“นายกฯอิ๊งค์” นำทีมแถลงผลงานรัฐบาล 3 เดือน 12 ธ.ค. ภายใต้ชื่องาน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” อวดผลงานที่เป็นรูปธรรมสู่อนาคตที่ทำได้จริง จ่อโชว์โครงการเรือธงลุยต่อปีหน้า ทั้งเงินดิจิทัลวอลเล็ต พิมพ์เขียวยกระดับเศรษฐกิจ “พริษฐ์” ดักคอตรงคิวกระทู้สดถามนายกฯทุกวันพฤหัสบดี คงไม่อ้างเป็นเหตุชิ่งหนีสภาฯ พึ่งวิปสองฝ่ายดึงนายกฯมาตอบกระทู้ขยายความวิสัยทัศน์ปี 2568 “พิธา” แนะฝ่ายค้านตั้งกระทู้สดถามประเด็นร้อน MOU 44-ว้าแดง-VAT15% ให้นายกฯมาตอบในสภาฯ เซฟค่าจัดงานแถลงข่าว “ชูศักดิ์” เผยร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯของ พท.เสร็จแล้ว รอส่ง สส.เข้าชื่อชงสภาฯ “วิสุทธิ์” ขออย่าโยงเร่งดันปูทาง “ยิ่งลักษณ์” กลับบ้าน “วันนอร์” สะกิด สส.-สว. ก้าวข้ามกับระเบิดสกัดแก้ รธน. แนะถอยคนละก้าวผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลเตรียมแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน ในวันที่ 12 ธ.ค. ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” เพื่อแสดงผลงานของรัฐบาลที่มีผลเป็นรูปธรรมพร้อมนำเสนอกรอบการทำงานและโครงการเรือธงที่จะทำต่อไปในปี 2568
นายกฯแถลงผลงาน 3 เดือน 12 ธ.ค.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว และทวีตข้อความผ่าน X ว่า 2568 โอกาสไทย ทำได้จริง 2025 Empowering Thais : A Real Possibility จากผลงานที่เป็นรูปธรรม สู่อนาคตที่ทำได้จริง วันพฤหัสบดีที่ 12 ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ถ่ายทอดสดที่ช่อง NBT2HD และ Facebook Live: Live NBT2HD
ลุยต่อปี 2568 โอกาสไทย ทำได้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 12 ธ.ค. เวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธารจะเป็นประธานการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ จะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 500 คน ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ข้าราชการฝ่ายการเมืองหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมหรือเทียบเท่า ผู้ว่าฯ กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โฆษกกระทรวง หัวหน้ารัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์การมหาชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมการแถลงผลงานช่วง 90 วันตั้งแต่ น.ส.แพทองธารเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ช่วงต้นเดือน ก.ย. รวมถึงกรอบการทำงานของรัฐบาลและโครงการเรือธงของรัฐบาลที่จะทำในปี 68 อาทิ โครงการเงินดิจิทัลที่จะเดินหน้าต่อในอนาคต กองทุนหมู่บ้าน การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการยกระดับเศรษฐกิจ พร้อมพบปะมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินแก่ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการส่วนต่างๆหลังมอบนโยบาย
...
“ไอติม” พึ่ง 2 วิปดึงนายกฯตอบกระทู้
เมื่อเวลา 14.00 น. นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อในฐานะโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊กกรณี น.ส.เเพทองธาร ชินวัตร นายกฯจะเเถลงผลงานรัฐบาลวันที่ 12 ธ.ค.ว่า ทุกวันพฤหัสบดีช่วง 10.30-12.00 น. ถูกล็อกไว้สำหรับกระทู้สดนายกฯ-รมต.เป็นประจำอยู่แล้ว หากนายกฯจะแถลงสดตามเวลาที่ประชาสัมพันธ์จริงน่าเสียดาย หากงานนี้ถูกใช้เป็นเหตุผลที่นายกฯไม่มาตอบกระทู้สดที่สภาฯ เพราะ 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา สส.มีหลายคำถามเกี่ยวกับนโยบายภาพใหญ่ของประเทศ เช่น สัญญารับซื้อไฟฟ้า OCA เรือประมงและว้าแดง แผนปฏิรูประบบภาษีที่รอถามนายกฯโดยตรง สภาฯพออำนวยความสะดวกนายกฯขยับกระทู้สดถามนายกฯมาอยู่ต่อท้ายกระทู้ทั่วไป จะทำให้นายกฯมาตอบกระทู้สดได้หลังแถลงเสร็จ ตามเวลาที่นายกฯสะดวกห้วง 11.30-13.00 น. ทางเลือกนี้ยังเปิดโอกาสให้ สส.สอบถามนายกฯและให้นายกฯขยายความเกี่ยวกับวิสัยทัศน์สำหรับ 2568 ที่จะมีการแถลงตอนเช้าไปได้ด้วย ตอนนี้วิปฝ่ายค้านกำลังหารือกับวิปรัฐบาลถึงความเป็นไปได้ของแนวทางนี้อยู่
“พิธา” แนะนายกฯประหยัดค่าแถลง
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ จ.อุบลราชธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 3 เดือน ในวันที่ 12 ธ.ค.ว่า วันแถลงเป็นวันเปิดสภาฯพอดี อยากฝากพรรค ปชน.และผู้นำฝ่ายค้าน ทำไมไม่ลองตั้งกระทู้ถามสดนายกฯในวันนั้น โดยเฉพาะประเด็นสำคัญประเทศเพื่อนบ้าน MOU 44 พื้นที่ทับซ้อน ว้าแดง VAT 15% เป็นต้น ถือว่าเป็นการทำงานในระบบรัฐสภา นายกฯมาตอบเองได้ จะได้ประหยัดค่าแถลงไปด้วย ใช้พื้นที่สภาฯไปเลย แทนที่จะแถลงคนเดียวไม่ได้มีโอกาสซักถาม เมื่อถามว่าผลงานรัฐบาลจุดใดยังเป็นข้อด้อยต้องปรับปรุงอยู่ นายพิธากล่าวว่า 3 เดือนที่ผ่านมากับ 3 เดือนที่เราจะเจอไม่เหมือนกัน ฤดูฝนกับฤดูฝุ่น พอเป็นฤดูฝน เหนือจดใต้น้ำก็ท่วม พอท่วมแล้วต้องเข้าใจว่าไม่ได้กระทบแค่สิ่งแวดล้อม แต่กระทบด้านเศรษฐกิจด้วย เป็นฤดูฝนฤดูฝุ่นที่ดับฝันประชาชน รัฐบาลเท่านั้นที่แก้ปัญหาได้
แซะที่หาเสียงไว้ไม่ได้ทำ ที่ทำไม่ใช่
เมื่อถามว่านโยบายเรือธงของรัฐบาลก็ยังไม่สำเร็จจะต้องเดินหน้าอย่างไร นายพิธากล่าวว่า เรื่อง OCA กาสิโน แลนด์บริดจ์ ไม่ได้มีการหาเสียงหรือให้ประชาชนได้รับทราบก่อน แต่บางเรื่อง เช่น การขึ้นค่าแรง ปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงดิจิทัลวอลเล็ต ตามข่าวทราบว่ายังไม่ถึงมือประชาชน กลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุผู้พิการ เนื่องจากยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ แค่การแจกเงินยังมีปัญหา ที่หาเสียงไว้ไม่ได้ทำ ที่ทำไม่ได้หาเสียง หมายความว่าอย่างไร เชื่อว่าผู้นำฝ่ายค้านถามเรื่องนี้ได้ดี น่าจะเป็นเรื่องที่บกพร่องและน่าจะต้องปรับปรุง ทั้งนี้ไม่ได้ติกันเพื่อทำร้ายทางการเมือง แต่ติเพื่อก่อ เตือนสติในฐานะเป็นพลเมืองคนหนึ่ง เป็นอดีตคู่แข่งเคยสัญญาอะไรไว้กับประชาชน ควรจะไปเร่งทำเรื่องพวกนั้น รวมถึงความท้าทายใหม่ๆ เรื่องที่พูดคุยก็ไม่ได้ทำ เป็นเรื่องความบกพร่องของการจัดลำดับความสำคัญ อยากให้เรียงลำดับใหม่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง
เชื่อพักโทษไม่เกี่ยวปูทาง “ปู” กลับบ้าน
นายพิธากล่าวว่า ส่วนกรณีมีผู้ต้องหาคดีจำนำข้าวสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทยอยออกจากเรือนจำหลังได้รับพักโทษ จะปูทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กลับไทยหรือไม่ เชื่อว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เป็นคดีจำนำข้าวที่ศาลตัดสินจำคุกไปแล้วอย่างน้อย 3 คน ด้วยอายุ น.ส.ยิ่งลักษณ์และคนที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวน การมานานถึง 7 ปี หวังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ว่ามีส่วนทำให้รัฐเสียหายจริงหรือไม่ ถ้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมและไร้ข้อกังขาไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆเชื่อว่ากรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่เหมือนกับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หากทำตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะกลับมาศรัทธาระบบการเมืองและกระบวนการยุติธรรมมากขึ้นว่าไม่มีอภิสิทธิ์ชนการเมือง
ร่าง ก.ม.นิรโทษ พท.สะเด็ดน้ำรอ สส.ดู
อีกเรื่อง นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่จะเสนอเข้าไปประกบกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษของพรรคการเมืองอื่นในสมัยประชุมหน้าที่จะเปิดวันที่ 12 ธ.ค.ว่า การยกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรค พท.เสร็จแล้วในชั้นต้น เนื้อหาใกล้เคียงกับร่างอื่นๆของพรรคต่างๆที่มุ่งเน้นไปที่ความผิดที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมืองในอดีตตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน จะกำหนดนิยามเหตุจูงใจทางการเมืองไว้ให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีปัญหาตีความ จะรวมถึงความผิดเกี่ยวเนื่องอื่นๆ เช่น ความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก. พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด เป็นต้น จะมีบัญชีแนบท้ายว่าความผิดอะไรบ้างที่จะได้รับการนิรโทษกรรม โดยให้มีคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาความผิดที่เข้าหลักเกณฑ์เพื่อให้รอบคอบว่าความผิดอะไรเกี่ยวกับการเมืองอะไรไม่เกี่ยวข้อง คล้ายกับหลักการที่เคยศึกษามา หลังจากนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุม สส.พรรค พท.ให้ สส.ได้แสดงความคิดเห็นและให้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน และร่วมลงชื่อเสนอสภาฯต่อไป การพิจารณากฎหมายดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้นทันที ตั้งแต่เปิดสมัยประชุมสภาฯ จึงมั่นใจว่าร่างของพรรค พท.จะเสนอเข้าไปพิจารณาพร้อมกับร่างอื่นได้ทัน
ตีกรอบให้ชัดไม่ให้ตีความทีหลัง
เมื่อถามว่าความผิดที่เกี่ยวกับการทุจริตจะได้รับการนิรโทษหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่อยากตอบว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว เพราะจะเอาเป็นประเด็นทางการเมือง คำตอบจะอยู่ว่าเป็นความผิดตามบัญชีแนบท้ายหรือไม่ เราต้องตีความเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองและนิยามให้ชัด เพื่อไม่ให้เกิดการตีความภายหลังอีก แต่มาตรา 112 ที่ประชุม ส.ส.เขามีมติไปตั้งแต่ปิดสภาฯว่าไม่รวม ส่วนการประชุมรัฐสภาพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมีหลายร่างมาก ควรพุ่งเป้าไปสู่การตั้ง ส.ส.ร.เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะดีกว่าหรือไม่ ประธานรัฐสภาและวิปควรหารือแนวทางให้บรรลุจุดมุ่งหมายว่าต้องทำอย่างไรบ้างให้ชัดเจน เพราะวาระที่หนึ่งต้องมี สว.เห็นชอบไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม ต้องได้เสียงจากรัฐสภาเกินกึ่งหนึ่ง ต้องหารือกันแบบเป็นเรื่องเป็นราวให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นจะเสียเวลาเปล่า
รีบแจงใช้กับทุกฝ่ายมุ่งสลายขัดแย้ง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทย ว่า เท่าที่ติดตามการยกร่าง เนื้อหาถือว่าใกล้เคียงกับร่างอื่นๆของพรรคต่างๆที่เสนอเข้ามาในสภาฯ ร่างของพรรคเพื่อไทย จะมุ่งเน้นไปที่ความผิดที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมืองในอดีตตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ต้องกำหนดนิยามเหตุจูงใจทางการเมืองไว้ให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการยื่นตีความข้อกฎหมายในภายหลัง ส่วนประเด็นที่มีข้อสงสัยว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของพรรคเพื่อไทย เจตนายื่นเข้ามาเพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ประโยชน์หรือไม่ ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เจตนารมณ์ในการเสนอร่างกฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของพรรคเพื่อไทย เพื่อต้องการเสนอกฎหมายสลายความขัดแย้ง ออกมาเพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนใช้ ไม่ได้ระบุว่าให้ใครได้ประโยชน์เป็นการเฉพาะ ถ้าเข้าเกณฑ์ เข้าเงื่อนไข คนไทยทุกคนต้องได้รับสิทธิ และร่าง ก.ม.นิรโทษกรรมฉบับเพื่อไทย ไม่รวมความผิด ม.110 และ ม.112 กำหนดนิยามเหตุจูงใจทางการเมืองไว้ให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น เพื่อไม่ให้มีปัญหาการยื่นตีความข้อกฎหมายในภายหลัง เพื่อสลายความขัดแย้ง ทุกฝ่ายต้องเข้าถึง ต้องได้รับสิทธิ
วอนอย่าโยงเร่งดันเพื่อ “ยิ่งลักษณ์”
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอ แต่มีบางฝ่ายออกมาตั้งคำถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯจะได้รับอานิสงส์ด้วยหรือไม่ ว่า นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นคนร่างกฎหมายดังกล่าว ทราบว่าขณะนี้เสร็จสิ้นแล้ว แต่ตนยังไม่ได้เห็นเนื้อหา สุดท้ายต้องเอาเข้าที่ประชุมสส.พรรคเพื่อขอมติ สส. หาก สส.เห็นด้วยก็จะนำเสนอเข้าสภาฯไปประกบกับร่างกฎหมายนิรโทษของพรรคการเมืองอื่นและภาคประชาชนที่รออยู่ในสภา การที่เราเป็นแกนนำรัฐบาลเมื่อมีกฎหมายนิรโทษคาอยู่ในสภาฯเราก็ต้องเสนอร่างกฎหมายประกบถือเป็นเรื่องปกติ และการตรากฎหมายอย่าเพิ่งพูดว่าใครจะได้ประโยชน์ เพราะการออกกฎหมายนิรโทษคนได้ประโยชน์เยอะ การดำเนินการของพรรคเพื่อไทยในประเด็นนี้ก็ทำตามสิ่งที่เราหาเสียงไว้ เนื่องจากเรื่องนิรโทษหลายฝ่ายอยากให้เดินหน้าเพื่อสร้างความปรองดอง และจุดยืนของพรรคก็ชัดเจนไม่นิรโทษ 110 และ 112 อีกทั้งในพรรคก็ไม่ได้เร่งรัดและไม่มีการพูดกันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะได้กลับประเทศเพราะกฎหมายนี้ แต่พอถึงเวลาเราเสนอกฎหมายประกบ ก็มีการหยิบยกขึ้นมาก็มีตีปลาหน้าไซ ว่าคนนั้นคนนี้จะได้ประโยชน์ ขออย่านำทุกเรื่องมาผูกโยงกัน ทั้งที่กฎหมายยังไม่พิจารณาในสภาฯเลย และเมื่อสภาฯรับวาระแรกแล้วยังต้องพิจารณากันต่ออยากให้ดูหลักการกฎหมายดีกว่า
มี ก.ม.เพื่อ ปชช.20 ฉบับสมัยประชุมนี้
นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ยืนยันร่างกฎหมายนิรโทษ พรรคเพื่อไทยทำตามกระบวนการไม่มีการเร่งรัดกฎหมายนิรโทษ ที่ผ่านมาเราเอากฎหมายอื่นขยับขึ้นมาพิจารณาก่อนหลายฉบับ จนถูกต่อว่าว่าทำไมไม่เดินหน้าเรื่องนี้ เพราะกฎหมายของภาคประชาชนค้างอยู่ในสภา เราจึงจำเป็นต้องเสนอกฎหมายมาประกบและนอกจากเรื่องนิรโทษนี้แล้ว พรรคเพื่อไทยจะเร่งเดินหน้ากฎหมายที่ประชาชนได้ประโยชน์ เช่น พ.ร.บ.ประมงที่จะแก้ปัญหาเรื่องการประมง ทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นเจ้าสมุทรอีกครั้ง รวมถึง พ.ร.บ.ร่างที่ประชาชนจะได้ประโยชน์จากการเดินหน้ากฎหมายดังกล่าว สมัยประชุมหน้าคิดว่าจะออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนได้ประมาณ 20 ฉบับ
“อ้วน” ย้ำ รบ.พร้อมรับฟัง MOU44
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว. กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะยื่นหนังสือถึงนายกฯให้ยกเลิกเอ็มโอยู 44 ในวันที่ 9 ธ.ค.ว่า เป็นเรื่องปกติเมื่อมีความเห็นต่างสามารถเสนอความคิดเห็นเข้ามาได้ รัฐบาลพร้อมรับฟัง ยืนยันว่าเอ็มโอยู 44 ยังไปไม่ถึงไหน คณะกรรมการชุดเดิมหมดอายุลงแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะตั้งคณะกรรมการในลักษณะใด มีองค์ประกอบอย่างไรบ้าง รัฐบาลกำลังฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายอยู่ ขณะนี้มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและเห็นต่าง เราพร้อมรับฟัง
ติงปั่นม็อบลงถนนหวั่น ปท.เสียหาย
เมื่อถามว่า หลังจากนายสนธิยื่นหนังสือแล้ว ประเมินว่าจะมีสถานการณ์รุนแรงจนนำไปสู่การรัฐประหารหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงอะไร รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ที่นายสนธิประกาศจะลงถนนขอว่าอย่าทำแบบนั้นเลย เพราะจะทำให้ประเทศเสียหาย กระทบไปถึงภาคเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว รวมถึงความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ หากเกิดสภาวะไม่ปกติความเชื่อมั่นจะหาย การฟื้นฟูเศรษฐกิจไม่เกิด จึงหวังว่าอย่ามีใครสร้างสถานการณ์ทำให้วุ่นวาย ขอให้ดำเนินการภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ กองทัพเข้าใจสถานการณ์ดี ทุกเหล่าทัพ มีหน้าที่รักษาความมั่นคงของประเทศ และพร้อมช่วยกันประคับประคองเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ ให้ทุกอย่างอยู่ในภาวะปกติที่สุดเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เหตุที่ทำให้เกิดการรัฐประหารได้ หากมีกลุ่มใดสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความวุ่นวาย เราพร้อมดำเนินการตามกฎหมาย
“ดนุพร” เห็นด้วยสภาฯถกลับปมร้อน
นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านเตรียมรวบรวมข้อมูลไว้อภิปรายรัฐบาล โดยเฉพาะ MOU 44 ว่า พรรค พท.พูดคุยกันเรื่องนี้ แต่เห็นว่าพรรคฝ่ายค้านอยากให้ใช้อำนาจของผู้นำฝ่ายค้านเสนอประชุมลับ เพราะมีผลกระทบกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเรื่องหนึ่งที่พรรค พท.ต้องรับฟัง จะเป็นการอภิปรายแบบใดนั้น เมื่อเปิดสมัยประชุมแล้ว นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ คงจะนัดประธานวิปรัฐบาล ประธานวิปฝ่ายค้านและผู้นำฝ่ายค้านมาพูดคุยกันว่าสุดท้ายแล้วจะมีข้อสรุปอย่างไร แต่พรรค พท.รับฟังทุกความคิดเห็นของทุกคนที่เป็นห่วง บางคนบอกให้ไปขึ้นโรงขึ้นศาลให้เขาตีความ เป็นความเห็นของท่าน แต่เราต้องนำมาปรึกษาทีมกฎหมายของพรรค และทำเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบ เห็นด้วยกับผู้นำฝ่ายค้านว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากฝ่ายค้านมีข้อมูลเชิงลึกจริง การประชุมลับน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า
ชี้นายกฯไม่ติดภารกิจจะตอบกระทู้เอง
เมื่อถามถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านอยากเห็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ไปตอบกระทู้ในสภาฯด้วยตัวเอง นายดนุพรกล่าวว่า นายกฯและรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับสภาฯอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องดูว่ากระทู้นั้นมีเรื่องมีอะไรบ้าง และท่านติดภารกิจอะไรหรือไม่ หากติดภารกิจจะมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาตอบกระทู้แทนได้ แต่เชื่อว่าหากนายกฯไม่ติดภารกิจ และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับท่านโดยตรง ท่านคงมาตอบเอง
“ทักษิณ” ร่วมวงสัมมนา พท.เชิงวิชาการ
นายดนุพรกล่าวถึงการสัมมนาพรรค พท.ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 13-14 ธ.ค.ว่า วันที่ 13 ธ.ค.จะพูดคุยกันถึงเรื่องนโยบาย จะระดมสมองกันว่าปัญหาของประชาชนที่ สส.เจอจากการลงพื้นที่มีอะไรบ้าง แล้วนำมาประมวลกันว่าจะเสนอกฎหมายอะไรเข้าสู่สภาฯเพื่อแก้ปัญหาได้บ้าง หรือจะทำเป็นนโยบายเร่งด่วนเพื่อให้ประชาชนสบายใจได้บ้าง วันที่ 14 ธ.ค.หัวหน้าพรรค พท.จะมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุยกับผู้สัมมนาว่าจะแบรนดิ้งพรรคอย่างไรให้ทันสมัย น่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้จะพูดคุยถึงกฎหมายเลือกตั้ง ปัญหาของประชาชน ส่วนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปร่วมด้วย น่าจะนำประสบการณ์มาพูดคุยว่าท่านมองการเมืองอย่างไรและควรทำอย่างไรในการสร้างดาวดวงใหม่ในสภาฯ ท่านมาพูดในฐานะนักวิชาการ ไม่เกี่ยวกับการครอบงำ
“เด็จพี่” อัด “สนธิ” ปั่นคลั่งชาติขาดสติ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคพท.กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรขู่จะนำม็อบลงถนนว่า ดูเหมือนจะเหลือแค่กลุ่มเดียวที่คลั่งชาติจนขาดสติ แยกผลดีผลเสียไม่ออก ชอบเตะตัดสกัดขัดขวาง จับผิดด้วยอคติ สงสัยอยู่ว่ากำลังทำเพื่อใคร หากนำม็อบลงถนนจริงแล้วไม่มีคนหรือมีคนน้อย อย่าอ้างว่าโดนอำนาจรัฐหรือใครสกัดกั้น เรามีระบบรัฐสภา บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่อนาธิปไตยหรือคณาธิปไตย ควรใช้ช่องทางสภาฯให้ตรวจสอบจะดีกว่าไหม รัฐบาลก่อนหน้าอยู่ตั้งนานไม่เห็นนายสนธิออกมาทำอะไรกับ MOU44 อ้างรักประเทศพอจะเข้าใจ แต่จะมารักอะไรเฉพาะเจาะจงเวลาที่พรรค พท.เป็นรัฐบาล
“วันนอร์” ปลุก สว.–สส.ก้าวข้ามกับระเบิด
วันเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐธรรมนูญปี 60 วางกับดักการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคที่จะแก้ให้สำเร็จว่า ของจริงมีกับดักวางเอาไว้ไม่ให้แก้ ถ้าไม่ก้าวข้าม ไม่มีทางจบ เมื่อเห็นกันหมดแล้วสภาฯแก้เสีย ไม่ใช่ให้คนนอกสภาฯหรือกลับมาใช้อำนาจเหนือกว่าสภาฯมาแก้ ถ้าไม่แก้กับดักนี้ อย่าว่า 2 ปีครึ่งเลยต่อให้ 10 ปีก็แก้ไม่ได้ ขอย้ำต้องแก้ที่กับดัก มีช่องทางที่ทำได้ ทั้ง สส. สว.สามัคคีก้าวข้ามกับดักไปให้ได้ ควรถอยคนละก้าวสองก้าว เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จของประชาชน ในที่สุดต้องแก้รัฐธรรมนูญให้ดี อย่างน้อยใกล้เคียงรัฐธรรมนูญปี 40 เอารัฐธรรมนูญปี 40 มา แก้ไขก็ได้ ให้อำนาจทุกอย่างยึดโยงประชาชน ทำให้องค์กรอิสระคำนึงถึงประโยชน์ประชาชน ทำให้พรรคการเมืองแข็งแรง รัฐบาลบริหารประเทศด้วยความโปร่งใส ถึงเวลาต้องปฏิรูปการเมืองทั้งระบบ ถ้าไม่ปฏิรูปจะตามประเทศอื่นไม่ทัน ยกเว้นประเทศที่มีศึกสงคราม
แนะถอยคนละก้าวผ่านนิรโทษกรรม
เมื่อถามว่าพรรค พท.เตรียมเสนอร่างนิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ขึ้นอยู่ที่พูดคุยในสภา ทุกคนต้องการได้ 100% ไม่สำเร็จแน่ ควรดูว่าอะไรคือความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับความเหมาะ อาจถอยคนละก้าวสองก้าว ทำในสิ่งที่ได้ไปก่อนถึงค่อยขยับเดินต่อไป ประเทศไทยขาดความสามัคคีปรองดองเกือบ 20 ปีแล้ว ถ้ามีเครื่องมือทำให้เกิดความสามัคคีควรทำ กฎหมายนิรโทษกรรมเป็นหนึ่งในหลายเครื่องมือ ส่วนเมื่อเปิดสมัยประชุมรัฐสภา มีทั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เอ็มโอยู 44 เชื่อมั่น สส.รอบนี้พัฒนาไปเยอะ สมัยประชุมที่ผ่านมาสภาไม่เคยล่ม โหวตแพ้ชนะ ขอให้ยอมรับ อย่าไปวอล์กเอาต์ ขอให้อยู่ในห้องประชุม ขอให้ทุกอย่างจบในที่ประชุมสภาหรือที่ประชุมร่วมรัฐสภา อย่าไปจบข้างนอกหรือแซงก์ชันไม่มาประชุม เสียเวลาประชาชน เท่าที่คุยกับหลายคนอยากให้ทุกเรื่องจบที่สภา
นิด้าโพลหนุนแก้ รธน.รายมาตรา
วันเดียวกัน นิด้าโพลเผยผลสำรวจของประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,310 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “ประชามติและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ระหว่างวันที่ 2-3 ธ.ค. เมื่อถามถึงเกณฑ์การผ่านประชามติโดยต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่ง (เกินกว่า 50%) ของผู้มีสิทธิ พบว่าร้อยละ 51.37 เห็นด้วยมาก ร้อยละ 21.83 ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 15.50 ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 10.46 ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 0.84 ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ เมื่อถามถึงกำหนดเกณฑ์การผ่านประชามติ ร้อยละ 59.54 ระบุเสียงเห็นชอบต้องเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ ร้อยละ 26.57 เสียงเห็นชอบต้องเป็นเสียงส่วนใหญ่ ร้อยละ 12.52 เสียงเห็นชอบต้องเป็นเสียงส่วนใหญ่ แต่ต้องมากกว่าผู้ลงคะแนนช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนและร้อยละ 1.37 ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ด้านความต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 27.63 ต้องการมาก ร้อยละ 27.02 ไม่ต้องการเลย ร้อยละ 25.34 ค่อนข้างต้องการ ร้อยละ 19.08 ไม่ค่อยต้องการและร้อยละ 0.93 ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ โดยผู้ที่ระบุต้องการมากและค่อนข้างต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ร้อยละ 78.97 ร้อยละ 19.16 ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และร้อยละ 1.87 ไม่ตอบ
อยากให้รัฐแจกเงินกระตุ้น ศก.ปีใหม่
ขณะที่สวนดุสิตโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,246 คน เรื่อง “คนไทยกับของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล” พบว่าร้อยละ 56.02 มีแผนเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยร้อยละ 90.26 เป็นแผนเที่ยวในประเทศ และร้อยละ 9.74 เที่ยวต่างประเทศ จังหวัดที่อยากไปเที่ยวมากที่สุด ร้อยละ 56.83 จ.เชียงใหม่ ร้อยละ 49.05 จ.เชียงราย คาดการณ์ว่าจะใช้จ่ายช่วงปีใหม่เฉลี่ย 17,317.10 บาท/ต่อคน จากที่รัฐบาลประกาศจะมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน โดยของขวัญที่อยากได้มากที่สุด ร้อยละ 59.95 มาตรการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ ร้อยละ 58.03 ช่วยสนับสนุนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพลังงานต่างๆ ทั้งนี้แนวคิดในการ “มอบของขวัญให้ประชาชนช่วงปีใหม่จากรัฐบาล” ร้อยละ 60.76 มองว่าควรเป็นหน้าที่ต้องดำเนินงานของรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนปัญหาเร่งด่วนที่อยากให้รัฐบาลแก้ไขก่อนปีใหม่ ร้อยละ 66.48 ระบุปัญหาค่าครองชีพ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่