“ครม.อิ๊งค์” นัดแรกไฟเขียว 145,552 ล้านบาท แจกสดเข้าบัญชีกลุ่มเปราะบาง ผู้ถือ “บัตรคนจน” คนพิการ 14.55 ล้านคน โวกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.35% คิกออฟโอนเงินเข้าบัญชี 4 วัน 25, 26, 27, 30 ก.ย. ประกาศให้ผู้รับสิทธ์ิรีบไปผูกบัญชีพร้อมเพย์ด่วนจะได้ไม่พลาดตกหล่นต้องรอไปอีก 1 เดือน แต่รัฐบาลจะโอนซ้ำให้อีกรอบ 22 ต.ค. 22 พ.ย. และ 22 ธ.ค. ก่อนยุติแจกเงินรอบแรก ยืนยันเฟส 2 ไม่มีล้ม ผู้ลงทะเบียนใน “แอปทางรัฐ” 36 ล้านคน ได้รับเงินชัวร์ แค่รอให้คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกฯเป็นประธานพิจารณาเพื่อความรอบคอบตามขั้นตอนเท่านั้น

หลังประชาชนตั้งตารอเงินหมื่นจากนโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ตที่เป็นเป้าความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาลมานานนับปี ล่าสุดกลุ่มเปราะบางได้เฮก่อนเพื่อน คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบ 145,552 ล้านบาท เพื่อแจกเงินสดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการจำนวน 14.55 ล้านคน คนละ 10,000 บาท โดยอนุมัติงบ 145,552 ล้านบาท ตามที่รัฐบาลมีความจำเป็นต้องรีบเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. และเร่งโอนเงินให้เสร็จในเดือน ก.ย.ทันที แต่ด้วยระบบการโอนเงินที่มีขีดความสามารถในการจ่ายเงินลงไปให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิมีจำกัด เพียงวันละประมาณ 4 ล้านคน กระทรวงการคลังต้องแบ่งการจ่ายเงินเป็นงวดๆดังนี้ วันที่ 25 ก.ย.โอนเงินให้คนพิการและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนหลักสุดท้ายด้วยเลข 0 จำนวน 3.28 ล้านคน วันที่ 26 ก.ย.โอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเลข 1-3 จำนวน 4.51 ล้านคน วันที่ 27 ก.ย.โอนให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเลข 4-7 จำนวน 4.51 ล้านคน และวันที่ 30 ก.ย. โอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเลข 8-9 จำนวน 2.26 ล้านคน ทั้งนี้ขอให้ผู้ได้รับสิทธิรีบผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนกับธนาคารต่างๆ เพื่อช่วยให้การจ่ายเงินเข้าบัญชี ทำได้ทันทีตามวันที่ระบุ หากใครที่ตกหล่นหรือบัญชีพร้อมเพย์มีปัญหาจะโอนซ้ำอีก 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 ภายในวันที่ 22 ต.ค. ครั้งที่ 2 วันที่ 22 พ.ย. และครั้งที่ 3 วันที่ 22 ธ.ค. แล้วจะยุติการจ่ายเงิน

...

นายพิชัยกล่าวอีกว่า สำหรับแหล่งที่มาของเงินใช้ในโครงการ 145,552 ล้านบาท มาจาก 2 ส่วน คือ พ.ร.บ.งบฯปี 2567 งบกลางรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ 122,000 ล้านบาท และงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 23,552 ล้านบาท ส่วนการดำเนินการโครงการฯในเฟส 2 สำหรับกลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐไว้ประมาณ 36 ล้านคนนั้น รัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาหนึ่งชุด มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับงบที่มีอยู่ รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆที่จะต้องเดินหน้าต่อไปด้วย โดยจากนี้ไปจะมีคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ มานั่งดูอย่างรอบคอบในหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งจะจ่ายเงินอย่างไร จ่ายเมื่อไหร่ จ่ายด้วยวิธีไหน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การจ่ายเงินลงไปให้กับกลุ่มคนพิการ ไม่ได้มีกรอบกำหนดเอาไว้ทั้งอายุ รายได้ หรือเงินฝาก ถ้าใครเป็นผู้พิการที่ลงทะเบียนมีบัตรผู้พิการเอาไว้กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จำนวน 2.15 ล้านราย และได้รับเงินช่วยเหลือประจำทุกเดือนอยู่แล้ว คนกลุ่มนี้จะได้รับโอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีครบทุกคน และขอยืนยันว่า การเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตหรือเฟส 2 จะยังเดินหน้าต่อไป เพราะมีคนลงทะเบียนไว้แล้ว โดยผู้ผ่านเกณฑ์จะได้รับเงิน 10,000 บาทเช่นกัน เพราะนอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังช่วยเพิ่มมิติสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลเป้าหมายหลักของรัฐบาล เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางด้านการแข่งขันในระยะยาวด้วย

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลเห็นว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ มีความจำเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรักษาโมเมนตัมของเศรษฐกิจต่อเนื่องปลายปี 2567 และเป็นแรงส่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อไปด้วย ส่วนที่มีการเลื่อนลงทะเบียนกลุ่มผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนออกไป เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในกระบวนการทำงานกับกลุ่มแรก ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง แต่ยืนยันว่า รัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียนต่อไปหลังจากได้โอนเงินกับกลุ่มแรกเสร็จแล้ว

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การผูกพร้อมเพย์ของผู้รับสิทธิไม่จำเป็นต้องไปเปิดบัญชีใหม่ สามารถผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคารของตัวเองทุกธนาคารที่มีอยู่เดิมได้ภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะโอนเงินไปให้ไม่ได้ และต้องรออีก 1 เดือน ส่วนคนพิการไม่ต้องผูกพร้อมเพย์เพราะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีทุกเดือนอยู่แล้วไม่ต้องทำอะไร ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.4 ล้านคน ปัจจุบันมีพร้อมเพย์ผูกอยู่แล้ว 11 ล้านคนเศษ ดังนั้น เหลืออีก 1 ล้านคนเศษ ที่ยังไม่ผูกพร้อมเพย์ ขณะที่นายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ประเมินว่าการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.35% เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกฯ แถลงว่า ขณะนี้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์เริ่มโทร.หาประชาชนอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ ขอย้ำว่าการลงทะเบียนต้องทำด้วยตัวท่านเองเท่านั้น จะไม่มีหน่วยงานใดทำให้ท่าน เพราะข้อมูลส่วนบุคคลเป็นความลับต้องไม่บอกบุคคลอื่น หากใครบอกว่าโทร.มาจากส่วนราชการ ยืนยันไม่มีเด็ดขาด

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่