กลายเป็นช็อตการเมืองแห่งปี 2567 ของโลกไปเลย ตามฉากปรากฏการณ์คลื่นมวลชนชาวเกาหลีใต้จำนวนมากชุมนุมประท้วงใหญ่ เป็นแนวร่วมสนับสนุนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เผชิญหน้าพร้อมปะทะกับกำลังทหารของกองทัพที่ปิดล้อมอาคารรัฐสภา
ประสบความสำเร็จในการบุกฝ่าท็อปบูตให้ สส.เข้าเปิดประชุมรัฐสภา
สามารถใช้กระบวนการอำนาจนิติบัญญัติ ลงมติคัดค้านการประกาศ “กฎอัยการศึก” แบบฉุกเฉินของประธานาธิบดี “ยุน ซอก ยอล” ผู้นำทำเนียบกรุงโซล
ต้องถอยหลังกรูด หยุดแผนการใช้อำนาจพิเศษ ภายในไม่กี่ชั่วโมง
เรื่องจริงไม่อิงซีรีส์เกาหลี ฝ่ายเสรีนิยมแดนโสมขาว แสดงพลังผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ ยึดกลไกรัฐสภาสกัดกระบวนการใช้อำนาจไม่ชอบธรรม ชวนอึ้ง ทึ่งกันทั้งโลก
โดยเฉพาะเหล่าด้อมเกาหลีในเมืองไทยดู “หนังตัวอย่าง” ตื่นตาตื่นใจ
ในจังหวะเข้าทางกองทัพส้ม พรรคประชาชน ได้โอกาสกระตุ้นแนวร่วมการเมืองคนรุ่นใหม่ อ้างอิงพลังมวลชนและเหล่า สส.โสมขาว โชว์ความแข็งแกร่งในการยึดโยงกระบวนการนิติบัญญัติ
ปฏิบัติการสู้กลับอำนาจไม่ชอบธรรม จนแพ้พังพาบ
หวังจะเป็นแรงบันดาลใจสังคมไทย กระตุ้นพลังแนวร่วมมวลชนหนุน สส.ฝ่ายประชาธิปไตยเสรีนิยมสู้อำนาจนอกระบบ เลิกหงอ สยบยอมใต้ “ท็อปบูต”
ลอกสูตรรบกับอำนาจเผด็จการ ปิดประตูตีแมวไม่ได้ง่ายๆ
ฉากการเมืองเกาหลีใต้ กระตุกพัฒนาการโลกเสรีประชาธิปไตย ส่งผลเชิงจิตวิทยาต่อสถานการณ์การเมืองแบบไทยๆ ภายใต้รัฐบาลผสมสูตรพิสดาร โดยผู้นำที่อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ที่ต้องเผชิญแรงเสียดทาน ฝ่ากระแส “ไม่ชอบธรรม” ติดเป็นตราประทับ
สภาพผู้นำหญิงคนสุดท้อง “ตระกูลชิน” ที่แบก “ข้อครหา” พลิกลิ้น ผจญแรงกระแทกทางการเมือง ตามสถานะหัวขบวนฝ่ายอนุรักษ์นิยม อิงอำนาจท็อปบูต
...
พลิกเหลี่ยม ยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเสรีนิยม
อารมณ์ของผู้นำรัฐบาลเพื่อไทยต้องประคองเกมอำนาจการเมืองอยู่ท่ามกลางคนเคยรักขั้วเดียวกันที่พลิกเป็นชัง และขั้วตรงข้ามที่ไม่เคยรัก พร้อมไปกับการบริหารโจทย์สถานการณ์ยากๆ สารพันปัญหาถาโถมหนักหน่วง
“เกินมือ” นายกฯอายุน้อย ติดข้อจำกัดประสบการณ์
ปรากฏการณ์ล่าสุด สะท้อนภาพชัด “นายกฯอิ๊งค์” สำลักน้ำท่วมภาคใต้ จมกระแสดราม่า “สะใภ้เมืองคอน” อวดสามีเป็นคนใต้ ต่อปากต่อคำ ตอบโต้เสียงวิจารณ์ ผู้นำมุ่งแต่หาเสียงภาคเหนือ ไม่ใส่ใจความเดือดร้อนคนแดนสะตอ
ลามเลยเถิดถึงการโชว์ครอบครัวอบอุ่น โดนถล่มผิดคิว ตรรกะเพี้ยน
อาการนายกฯนอตหลุด ซัดกลับฝ่ายค้านแบบยอมซะที่ไหน ตอบโต้เกรียนคีย์บอร์ดแบบไม่ลดละ ลุยน้ำท่วมใต้ ฟัดกันน้ำกระจาย
กลายเป็นตอกย้ำภาพผู้นำอายุน้อย โดนติงวุฒิภาวะ
โดยเฉพาะกับมาตรฐานการบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติฉุกเฉิน ภายใต้วิกฤติโลกเดือด สภาพฝนฟ้าไม่แน่นอนที่ประเทศไทยต้องเผชิญนับแต่นี้ไป
ประชาชนชักหวิว จะฝากผีฝากไข้ได้มากน้อยแค่ไหน
ตามจังหวะสถานการณ์โจทย์หินไม่ได้อยู่แค่ในประเทศ แต่กำลังยกระดับความท้าทาย ไปถึงชายแดน กองทัพเรือเมียนมาสาดกระสุนใส่เรือประมงไทย อ้างหาปลาล่วงล้ำน่านน้ำ จับคนไทยไปขัง
ขณะเดียวกัน ชายแดนประเทศเมียนมาด้านเหนือ ก็เผชิญหน้ากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย “ว้าแดง” ขยายอิทธิพลล่อแหลมรุกล้ำแดนไทย
แนวรบชายแดนตะวันตกตึงเครียด “วัดใจ” ทดสอบปฏิกิริยารัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของผู้นำคนสุดท้องตระกูลชิน ที่ถูกจับตาเรื่องคอนเนกชัน สายสัมพันธ์ลึกทางธุรกิจกับผู้นำทหารเมียนมา
ผู้นำชินวัตร จะวางบทบาทที่เหมาะสมอยู่ตรงจุดไหน
ในสถานการณ์เดียวกันกับชายแดนด้านตะวันออก ในปฏิบัติการดีลกับกัมพูชา ว่าด้วยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เรื่องของโคตรเมกะโปรเจกต์ขุดสำรวจก๊าซธรรมชาติพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล สุ่มเสี่ยงความมั่นคงโยงเรื่องดินแดน
นานาชาติจับจ้องแผนการใหญ่ เดิมพัน “ตระกูลชิน” กับ “ตระกูลฮุน”
ทั้งการเมืองต่างประเทศ การเมืองในประเทศ ภัยพิบัติน้ำท่วมใต้หนัก ไม่พักจากมหาอุทกภัยที่ภาคเหนือ ไหนจะเศรษฐกิจปากท้องประชาชนที่ฝืดเคืองเต็มที
“นายกฯอิ๊งค์” สำลักน้ำ หายใจหายคอไม่ทัน
ดัชนี “ความเชื่อมั่น” ในตัวผู้นำ ติดลบตามโจทย์สถานการณ์ปราบเซียน
ในจังหวะที่ “ผู้ครอบครอง” อย่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน ต้องโชว์สถานะ “ตัวจริง” ทะลุหลังม่านมาเล่นฉากหน้าชัดขึ้นทุกที
ไม่สนแล้วกับเสียงติฉินนินทา ปมเสี่ยงข้อหา “ครอบงำ”
แบบที่เพิ่งโผล่มาร่วมงานอีเวนต์ใหญ่ ในฐานะ “อัศวินคลื่นลูกที่สาม” ผู้ยิ่งยง ร่วมแจมบิ๊กโปรเจกต์ของบริษัทเอกชนของไทยที่ร่วมกับซีอีโอ Nvdia อาณาจักรบิ๊กเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก
ดันแผนการลงทุน ปั่นกระแสเศรษฐกิจ ช่วยรัฐบาลเพื่อไทย ตีปี๊บโครงการดึงเม็ดเงินลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เอไอ ฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ศูนย์กลางดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์เซอร์วิส
อาศัยเครดิต “อัศวินคลื่นลูกที่สาม” อัปเกรดเวอร์ชัน
“ทักษิณ” ต้องแสดงความทันสมัย โชว์กระบวนความคิดเซียนเทคโนโลยีกระตุ้นความหวังของกองเชียร์ รวมถึงความคาดหวังของคนในสังคมบางส่วน ที่ยังเชื่อในความเชี่ยวชาญเชิงเศรษฐกิจของอดีตผู้นำรัฐบาลไทยรักไทยยุครุ่งเรือง
ปลุกความเชื่อมั่น ประคองเกมช่วยลูกสาวคนโปรด
ภายใต้โจทย์สถานการณ์เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ความยากของปัญหาเศรษฐกิจที่สลับซับซ้อนตามมิติใหม่ๆ ปัจจัยตัวแปรไม่เหมือนยุคอดีต
แนวคิดแบบเก่าล้าสมัย อาจใช้ไม่ได้แล้วกับบริบทปัจจุบัน
จุดที่เห็นเด่นชัดเลยก็คือ ฟอร์มเสี่ยสั่งลุย มุ่งเก่งโคตรเซียนประชานิยม อัดเงินหลวงหาเสียง ไม่ได้มันมือเหมือนในอดีต
จังหวะติดๆขัดๆ อาการกล้าๆกลัวๆ แหยงติดบ่วงวิบาก
สดๆร้อนๆ “นายกฯอิ๊งค์” สั่งให้กระทรวงการคลังถอนวาระ “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ โดยแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านคน” ออกจากการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีนัดล่าสุด
ชักแผนแจกเงินหมื่นเฟส 2 ออกไปฉิวเฉียดนาทีสุดท้าย
เพราะโดนคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งซิกเตือน สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ขืนลุยเทกระจาดไปไม่ดูตาม้าตาเรือ มีคนตกเก้าอี้กระจายแน่
แถมยังไม่ชัวร์ว่า ผลาญเงินหลวงไปแล้วจะคุ้มค่ากับงบประมาณหรือไม่
ในมุมของคนที่พูดแล้วมีน้ำหนัก สังคมเทความเชื่อมั่นให้เต็มๆ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนที่อยู่กับพัฒนาการทางเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน ยืนยันจากตัวเลขจีดีพี บ่งชี้การแจกเงินกระตุ้นการบริโภคภายใน ไม่ได้ช่วยเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่กลับกลายเป็นช่วยให้การบริโภคสินค้านำเข้าจากประเทศจีนเติบโตทะลักเข้ามาทำลายห่วงโซ่การผลิตสินค้าภายในประเทศไทย
ทำให้เศรษฐกิจเมืองไทย ส่อเจ๊งหนักไปกันใหญ่
“เฮลิคอปเตอร์ มันนี่” กลายเป็น “แบล็กฮอว์ก ดาวน์” วิกฤติปากท้องดิ่งลึกลงไปทุกขณะ จังหวะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง คิดดังๆโยนหินหยั่งกระแส การขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากร้อยละ 7 ทะลักเพดานไปถึงร้อยละ 15 กลายเป็นปมฟ้องประจาน
ถูกดักทางรัฐบาลถังแตก ต้องถอนขนห่าน รีดเลือดกับปู
ดูแล้วไม่ง่าย ณ จุดที่ “ทักษิณ” เล่นบท “ผู้ครอบครอง” เป็นผู้นำ “ซ้อนสอง” ประคองลูกสาว ในสภาพข้อจำกัด “สังขาร” กระแสความนิยมที่หดหายไปจากการพลิกข้าง ฉีกขั้วการเมือง แทบไม่เหลือทุนหน้าตักเก่าๆ
ห้าวหาญ ฮึกเหิม ยังไง มนต์ก็ไม่ขลังเหมือนเดิม.
“ทีมการเมือง”
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม