แกนนำพรรคร่วมฯสงวนท่า งดวิจารณ์ “ทักษิณ” ตีกระทบชิ่ง “คนแถวบ้านในป่า” “เศรษฐา” ไม่รู้หมายถึงใคร ลั่นไม่จำเป็นต่อสายตรงเคลียร์ “บิ๊กป้อม” “เสี่ยอ้วน” เลี่ยงตีความวลี “นายใหญ่” บอกไม่เห็นมีพรรคร่วมไหนไม่สบายใจ “ผู้กอง” ป้อง “นายใหญ่” ไม่ได้พาดพิงใคร อย่าคิดมาก ย้ำสัมพันธ์รัฐบาลยังเหนียวแน่น พรรคร่วม รบ.หารือรับมือถกงบฯปี 68 ให้แต่ละพรรคคุม สส.เข้าประชุม “อนุทิน” เซ็งคนงอแงจะเอาให้ได้อย่างใจ “เสรี” ห่วงเลือก สว.ติดบ่วงศาล รธน. “สมชาย” ปูดรายวันมีพกโพยเข้าคูหา เหน็บ กกต.เรียบร้อยโรงเรียนวัว กกต.เปิด 23,645 ชื่อระดับอำเภอ ส่งคำชี้แจง พ.ร.ป.เลือก สว.ถึงศาล รธน.
แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลสงวนท่าที งดวิพากษ์ วิจารณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดพาดพิงถึง “คนแถวบ้านในป่า” เพราะไม่อยากให้สถานการณ์บานปลาย ขณะที่หลายฝ่ายตีความคำพูดของนายทักษิณ น่าจะสื่อความหมายถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

...
“เศรษฐา” งดวิจารณ์สามปมร้อน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ส่งคำชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. อย่าถามว่ากังวลหรือไม่ เพราะกังวลตลอดเวลา ตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า อยู่ในขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ขอเปิดเผยแนวทางการต่อสู้ เราต้องให้ความเคารพ หากขาดข้อมูลอะไรท่านก็เรียกมา เมื่อถามว่าหลายคนประเมินว่าเดือน มิ.ย. เป็นเดือนที่มีสถานการณ์การเมืองหลายอย่าง ได้ประเมินสถานการณ์บ้างหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ ขอเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง เรื่องยุบพรรคก้าวไกลไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฝ่ายบริหาร ส่วนคดีมาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นเรื่องส่วนบุคคล วันนี้ยังมีอำนาจเต็มก็ยังทำงานได้ ต้องคอยดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะว่าอย่างไร เมื่อถามว่ามองว่าเป็นเดือนอันตรายหรือไม่ นายกฯตอบว่า ไม่มีอะไรที่ชัดเจนออกมา เรื่องพวกนี้อยู่ในเรื่องของการเมือง
ไม่รู้บ้านในป่า “ทักษิณ” หมายถึงใคร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายทักษิณพูดกระทบไปถึงคนแถวบ้านในป่า จะกระทบต่อการทำงานร่วมกันของรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า พูดไปแล้ว ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทุกคนมีความเป็นห่วงใยบ้านเมือง แต่ละคนมีข้อมูลแตกต่างกันไป ในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เรามีปัญหาอะไรก็ต้องมาพูดคุยกัน เมื่อถามว่าจะไม่กระทบต่อการทำงาน สามารถพูดคุยกันได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ต้องพูดคุยกันก่อนว่ากระทบหรือไม่กระทบ ต้องดูถึงขั้นที่สองที่สามที่จะตามมา แต่ในฐานะผู้นำรัฐบาลเราประสงค์ให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้ดี มาถึงวันนี้อยู่ด้วยกันมาต้องมีข้อเห็นต่างบ้าง ก็ต้องมาพูดคุยในส่วนที่เห็นต่างว่าจะแก้ไขอย่างไร เมื่อถามว่าการพูดของนายทักษิณ ที่พาดพิงไปถึงหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้เกิดความหมางใจกันในรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ทราบว่า นายทักษิณหมายถึงใคร เมื่อถามย้ำว่าในทางการเมืองรับรู้ว่าคนในป่าหมายถึงบ้านของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ทราบ และไม่เคยเจอ พล.อ.ประวิตร ทุกครั้งเป็นการพูดคุยผ่านตัวแทนไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานที่ปรึกษาพรรค พปชร. และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค พปชร.
ไม่จำเป็นต่อสายตรง “บิ๊กป้อม”
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรโดยตรงหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่จำเป็น แต่การพูดคุยกันของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้ บางทีการพูดคุยกันในลักษณะนี้ดีกว่า เพื่อให้ทุกคนมีพื้นที่พูดคุยกันมากขึ้น บางอย่างที่ตนทำให้ไม่เหมาะสมเขาอาจไม่กล้าพูดกันก็ได้ และวิธีการแก้ไขปัญหามีหลายวิธีมาพูดคุยกันโดยตรงหรืออ้อมจะนิ่มนวลกว่า ไม่ทำร้ายจิตใจกัน นี่เป็นหลายวิธีที่เราพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันนี้ เป็นการติดตามความคืบหน้าจากที่สั่งการไปรอบที่แล้ว ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง คาดว่าวันนี้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงติดตามเรื่องการลงทุนของต่างชาติว่าติดปัญหาอะไรหรือไม่ เมื่อถามถึงความคืบหน้าโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯตอบว่า อยู่ในขั้นตอนการทำงาน หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงไทม์ไลน์หรือเหตุอะไรใหญ่ๆ หน่วยงานที่รับผิดชอบคงมาคุยกัน ขออย่าเพิ่งไปคิดอะไรไปก่อน รอนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จะได้ไม่เกิดความสับสน

“อ้วน” เลี่ยงตีความวลี “นายใหญ่”
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายทักษิณบอกอยู่ว่าไม่รู้ว่าบ้านป่าไหน ไปวิจารณ์ในสิ่งที่ไม่รู้ว่าท่านคิดอะไร คงพูดยาก เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมองเช่นเดียวกับนายทักษิณหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า พรรคเพื่อไทยดูแต่เรื่องที่ตัวเองเกี่ยวข้อง บางประเด็นมีความเห็นต่างกันบ้าง ส่วนประเด็นที่เป็นเรื่องค้างคาที่กระบวนการยุติธรรมต้องการให้จบ ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมไป เมื่อถามว่าคำพูดของนายทักษิณ ส่งผลให้การต่อสู้คดีของนายกฯเกิดความยุ่งยากหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องของการแสดงออก เป็นเรื่องของท่าน ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองหรือใครทั้งสิ้น คดีต่างๆเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครแทรกแซงได้ เมื่อถามว่ามีคนมองว่าการที่นายทักษิณออกมาพูด เป็นผลเสียมากกว่า นายภูมิธรรมตอบว่า คิดมากเกินไป ไม่ต้องไปคิดมาก อย่าไปคิดอะไรแทน
ไม่เห็นมีพรรคร่วมไม่สบายใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคอาจไม่พอใจ ที่ไปกล่าวถึงบุคคลในบ้านป่าฯแบบนี้ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่เห็นมีพรรคร่วมไหนไม่สบายใจ โทรศัพท์คุยกันยังปกติ และนายทักษิณไม่ได้บอกว่าบ้านป่าฯที่ไหน บอกแค่บ้านในป่า เมื่อถามย้ำว่าในทางการเมืองก็รู้กันดีว่าเป็นบ้านใคร นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่หรอก ถ้าเป็นการพูดไม่ชัดเจนหรือพูดลอยๆ อย่าไปตีความ เพราะมันตีความได้หลายอย่าง ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา ยืนยันว่าไม่มีปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาล เราเจอกันอยู่บ่อยๆ
ครม.เศรษฐกิจแก้ปัญหาปากท้อง
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงการประชุม ครม.เศรษฐกิจวันนี้ว่า คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เตรียมรายงานราคาปาล์มน้ำมันดีขึ้นมากแล้ว เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. เกษตรกรชาวสระบุรีแจ้งมาว่า ได้ราคากิโลกรัมละ 4.80 บาท ถือว่าดีขึ้นจากมาตรการขั้นพื้นฐานที่เราวางไว้ คือกิโลกรัมละ 4.5 บาท หากราคาน้ำมันสูงขึ้นเกินกว่ากำหนดก็สามารถบวกได้อีกเปอร์เซ็นต์ละ 30 สตางค์ นอกจากนี้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง เตรียมรายงานปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาการเงินการคลัง ปัญหาการเกษตร ปัญหาราคามันสำปะหลัง
“ผู้กอง” ป้อง “ทักษิณ” ไม่ได้พาดพิงใคร
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า เรื่องคนบ้านในป่า ที่หลายคนคาดว่าหมายถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.นั้น สื่อเข้าใจไปเองหรือเปล่า ไม่เห็นนายทักษิณเอ่ยชื่อใครเลย เมื่อถามย้ำว่าเมื่อพูดถึงบ้านในป่า คนจะนึกถึง พล.อ.ประวิตร ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เพิ่งมาจากป่าชัยภูมิเช่นกัน อย่าไปคิดมาก พูดคุยกับนายกฯทุกสัปดาห์ ยืนยันความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาลยังแน่นอยู่ เมื่อถามว่าได้คุยกับ พล.อ.ประวิตรบ้างหรือยัง ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เพิ่งกลับจากต่างจังหวัด ยังไม่ได้คุยอะไรกัน เมื่อถามยํ้าว่าต้องไปคุยกับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เราอย่าไปคิดมาก อย่าคิดไปไกล เมื่อถามว่าจะเป็นกาวใจให้นายทักษิณกับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่าคิดกันไปไกล ยืนยันไม่ได้คุยกับใคร ทั้งนายทักษิณและ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้ว
ไม่มีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่ามีแรงกระเพื่อมในพรรค พปชร.บ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ไม่มี การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ จะไม่สร้างความบาดหมางในพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนการพูดของนายทักษิณ มีนัยอะไรหรือไม่ ต้องไปถามนายทักษิณเอง เราไปวิเคราะห์คำพูดคนอื่นไม่ได้ สำหรับการนัดรับประทานอาหารของพรรคร่วมรัฐบาล ที่พรรค พปชร.เป็นเจ้าภาพครั้งต่อไป รอพรรคร่วมรัฐบาลตัดสินใจว่าจะเอาวันไหน เราเตรียมสถานที่ไว้พร้อมหมดแล้ว เมื่อถามย้ำว่าดูไว้หรือยังว่าจะจัดที่ไหน ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า จัดในกรุงเทพฯนี่แหละ ไม่ได้จัดที่ จ.พะเยา คาดว่าจะเป็นภายในเดือน มิ.ย.นี้ สื่อมวลชนสามารถเข้าร่วมงานได้

“หนู” ไม่ได้ยินใครพูดถึงคนในป่า
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าไม่ได้ยินที่นายทักษิณพูดถึงคนในบ้านป่า เมื่อวานอยู่บุรีรัมย์ ไปงานเผาศพแม่ของ รมช.มหาดไทย และไปตรวจงานโอทอปต่อจึงไม่ได้ดู ทราบเพียงว่านายทักษิณไป จ.ปทุมธานี เมื่อเย็นวันเสาร์ เพราะช่วงบ่ายวันเสาร์ตนได้ไปจับยาเสพติดที่อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานีพอดี ผู้สื่อข่าวบอกว่าอยู่ต่องานบวชเลยหรือไม่ ตนถึงรู้
พรรคร่วมพร้อมรับมือถกงบฯ 68
จากนั้นเวลา 13.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มอบให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง หารือกับหัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ เลขาธิการพรรค พปชร. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเสมอกัน เที่ยงธรรม พรรคชาติไทยพัฒนา เข้าร่วม คาดว่าเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ในวันที่ 19-21 มิ.ย.นี้ รวมทั้งสถานการณ์ในเรื่องอื่นๆ
“อนุทิน” ออกตัวไม่มีอะไรของตาย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือว่า ในวงหารือพูดคุยถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เราต้องพร้อมทุกประเด็น ฝ่ายซักถามมีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล สามารถตั้งข้อสงสัยและให้คำแนะนำต่างๆได้ เมื่อถามว่าด้วยจำนวนเสียงของรัฐบาลตอนนี้น่าจะผ่านฉลุยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า เราไปบอกว่าผ่านฉลุยไม่ได้ ไม่ใช่ว่าพอผ่านฉลุยแล้วไม่ต้องอธิบาย ไม่ต้องชี้แจง หรืออยากทำอะไรก็ทำ อย่างนี้ไม่ใช่ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามความชอบธรรม ตามหลักธรรมาภิบาล ไม่มีอะไรที่เป็น “ของตาย” เมื่อถามว่า วงเงินงบประมาณปี 2568 เพียงพอต่อการบริหารหรือไม่ จะมีงบกลางปีเพิ่มเติมด้วยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ก็ต้องพอ ต้องพยายามทำให้พอ เราทำตามกฎหมาย ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงต้องมีการแก้ไข เหมือนกับการแก้ไขกฎหมาย อย่าไปให้ความวิเศษวิโสอะไรมากกว่ากฎหมายอื่น
เซ็งคนงอแงจะเอาให้ได้อย่างใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังมั่นใจอยู่ใช่หรือไม่ว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 68 จะผ่านได้ ไม่มีปัญหาข่าวการเปลี่ยนขั้วเหมือนปีที่ผ่านมา นายอนุทินตอบว่า “ผมคิดว่าไม่มีนะ นี่รัฐบาลนะ ไม่ใช่ว่าใครอยากได้อะไร พอไม่ได้ดั่งใจแล้วมางอแงกัน ผมว่าไม่มีหรอก ต้องทำความเข้าใจกัน เรื่องความเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมเชื่อว่าหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนยังสามารถต่อสาย ยกหู สายตรงกันได้ ใครมีปัญหาอะไรกันก็เคลียร์กันให้จบ อย่าให้ประชาชนต้องเดือดร้อน อย่าให้ประโยชน์ที่จะตกกับประชาชนต้องถูกลิดรอนไป มันไม่เกิดอยู่แล้วอย่ากังวลไปเลย” และที่ประชุมไม่มีใครพูดถึงคำพูดของนายทักษิณ ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง คุยแต่เรื่องงาน เรื่องงบประมาณ เมื่อถามว่า นอกจากงบประมาณแล้วมีคุยถึงเรื่องร่าง พ.ร.บ.ประชามติด้วยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า เรื่องนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาก่อนการพิจารณาร่าง พร.บ.งบประมาณฯ 1 วัน
ให้แต่ละพรรคคุม สส.เข้าประชุม
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่าที่ประชุมพูดคุยเตรียมความพร้อมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 พูดถึงสัดส่วนของผู้ที่จะเป็นกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณ มอบหมายให้แต่ละพรรคไปเตรียมความพร้อมของแต่ละพรรค รวมถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ขอความร่วมมือให้ สส.แต่ละพรรคเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง
สั่งสกัดน้ำมันปาล์มเถื่อนเข้าใต้
ต่อมาเวลา 15.15 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ร่วมกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ร.ท.นเรศ วงศ์ตระกูล รองเสนาธิการทหารเรือ (สายงานยุทธการ) และนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร หารือถึงปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มเถื่อนทางภาคใต้ นายเศรษฐากล่าวว่า จากข้อมูลพบว่ามีการลักลอบนำน้ำมันปาล์มเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทางภาคใต้ของไทย ส่งผลให้ราคาปาล์มในประเทศถูกลง ขอสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับมาตรการการป้องกันการลักลอบน้ำมันปาล์มเถื่อนเข้าไทย รวมถึงของเถื่อนทุกชนิด ขอให้เพิ่มความเข้มข้นเฝ้าระวัง รวมถึงจับกุมผู้ร่วมขบวนการนำมาขยายผลต่อไป จากนั้นเวลา 15.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี นายกฯเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งระบบ

“เสรี” ห่วงเลือก สว.ติดบ่วงศาล รธน.
วันเดียวกันที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงการเลือก สว.ระดับอำเภอเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ถ้าสิ่งใดเป็นเรื่องผิดกฎหมาย กกต.ต้องลงโทษผู้ทำความผิด สิ่งที่พูดกันเยอะคือการฮั้ว หรือจับกลุ่มรับเงินไปสมัครและลงคะแนนให้กัน ดังนั้นต้องดูว่า ฮั้วแล้วผิดกฎหมายหรือไม่ ส่วนที่ กกต.อาจประกาศรับรอง สว.ไม่ได้ตามที่กำหนด ตนว่าอุบัติเหตุมีอยู่เรื่องเดียวคือ การเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายเลือก สว. ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าไม่มีเหตุต้องเลื่อนเลือก สว. กกต.ต้องจัดให้เลือกตามกฎหมายก่อน ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยหรือคำสั่งใดออกมา กกต.ต้องทำหน้าที่ตามคำสั่งศาล ผูกพันทุกองค์กร
ชี้คนดังเข้ารอบเยอะเรื่องปกติ
นายเสรีกล่าวว่า ที่ผ่านมา กมธ.ฯได้รับข้อมูลร้องเรียนความไม่โปร่งใสในการเลือก สว. ตามที่เป็นข่าว แต่เป็นเพียงความเห็น นำมาชี้ถูกผิดไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำคือ ส่งให้ กกต.พิจารณา กมธ.ฯไปตัดสินเองไม่ได้ เรื่องที่เข้ามาเราเห็นแต่ไม่มีหลักฐาน เห็นแต่มีผู้สมัครใส่เสื้อเหมือนกัน ถ่ายรูปที่เดียวกัน แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินทอง ใครทำผิดให้ว่าเป็นรายบุคคล จะล้มกระดานหรือเลื่อนจะเสียมากกว่า ส่วนระดับอำเภอที่มีแต่คนเด่นคนดังเข้ารอบ ถือว่าถูกต้อง เพราะการเลือกให้ใครมาลงคะแนนให้ คนที่มีโอกาสมากคือคนดัง เพราะเป็นที่รู้จักคนเชื่อถือ จึงได้รับเลือกเป็นเรื่องปกติ บอกว่าชาวบ้านไม่มีโอกาส ชาวบ้านต้องไปสร้างคุณงามความดีให้เป็นที่ประจักษ์แล้วต่อไปมาลงอีกได้ ขณะเดียวกันคนดังหลายคนก็ไม่ผ่านเช่นกัน
“สมชาย” ปูดอีกพกโพยเข้าคูหา
นายสมชาย แสวงการ สว. ให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันมีขบวนการขนคนไปสมัคร สว. หลักฐานปรากฏจากการตรวจลงคะแนนทุกอำเภอทุกกลุ่ม พบว่ามีคนได้ 0 คะแนนเยอะมาก ช่องว่างเกิดจาก พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง สว. ที่ให้ผู้สมัครเลือกตัวเองหรือไม่ก็ได้ ทำให้เกิดขบวนการขนคน 25,000 คน มาเพื่อใช้จ้างวาน เกณฑ์มาเลือก โดย กกต.ระดับอำเภอไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติ และประสบการณ์ 10 ปีจริง คนเหล่านี้ไม่ได้มาเพื่อเป็น สว. ทำให้คะแนนที่ได้ออกมาบิดเบี้ยว ในบางกลุ่มจังหวัด และสิ่งที่น่าจะทำให้การเลือกมีปัญหาคือ การอนุมัติให้นำเอกสาร สว.3 เข้าคูหา เอาโพยเข้าห้องสอบได้ มีการซ้อมกาหมายเลขในเซฟเฮาส์ก่อนวันเลือก สว.นำเอกสารที่ซ้อมกาไว้ เข้าคูหาด้วย ไปดูกล้องวงจรปิดได้ทุกอำเภอมีคนนำเอกสารเข้าคูหา มีคนส่งรูปมาให้แล้วว่าไปซ้อมกันที่ไหน ให้กาเลข 3 เลข 6 เป็นกระบวนการ แต่ กกต.บอกว่าไม่พบการทำผิด ดังนั้นกระบวนการเลือก สว.ขั้นที่ 1 น่าจะมีปัญหา ยืนยันถ้าไม่ได้เกณฑ์หรือจัดตั้งมาน้อยคนที่จะเข้ามาได้

เหน็บ กกต.เรียบร้อยโรงเรียนวัว
เมื่อถามย้ำว่าหลักฐานที่ได้มาสามารถเอาไปร้องได้หรือไม่ นายสมชายตอบว่า อยู่ที่ผู้ร้อง ปัญหาขณะนี้ผู้ร้องมีสิทธิร้องใคร ถ้าพบการทุจริต ผู้มีสิทธิร้องคือ ผอ.กกต.อำเภอ แต่ ผอ.กกต.อำเภอปล่อยออกมาหมด ทั้งที่กระบวนการทุจริต มีตั้งแต่ก่อนสมัคร ปล่อยให้ขบวนการจับจ้าง 2 หมื่นกว่าคนขนปิกอัพใส่สูทปลอม บัตรตรวจสุขภาพปลอม จัดจ้างเข้ามาตั้งแต่ระดับอำเภอ เช่น จ.มุกดาหาร มีหมอไปร้องว่า อสม. ไม่มี สิทธิสมัคร แต่ศาลบอกว่า ผู้ร้องไม่มีอำนาจ เพราะกฎหมายเขียนว่า ผู้ร้องคือ ผอ.การเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมีผู้ร้องว่าบางจังหวัดภาคอีสานจัดเลี้ยงกันก่อนลงสมัคร เรื่องนี้ส่งให้ประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว และร้องมาที่ตนด้วยว่ามี สส. 2 คน จัดงานเลี้ยง เป็น สส.พรรคใหญ่ ถ้าไม่ใหญ่ไม่กล้าทำ ใหญ่ทั้งแผ่นดิน หากประธานรัฐสภาเอาจริงจะนำไปสู่การผิดจริยธรรมสส.นำไปสู่การยุบพรรคได้ เชื่อว่าการเลือก สว.ไปต่อยาก เกิดโมฆียะตั้งแต่ต้น ถ้า กกต.ทำหน้าที่ของตัวเองสัก 90% ก็เจอแล้ว แค่ กมธ.ยังเจอเลย แต่ กกต.แถลงว่าเรียบร้อย แล้วเรียบร้อยใคร เรียบร้อยโรงเรียนวัวเท่านั้น
กกต.เปิด 23,645 ชื่อระดับอำเภอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการเลือก สว.ระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่มีผู้ได้รับเลือกเพื่อเข้าสู่การเลือกระดับจังหวัดจำนวน 23,645 ราย เป็นชาย 15,077 ราย เป็นหญิง 8,568 ราย ล่าสุดสำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการเลือก สว.ระดับอำเภอ เผยแพร่ผ่านหน้าเว็บไซต์ https://senator.ect.go.th/ หรือแอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต (Smart Vote) แล้ว นอกจากนี้ ผอ.การเลือกระดับอำเภอจะจัดทำประกาศผลการนับคะแนน 3 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่ม เป็นบัญชีรายชื่อระดับอำเภอ 2 ชุด ส่งให้ ผอ.เลือกระดับจังหวัด ปิดประกาศ ณ ที่ว่าการอำเภอ และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ https://senator.ect.go.th/ และแอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต ก่อนวันเลือกระดับจังหวัดไม่น้อยกว่า 3 วัน ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ ได้ทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของ กกต. ข้างต้น สอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสายด่วน 1444
ส่งคำชี้แจงกฎหมายเลือก สว.
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัย 4 มาตราใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 107 หรือไม่ โดยให้สำนักงาน กกต. จัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 5 วัน เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยว่า ได้ลงนามจัดส่งเอกสารส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 4 มาตราดังกล่าว ประกอบด้วย 1.มาตรา 36 ให้ผู้สมัครแนะนำตัวได้ตามวิธีการ และเงื่อนไขที่ กกต.กำหนด หรือบุคคลอื่นจะช่วยเหลือผู้สมัครแนะนำตัวต้องปฏิบัติตามวิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด มาตรา 40 วรรคหนึ่ง (3) มาตรา 41 วรรคหนึ่ง (3) และมาตรา 42 วรรคหนึ่ง (3) ที่เกี่ยวกับวิธีการเลือก สว.ระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ
“สมศักดิ์” ใส่เกียร์ลุยคลี่ปมกัญชา
อีกเรื่อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีทั้งผู้สนับสนุนและคัดค้านให้นำกัญชากลับเป็นยาเสพติดว่า การปรับแก้ประกาศกัญชาเป็นยาเสพติด ต้องเขียนเปิดไว้ว่าทำอะไรได้บ้างโดยเฉพาะเรื่องทางการแพทย์ หรือการแพทย์เพื่อเศรษฐกิจ และมีระยะเวลาให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาปรับตัวก่อนบังคับใช้ ให้มีผลกระทบน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย กรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เป็นไปตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ความคิดแต่ละคนเราเข้าใจ คงไม่ต้องไปย้ำอะไร นายกฯไม่ได้เรียกตนไปคุยหรือกำชับอะไรกับกรณีที่มีม็อบไปปักหลักที่ทำเนียบ ส่วนการจัดทำร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชานั้น อยู่ระหว่างการพูดคุยกัน ไม่ใช่ว่าไปทางไหน 100% ความคิดแต่ละท่านเราเข้าใจอยู่แล้ว ท้ายสุดอยู่ที่ขั้นตอนทางราชการที่ต้องทำให้ครบ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่