขันธ์ มาเป็นวันที่ 12 ธ.ค. เพราะตรงกับวันที่มีการประชุมสภาฯอยู่แล้ว สส.พรรค พท.มาประชุมเช่นกัน โดยนายวันมูหะมัดนอร์เห็นชอบ และจะมีการประชุมวิป 3 ฝ่าย วันที่ 12 ธ.ค.เวลา 13.00 น.รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยื่นเข้ามา 17 ฉบับและการประชุมที่ต้องอาศัยเสียง 3 ฝ่ายเกี่ยวกับกฎหมาย ป.ป.ช. มีร่างของ ครม.และฝ่ายค้านแล้ว สำหรับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรค พท.ทราบว่าเสร็จแล้ว ส่วนที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯมาตอบกระทู้วันที่ 12 ธ.ค. นายกฯแถลงผลงานข้างนอกจะถามกระทู้พร้อมกัน อาจทำไม่ได้ ต้องยึดข้อบังคับการประชุม ไม่ใช่จะต้องตามใจใครทุกอย่าง

ไทม์ไลน์นิรโทษฯบังคับใช้ มิ.ย.68

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสภาฯว่า สำหรับการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ส่วนใหญ่เป็นกรรมาธิการศึกษาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้หารือนอกรอบถึงกรอบไทม์ไลน์ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเบื้องต้น โดยยึดร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรค พท.เป็นร่างหลัก มีเนื้อหาใกล้เคียงร่างอื่นๆของพรรคการเมืองต่างๆ นิรโทษกรรมคดีความผิดมีเหตุจูงใจทางการเมือง คดีความผิดเกี่ยวเนื่องตามกฎหมายอื่น ยกเว้นคดี 112 ช่วงตั้งแต่ปี 2558 ถึงช่วงกฎหมายมีผลบังคับใช้ ทาง สส.พรรค พท.ที่รับผิดชอบร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แจ้งให้นักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลทราบว่า เตรียมยื่นร่าง พ.ร.บ.หลังเปิดสมัยประชุมรัฐสภาประมาณ 2 สัปดาห์ ผ่านวาระแรกและตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ กรรม ช่วงเดือน ม.ค.2568 ไม่เกินเดือน เม.ย.68 ผ่านวาระ 3 และเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา คาดใช้เวลา 2 เดือน หากเป็นไปตามไทม์ไลน์ ประมาณเดือน มิ.ย. 68 พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคงมีผลบังคับใช้ ดังนั้น เมื่อพรรค พท.ยื่นร่างกฎหมายแล้ว ขอความร่วมมือให้พรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ ควรให้ลูกพรรคออกมาสนับสนุน

“บิ๊กอ้วน” ขออย่าคิด ก.ม.ลดอำนาจใคร

อีกเรื่อง ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรมเวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. และคณะเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม มีเนื้อหาให้อำนาจ ครม.พิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เพื่อสกัดการรัฐประหารว่า ที่มองว่าไปลดอำนาจทหาร อย่าเพิ่งไปคิดว่าลดหรือไม่ ไม่มีเจตนาลดอำนาจทหารอยู่แล้ว กระทรวงกลาโหมมีการพิจารณาอยู่ตั้งแต่ตอนนายสุทิน คลังแสงเป็น รมว.กลาโหม ขอให้รอฟังความเห็นจากคณะกรรมการ กลั่นกรองกฎหมายก่อน ยืนยันกองทัพกับการเมืองตอนนี้คุยกันดี

ปัดวุ่นแค่ความเห็น สส.ไม่ใช่จุดยืนเพื่อไทย

ต่อมาที่ กอ.รมน.นายภูมิธรรมกล่าวถึงกรณีหัวหน้าพรรค ภท.แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยร่าง พ.ร.บ.กลาโหมฉบับพรรค พท.ว่า นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.พรรค พท.เสนอมาถือเป็นสิทธิ แต่ไม่ใช่ตัวแทนพรรค พท. พรรคจะดำเนินการอย่างไรต้องพูดคุยกันอีกที แต่ต้องดูความเป็นจริง ส่วนร่างของกระทรวงกลาโหม อยู่ระหว่างพิจาณารายละเอียดก่อนเข้า ครม. ขอดู รายละเอียดอีกที ตนยึดร่าง พ.ร.บ.ฉบับกระทรวงกลาโหม ต้องฟังความเห็นทุกส่วนก่อน ทำอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด สิ่งสำคัญไม่ได้ขึ้นอยู่กับลายลักษณ์อักษร แต่อยู่ที่การปฏิบัติ ความร่วมไม้ร่วมมือและการใช้กองทัพมาช่วยพัฒนาแก้ไขปัญหาให้มากที่สุด เรื่องอื่น เป็นแค่องค์ประกอบ ระเบียบสามารถแก้ไขได้

“วิสุทธิ์” ชี้เห็นต่างคือความงามของประชาธิปไตย

ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดร่างฉบับของนายประยุทธ์และคณะ และตอบแทนพรรคการเมืองอื่นไม่ได้ ทั้งนี้ต้องผ่านมติพรรค รวมถึงวิปรัฐบาล อย่างไรก็ตาม หากมีการพิจารณา กฎหมายต่อต้านการรัฐประหารเป็นเรื่องที่ดี ไม่มีใครอยากให้มีการปฏิวัติ หากรัฐบาลทำงานดี ไม่จำเป็น ต้องมีทหารมารัฐประหาร ทหารควรไปดูแลเรื่องความมั่นคงชาติ เมื่อถามว่าร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่ยังรับฟังความคิดเห็น หากมีความเห็นคัดค้านทบทวนได้หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า หากคนไม่เห็นด้วย อยากให้มีรัฐประหาร เขา ไปคัดค้านเอา เป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย เมื่อมีผู้ไม่เห็นด้วยคือ สว.ตามกระบวนการต้องยับยั้งร่างกฎหมายดังกล่าวไว้ 180 วัน ที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วย การเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคต้องมีปัญหาบ้าง อะไรเห็นไม่ตรงกันหรือติดขัดต้องเจรจาทำความเข้าใจกัน

“อนุทิน” ไม่เอาด้วยรื้อ ก.ม.สกัดปฏิวัติ

ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีพรรค พท.เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม มีข้อสังเกตเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ผบ.เหล่าทัพและการสกัดการทำปฏิวัติว่า เรื่องอื่นยังไม่ได้ดู แต่ถ้าเป็นการสกัดการปฏิวัติไม่เห็นด้วย ถ้าจะสกัดการปฏิวัติไม่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง นักการเมืองต้องทำหน้าที่ให้ดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รักษาความสงบและอย่าให้แตกความสามัคคี เงื่อนไขการปฏิวัติมีอยู่แค่ไม่กี่เงื่อนไข ส่วนใหญ่มาจากนักการเมืองทั้งนั้น เราอย่าไปเข้าเงื่อนไขเหล่านั้น ก็จะปฏิวัติไม่ได้ ต่อให้ออกกฎหมายอะไรมาถ้ามีการปฏิวัติ สิ่งแรกที่ทำคือฉีกรัฐธรรมนูญ ที่จะทำอาจเป็นแค่สัญลักษณ์ บังคับใช้อะไรไม่ได้ ดีที่สุดต้องทำตัวให้ดี ต้องซื่อสัตย์สุจริต อย่าขี้โกง อย่าไปยุแยงให้ใครแตกความสามัคคี อย่าไปลงถนนจนทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ทุกอย่างมีอยู่แค่นี้ ถ้าประเด็นนี้ พรรค ภท.ไม่เอาด้วยอยู่แล้ว ส่วนจะผ่านหรือไม่ก็เป็นไปตามกระบวนการ ตามระบอบประชา ธิปไตย ตามเสียงส่วนมาก

ย้ำชัดการเมืองไม่ควรก้าวก่ายกองทัพ

ต่อมาเวลา 15.00 น.นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า เป็นสิทธิของ สส.ที่เสนอได้ พรรค ภท.ยังไม่ได้รับการประสานงานจากพรรค พท.ยังไม่มีรายละเอียด พรรค ภท.สนใจปัญหาใหญ่ประเทศและประชาชนมากกว่ากฎหมายดังกล่าว หลักการสำคัญที่ควรมีคือ การเมืองไม่ควรไปก้าวก่ายแทรกแซงกองทัพ สถาบันสำคัญของชาติ ต้องมีกฎหมายพิเศษมากำกับดูแลการบริหาร เพื่อความมั่นคงของชาติ ช่วยเหลือประชาชนเมื่อมีสถานการณ์วิกฤติ ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยความมั่นคง รวมถึงปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ การออกกฎหมายต่อต้านรัฐประหาร ต้องดูว่าปฏิบัติได้จริงหรือไม่ จำเป็นต้องมีกฎหมายหรือไม่ ในเมื่อรัฐธรรมนูญบัญญัติเอาไว้แล้ว ขนาดห้ามทำปฏิบัติรัฐประหาร ล้มล้างรัฐธรรมนูญด้วยวิธีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยังห้ามไม่ได้

“วิษณุ” ไม่เชื่อมี ก.ม.ป้องกัน รปห.ได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ กล่าวว่า การจะแก้ไขเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารให้มาเป็นอำนาจ ครม.สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ไม่มี ไม่เคยคิด เขามาเพิ่มทีหลังสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เมื่อถามว่าการให้ ครม.แต่งตั้งสุ่มเสี่ยงทำให้ระหองระแหงกับกองทัพหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อย่าตอบว่าสุ่มเสี่ยงต่อการระหองระแหง เป็นกิจการที่ขนาดตำรวจยังไม่มา ครม. คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เขาทำเสร็จแล้วจบและกราบบังคมทูลฯ มีแต่พลเรือนที่ต้องมา ครม.เพราะรัฐธรรมนูญไปเขียนเอาไว้ เมื่อถามว่ามีกฎหมายไหนที่ป้องกันการรัฐประหารได้จริงหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ผมไม่เชื่อ”

“ชูศักดิ์” ของดดราม่านายกฯเมินต้านโกง

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่เมืองทองธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มอบหมายนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) “FIGHT AGAINST CORRUPTION สู้ให้สุด หยุดการโกง” มีนายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำหน้าที่แทนประธาน ป.ป.ช. นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช. นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ผู้แทนองค์กรภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เข้าร่วม จากนั้นนายชูศักดิ์ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีเกิดดราม่านายกฯไม่จริงใจแก้ปัญหาการทุจริตว่า นายกฯมอบอำนาจให้ตนมาเป็นตัวแทน อย่าไปคิดว่าให้ความสำคัญหรือไม่ให้ความสำคัญ เมื่อถามว่า หลายคนมองไปที่ตัวนายกฯตั้งแต่การลงพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ที่ไม่ไปร่วมงาน ทำให้เป็นประเด็นถกเถียง นายชูศักดิ์หัวเราะก่อนจะตอบว่า “เอาน่า ใช้รัฐมนตรีให้เป็นประโยชน์”

ม.ค.68 ป.ป.ช.ถกคดี 44 สส.แก้ ม.112

นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียนจริยธรรมอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ป.ป.ช.ได้ตั้งกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง รวบรวมหลักฐาน ใกล้จะแล้วเสร็จ คาดว่าเดือน ม.ค.2568 จะสรุปสำนวนเสนอต่อที่ประชุม ป.ป.ช.ได้ การสรุปสำนวนมี 2 แนวทางคือ 1.หากเห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอแจ้งข้อกล่าวหา จะเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา 2.หากเห็นว่าไม่มีมูลเพียงพอจะสรุปสำนวนให้ข้อกล่าวหาตกไป การพิจารณามีประเด็นฝ่าฝืนจริยธรรมหรือไม่ จะดูจากพฤติกรรมแต่ละบุคคลที่มีส่วนร่วมดำเนินการแตกต่างกันไป จะให้ความเป็นธรรมทุกคน ไม่ได้หมายความว่า ทั้ง 44 คนจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด ใครมีพฤติกรรมฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรงก็ว่าเป็นรายๆไป ป.ป.ช.จะพิจารณาไปทั้งเรื่องว่า มีบุคคลใดมีพฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงจะแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อให้โอกาสชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หลังฟังคำชี้แจงแล้วจะพิจารณารายบุคคลว่ามีใครชี้แจงแล้วยังฟังไม่ขึ้น การเสนอกฎหมายเป็นหน้าที่ อาจไม่มีความผิดอะไร เป็นการเสนอปกติ จึงต้องดูทุกมิติทั้งในสภาและนอกสภา ต้องดูพยานหลักฐานทุกอย่าง ข้อมูล รวมถึงคำพิพากษาศาล ก็ต้องรวมมาพิจารณาในสำนวนด้วย

ได้หลักฐานเบื้องต้นคดีชั้น 14 ครบแล้ว

นายสาโรจน์ยังกล่าวถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียนการตรวจสอบเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และ ผอ.โรงพยาบาลตำรวจ ที่เอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหลีกเลี่ยงการไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำว่า คดีนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของพนักงานเจ้าหน้าที่ กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนสรุปสำนวนเสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง เพื่อพิจารณากรองสำนวน และมีความเห็นว่ามีมูลหรือไม่มีมูล หรือเพียงพอที่จะตั้งไต่สวนหรือไม่ หากคณะกรรมการกลั่นกรองฯพิจารณาเสร็จ จะสรุปความเห็นเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ต่อไป ที่ผ่านมา ป.ป.ช.เรียกเอกสารไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ แต่ไม่ทราบว่ามีหน่วยงานใดบ้างไม่ส่งข้อมูลมาให้ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลครบถ้วนแล้ว

เลื่อนฟังตรวจฟ้องทุจริตเขากระโดง

ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. ศาลมีคำสั่งเลื่อนนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องในคดีที่นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นฟ้องนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยกับพวกเป็นจำเลยที่ 1-9 ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต กรณีกล่าวหาว่ากรมที่ดินมีมติไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง ที่เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบจึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล โดยศาลมีคำสั่งให้แก้ฟ้องว่าผู้ถูกฟ้องได้กระทำความผิดตั้งแต่เมื่อใด และโจทก์เสียหายในฐานะใด เลื่อนนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องอีกครั้งในวันที่ 28 ม.ค.68

นายกฯ-ครม.ร่องเรือวิจิตรเจ้าพระยา

เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ท่าเรือไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กทม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานในงานวิจิตรเจ้าพระยา Vijit Chao Phraya 2024 ส่งเสริมการท่องเที่ยว มีนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส และ ครม.พร้อมคู่สมรส ร่วมงาน เมื่อนายกฯเดินทางถึงได้ทักทายประชาชน พูดคุยกับผู้บริหารไอคอนสยาม จากนั้นลงเรือ Alangka Cruise รับชมการแสดงวง The Sound Of Siam และล่องเรือชมงานแสงสีเสียงวิจิตรเจ้าพระยา 14 จุด อาทิ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ชมการ แสดงอรุณรุ่งสู่ราตรี บริเวณสะพานพระราม 8 ชมการ แสดงกวีกลอนร้อยกรองเจิดจรัส บริเวณสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ (สะพานพระพุทธยอดฟ้า) ชมการ แสดงมหัศจรรย์แสงแห่งฝัน จุดนี้นายกฯและคู่สมรสได้ถ่ายภาพร่วมกับผู้ร่วมงาน จากนั้นชมการแสดงร่มเงาพราวแสง บริเวณร้านอาหารยกยอมารีน่า ท่าดินแดง และการแสดงปริศนา ลี้ลับราตรีแห่งแสง บริเวณตึกร้างซอยล้ง 1919 ก่อนเดินทางกลับถึงท่าเรือไอคอนสยาม

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่