แรงกระเพื่อมกระดอนต่อเนื่องเป็นลูกระนาด
ไทม์ไลน์คดีการเมืองระอุ ปักหมุดยาวตลอดเดือน มิ.ย. แรงเสียดทานทวีความเข้มข้น ไม่ชุ่มฉ่ำผ่อนคลายอุณหภูมิเหมือนสภาพอากาศฤดูฝน
พรรคก้าวไกล–“นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีคิวระทึก ติดชนักข้อกฎหมาย ต้องเตรียมแก้ต่างคดีในชั้นศาล
ที่ต้องลุ้นตัวโก่งคือ พรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคดียุบพรรค กรณีล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ครั้งต่อไปวันที่ 12 มิ.ย.นี้
ยังไม่รู้จะนัดวันอ่านคำวินิจฉัยโดยเร็ว หรือเรียกสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก
เดิมพันความอยู่รอดค่ายส้ม จ่อตั้งโต๊ะแถลงใหญ่ แจกแจงแนวทางต่อสู้คดีทั้งทางกฎหมายและทางเทคนิคให้สาธารณชนทราบ วันที่ 9 มิ.ย.นี้
หวังผลให้คำแก้ต่างอยู่ในการรับรู้ของประชาชน สร้างแรงกดดันให้ศาลไปในตัว ในมุมที่ศาลรัฐธรรมนูญเองต้องรีบดักคอ เตือนคู่กรณีอย่าเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นทางคดีที่เป็นการชี้นำสังคม

...
ก้าวไกลดิ้นสู้เฮือกสุดท้ายในช่วงเวลาที่การชี้ชะตาอนาคตพรรคขยับใกล้เข้ามา
แนวโน้มน่าเสียวไส้ ตามรูปการณ์ก่อนหน้านี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยสั่งให้พรรคก้าวไกลยุติการดำเนินการแก้ไขมาตรา 112 เพราะเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
กองเชียร์ กองชังเห็นคล้อยไปทางเดียว สถานการณ์สุ่มเสี่ยงแพแตก ยังไม่รู้ลูกพรรคจะเหนียวแน่นตามไปอยู่พรรคสำรองมากน้อยแค่ไหน
เข้าทางพรรคขั้วรัฐบาลเปิดโหมดช็อปปิ้ง สส.แตกรัง ตุนขุมกำลังไว้ต่อรองอำนาจแย่งชิงการนำรัฐบาล เขย่าเสถียรภาพรัฐบาล
ชะตากรรมค่ายส้มแขวนอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ อีหรอบเดียวกับ “นายกฯนิด” ที่ต้องลุ้นสู้คดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน พิสูจน์ปมจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต กรณีแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี
มีเดดไลน์ 15 วัน ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ครบกำหนดช่วงกลางเดือน มิ.ย. แล้วค่อยมาใจจดใจจ่อรอฟังคำวินิจฉัยศาลต่อไป
ช่วงจังหวะไล่เลี่ยกับคดี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ติดบ่วงความผิดมาตรา 112 ต้องเดินทางไปพบอัยการในวันที่ 18 มิ.ย. นำตัวส่งฟ้องศาล ต้องลุ้นจะได้รับการประกันตัวจากศาลหรือไม่
3 คดีใหญ่ในกระบวนการยุติธรรมเดือน มิ.ย.ที่ผลลัพธ์พร้อมส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง
ในช่วงที่กระบวนการเลือก สว.ชุดใหม่อยู่ในภาวะลูกผีลูกคน หมิ่นเหม่ถูกล้มกระดาน
หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องพิจารณา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามที่กลุ่มผู้สมัคร สว.ยื่นเรื่องให้วินิจฉัยข้อข้องใจมาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 เกี่ยวกับขั้นตอนการแนะนำตัว และกระบวนการเลือก สว.ระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ

ตามความไม่ชอบมาพากล มีการร้องเรียนในหลายจังหวัดทั้งกรณีการเกณฑ์คนไปลงสมัคร คุณสมบัติผู้สมัครไม่ถูกต้อง กติกาพิลึกพิลั่น ให้ผู้สมัครเลือกกันเอง และเลือกไขว้ข้ามกลุ่ม อีนุงตุงนังวุ่นวายไปหมด
การเลือก สว.ถูกศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ ในจังหวะคาบลูกคาบดอก กระบวนการคัดเลือก สว.ระดับอำเภอทั่วประเทศ ใกล้คิกออฟในวันที่ 9 มิ.ย.นี้
กระบวนการเลือก สว.เจอสัญญาณเขย่าแรง โต้โผใหญ่คนคุมกติกาเฟ้นสภาสูงอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หัวหมุน เจอเปิดศึกชวนทะเลาะรายวัน
ไทม์ไลน์คดีการเมืองเดือน มิ.ย.ชวนระทึก ทั้งกรณียุบพรรคก้าวไกล การสอยนายกฯ และการล้มกระบวนการเลือก สว. เสี่ยงทำให้เกิดจุดพลิกผัน
ตามร่องรอยที่ นายวันชัย สอนศิริ สว.เปิดโปงแผน 3 ล้มคือ 1.ล้มรัฐบาลเศรษฐา นับหนึ่งอำนาจใหม่ 2.ล้มพรรคก้าวไกล ให้แตกกระจาย ค่ายการเมืองต้อน สส.เข้าคอกใหม่ ได้เสียงเพิ่มเอาไว้ต่อรองอำนาจ 3.ล้มการเลือก สว.ชุดใหม่ ให้ สว.ชุดเก่าอยู่ต่อไป
เกมล้มโต๊ะทุกองคาพยพส่อเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย เปิดช่องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเจรจาเกลี่ยดีลการเมือง รีเซ็ตอำนาจรอบใหม่
ผูกโยงเกมพลิกกระดานการเมือง รอจัดแถวอำนาจกันใหม่!!!
ทีมข่าวการเมือง