“ศุภมาส” แถลงผลงาน 1 ปี การขับเคลื่อน อว. สู่กระทรวงเศรษฐกิจ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ กว่า 970 ล้านบาท พร้อมย้ำวิสัยทัศน์ “เรียนดี มีความสุข มีรายได้” พร้อมชู “วิจัยนวัตกรรมดี ตอบโจทย์ตรง ความต้องการ” เดินหน้าจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษาลดความเหลื่อมล้ำ การสร้างกำลังคนด้านวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยี เล็งตั้งแคมปัสมหาวิทยาลัยดัง ระดับโลก ชูไทยเป็น Education Hub ระดับภูมิภาค
ที่โรงแรมแบงค็อก แม่ริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงานสังกัด แถลงผลการบริหารงานครบรอบ 1 ปี ว่า ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ได้เห็นผลงานของกระทรวง อว.ที่สามารถเข้าถึงประชาชน สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกินกว่าที่คาดไว้มาก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการทำให้ อว.เป็นกระทรวงเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศผ่านการวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยี สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ สร้างความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามนโยบาย “วิจัย นวัตกรรมดี ตอบโจทย์ ตรงความต้องการ” โดยให้ภาคเอกชนมีบทบาทนำ และภาครัฐทำหน้าที่สนับสนุน ซึ่งที่ผ่านมาสามารถนำเอางานวิจัยมาจับคู่ทางธุรกิจมากกว่า 100 คู่ และสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคมมูลค่ากว่า 970 ล้านบาท สะท้อนถึงความมุ่งมั่นขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม โดยเชื่อว่าการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คือรากฐานสำคัญที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ กระทรวง อว.ได้ผลักดันโครงการสำคัญหลายโครงการที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น โครงการ “อว. for EV” ที่มุ่งพัฒนางานวิจัยด้านยานยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่การออกแบบและพัฒนาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ไปจนถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เพื่อสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้แข็งแกร่ง พร้อมผลักดันการพัฒนาการศึกษาและบุคลากรด้าน AI อย่างเข้มข้น โดยตั้งเป้าหมายให้นิสิต นักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศมีความรู้พื้นฐานด้าน AI มุ่งให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการเสริมศักยภาพบุคลากรยุคใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการภาคอุตสาหกรรม ผลักดันให้ประเทศก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลกตามนโยบายรัฐบาล ด้วยโครงการผลิตและพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างเต็มที่ คืออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง 80,000 คน อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ 50,000 คน อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 150,000 คน รวมถึงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการขายผลิตภัณฑ์และบริหารเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI จำนวน 1,000 ล้านบาท หน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชน มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI จากผลงานการวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมจำนวน 300 หน่วยงาน และเพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัย พัฒนา และ/หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI จำนวน 600 คน
...
น.ส.ศุภมาสกล่าวอีกว่า การทำให้ อว.เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ การพัฒนากำลังคนถือเป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน กระทรวง อว.จึงมุ่งปฏิรูปอุดมศึกษาด้วยการลดภาระ-ลดความเหลื่อมล้ำ-เพิ่มทักษะ-เพิ่มโอกาส เพื่อให้เยาวชนทั่วประเทศเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ ผ่านมาตรการ Free TCAS Free TGAT และกฎหมายจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษา เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม ตลอดจนการจัดการศึกษาผ่านระบบสะสมหน่วยกิต (Credit Bank) ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนสามารถสะสมหน่วยกิตจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำมาเทียบโอนเพื่อสำเร็จการศึกษา รวมไปถึงการเพิ่มโอกาสในการเข้าทำงานของบัณฑิต จบใหม่ นอกจากนี้จะมีการอุตสาหกรรมการศึกษา ของประเทศไทย ผลักดันไทยให้เป็น Education Hub โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำจากต่างประเทศ อาทิ จากประเทศอังกฤษ จีน และออสเตรเลีย ฯลฯ
น.ส.ศุภมาสกล่าวย้ำว่า กระทรวง อว.จะยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ด้วยการใช้วิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญ พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและการศึกษาในระดับภูมิภาคและระดับโลก นอกจากนี้ยังได้จัดทำ Factsheet ที่รวบรวมวิสัยทัศน์และผลงานสำคัญของหน่วยงานในสังกัด เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกและรวดเร็ว ดิฉันเชื่อว่าความโปร่งใสในการทำงาน และการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และสร้างพลังในการพัฒนาประเทศร่วมกัน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่