ไม่สะใจกองแช่งให้ติดคุก ไม่สมใจกองเชียร์ยังเฮไม่สุด

ศาลประทับรับฟ้อง และมีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จำเลยคดีความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 วางหลักประกัน 5 แสนบาท มีเงื่อนไขต้องวางพาสปอร์ต ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทย

วันที่ 18 มิถุนายน 2567 ก็ผ่านไปอีกวัน ไม่ถึงขั้นโลกแตก โลกาไม่วินาศ

ตามธรรมชาติการเมืองแบบไทยๆภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์เกมอำนาจพิลึกพิลั่น มันยังมีเหตุการณ์ให้ระทึกอกระทึกใจกันอีกเยอะ อะไรไม่เคยเห็นก็จะได้เห็นเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ อะไรที่เกิดขึ้นแล้วก็ไม่แปลกถ้าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิม

เมื่อโฟกัสอยู่ที่คนชื่อ “ทักษิณ” เท่ไม่พัก ฮึกเหิมไม่แผ่ว

แนวโน้มการเคลื่อนไหวไม่หยุด วางคิวเดินสายแข่งกับนักร้อง “ลำไย ไหทองคำ” ตามโปรแกรมถี่ๆ ปล่อยคิวล่วงหน้าสถานีต่อไป “บ้านใหญ่นครปฐม” เยี่ยมเยือนตระกูลสะสมทรัพย์ อารมณ์เดียวกับการเพิ่งโผล่ไปร่วมงานวันเกิดนักการเมืองขาใหญ่ นครนนท์ ประกาศทวงคืน สส.นนทบุรี

ยุทธการฟื้นอดีต ทวนความทรงจำยุครุ่งเรืองในเขตปริมณฑล

คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง
คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง

...

ช็อตต่อเนื่องจากจุดเริ่มต้นที่ “เถ้าแก่ใหญ่” นำคณะไปร่วมงานบวชลูกชายนักการเมืองท้องถิ่นพรรคเพื่อไทยในจังหวัดปทุมธานี แฝงเหลี่ยมหาเสียงช่วยนายชาญ พวงเพ็ชร ผู้สมัครนายก อบจ.ทีมเสื้อแดง

คึกคัก ย่ามใจอยู่ในมิติของ “โคตรเซียนการตลาด”

ด้วยเชื่อมั่นเกินร้อยในการฟื้นศรัทธาความนิยม รุกชิงพื้นที่ทางการเมืองในอดีตคืนจากกองทัพเด็กรุ่นใหม่ ด้วยพลังแรงส่งของ “นายกฯในตำนาน”

แต่นั่นก็ย้อนแย้งกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ปรากฏการณ์ความเชื่อในระบบการเมืองแบบเก่าๆ หักมุมกับตัวเลขเชิงสถิติที่พิสูจน์ได้จากโพลสำนักมาตรฐาน

ตัวเลขแม่นๆ ข้อมูลแน่นๆโดยการสำรวจแบบเรียลไทม์ของ “นิด้าโพล”

ล่าสุดสดๆร้อนๆ เปิดโพยคะแนนนิยมสนามนายก อบจ.ปทุมธานี เต็งแชมป์ยังเป็น “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครอิสระ ที่ “มีวันนี้เพราะพี่ไม่ให้” คะแนนนำมวยพรรคเพื่อไทย ส่อเข้าป้ายแบบม้วนเดียวจบ

โดยที่ “ทักษิณ” ลงพื้นที่ปทุมธานี ไม่มีผลต่อการตัดสินใจใดๆ

นอกจากไม่ช่วยแล้ว ยังเป็นตัวฉุดอีกต่างหาก จากการสำรวจ “นิด้าโพล” รอบแรกๆที่ออกมาชัดเลยว่า ยิ่ง “เถ้าแก่ใหญ่” เคลื่อนไหวโชว์ความเท่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

เพิ่มโจทย์หินให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แบกหนักไปกันใหญ่

ในสภาพที่ทำใจยอมรับความจริงลำบาก แต่ก็ยากที่จะหลอกตัวเองให้เชื่อ เมื่อกระแสการเมืองใหม่ทั้งแรงและรวดเร็ว มาไกลเกินกว่าที่ความเข้มขลังชื่อ “ทักษิณ” จะเอาอยู่

เรื่องของเรื่องการเมืองอยู่ในจุด “เกินมือ” เกินกำลัง “นายใหญ่” บริหารจัดการ

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

นั่นก็โยงไปถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ภายใต้เงื่อนไขที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเคลมตีกินบุญเก่า

เหมาขายเหล้าพ่วงเบียร์ ใช้ยี่ห้อ “ทักษิณ” เชี่ยวเชิงบริหาร ดึงศรัทธาชาวบ้านที่ติดอกติดใจผลงานเศรษฐกิจอดีตรัฐบาลไทยรักไทยยุครุ่งเรือง

แต่เรื่องที่ประชาชนฝัน เทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง อ้างอิงตามตัวเลข “นิด้าโพล” ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจผลงาน ไม่เชื่อมั่นการทำงานในรอบ 9 เดือนของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ตอกย้ำด้วยสถานการณ์สดๆตรงหน้า ตลาดหุ้นร่วงระเนระนาด ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 4 ปี จากช่วงวิกฤติโควิดมรณะ

เศรษฐกิจไทยแกว่งหนัก เจอแรงกระแทกจุกๆทางการเมือง เรื่องที่นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นโยงกับคดีระทึกในศาลรัฐธรรมนูญ ชะตาของผู้นำแขวนต่องแต่งในคดีแต่งตั้งรัฐมนตรี “ถุงขนม 2 ล้าน” วิบากคดียุบพรรคก้าวไกล รวมไปถึงความเป็นอยู่เป็นไปคดีผิดอาญามาตรา 112 ของ “ทักษิณ”

แต่สาเหตุใหญ่จริงๆก็คือ การขาดช่วงพัฒนาการรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ ธุรกิจสีเขียว ทักษะแรงงานไทยไม่สอดรับอุตสาหกรรมยุคเอไอ รวมถึงความโปร่งใสในวงราชการและธุรกิจ ทุจริตครองเมือง

ไทยติดหล่มเกมอำนาจการเมืองเน่า หนีไม่พ้นผลประโยชน์ของนักเลือกตั้งอาชีพ

และในห้วงจังหวะบีบหัวใจ กระแสเบิ้ลบลัฟผู้นำอย่างนายเศรษฐา บริหารยังไงให้คนคิดถึง “ลุงตู่” กระตุกกองเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯหูผึ่ง ลุ้นลุงทหารเฒ่ารีเทิร์น

ส่อเค้าวนเวียน ตัวเลือกป้วนเปี้ยนอยู่แค่นี้ ไม่มีสัญญาณบวกเลย.


ทีมข่าวการเมือง รายงาน

คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม