“วิษณุ” ร่วมวงประชุม “ครม.เศรษฐา” ครั้งแรกแท็กทีม กฎหมายนายกฯตรวจร่างคำชี้แจงสู้คดีถอดถอน พร้อมส่งศาล รธน. 7 มิ.ย. รับคิดหนักมารับตำแหน่งเหมือนคนไม่เจียมตัว แค่อยากช่วยประเทศ เมินเสียงค้านคน พท.ถ้าต้านมากๆก็ไม่อยู่ “สุริยะ-สมศักดิ์” หวานหยดเสริมใยเหล็ก รบ. เชียร์ “ซือแป๋” เก่งที่สุด “เศรษฐา” งดประชุมพรรคเลี่ยงปมร้อน ขอคน พท.หยุดสงครามสีเสื้อได้แล้ว สส.พท.เงียบกริบหลัง “อิ๊งค์” กล่อมให้เข้าใจเหตุผล จำเป็นต้องดึงคนเก่งเสริมแกร่ง ก้าวไกลยื่นคำชี้แจงสู้ยุบพรรค เผยมี สส.ส้มดอดคุยพรรคขั้วตรงข้าม “ธนาธร” ฉะคนจ้องคว่ำเลือก สว.เห็นแก่ตัว กกต.โต้ “สว.สมชาย” ข้อมูลคลาดเคลื่อนไร้หลักฐาน “เศรษฐา” งดพูดนิรโทษกรรม เชื่อ “ทักษิณ” พร้อมสู้ไม่คิดหนี “สุทิน” ไม่เชื่อจุดชนวนปฏิวัติ
บรรยากาศการประชุม ครม.คึกคักขึ้นมาทันที เมื่อนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุม ครม.เป็นครั้งแรก หลังได้รับการแต่งตั้งจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ หลังการประชุม ครม.ยังร่วมประชุมกับทีมกฎหมายนายกฯ ช่วยตรวจทานร่างคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ที่ถูกกลุ่ม 40 สว.ยื่นถอดถอน
“วิษณุ” แท็กทีม ก.ม.ช่วยนายกฯ
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 4 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรกหลังได้รับแต่งตั้งว่า เคยเข้าออกทำงานที่นี่มา 30 กว่าปีแล้ว ไม่มีอะไรแปลกใหม่ วันนี้เป็นที่ปรึกษาของนายกฯได้รับอนุญาตให้เข้าประชุม ครม.ได้ เผื่อจะมีประเด็นบางอย่างที่ท่านสั่ง หรือประเด็นที่เกิดการถกเถียงกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ จะได้แสดงความเห็น คงมีแค่นั้น เมื่อถามว่านายกฯให้ช่วยตรวจทานร่างคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ นายวิษณุตอบว่า เป็นธรรมดา หนีไม่พ้นต้องมีอยู่แน่ เพราะคนที่ทำจริงๆคือทีมงานของนายกฯ นายพิชิต ชื่นบาน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็น 1 ในทีมงานนั้น แต่นายกฯไม่ทราบรายละเอียดของนายพิชิต เพราะเป็นเรื่องของนายพิชิต ซึ่งทางคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพียงแค่เสนอมา เอามารวมกันให้ตนได้ตรวจดูอีกครั้ง ตอนนี้ทราบว่าได้ร่างคำชี้แจงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะให้นายกฯลงนามเสนอไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ทันวันที่ 6-8 มิ.ย. ส่วนรายละเอียดคำชี้แจงเป็นอย่างไร ขออย่าเปิดเผยเดี๋ยวเสียรูปคดี เมื่อถามว่ายืนยันว่ามีช่องสู้คดีได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า “ผมจะยืนยันได้อย่างไรว่าแพ้แหงๆ และผมยังไม่เห็นรายละเอียดคำชี้แจง วันนี้คงได้ดู”
...
มารับตำแหน่งอยากช่วยประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุผลอะไรที่เข้ามาช่วยทั้งที่มีปัญหาสุขภาพ หลายคนมองว่ามีอะไรมากกว่ามาช่วยนายกฯ นายวิษณุตอบว่า คิดหนักอยู่แล้วว่าเหมือนคนไม่เจียมตัว แต่เห็นใจนายกฯที่ยกเหตุผลอะไรหลายอย่างให้ฟัง คิดว่ามาช่วยท่านสักระยะหนึ่งคงไม่น่าทำให้ตัวเองเกิดอันตรายอะไร และไม่น่าเป็นผลเสียอะไรต่อประเทศชาติ เพราะเป็นที่ปรึกษาธรรมดา หรืออาจให้เลขาธิการนายกฯปรึกษาเพื่อยืนยันให้ท่านมั่นใจในบางเรื่อง “ผมคิดว่าประเทศชาติต้องการคนช่วยแก้ปัญหา คนเล็กๆคนหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาให้รัฐบาลในบางเรื่องที่มีข้อสงสัย ผมมาทำหน้าที่แทนในระดับอย่างนั้นเท่านั้นเอง ไม่ได้ต้องการเงิน ไม่ได้ต้องการเกียรติยศ ลดเกียรติด้วยซ้ำจากรองนายกฯมาเป็นที่ปรึกษา” เมื่อถามว่าใช้
เวลาตัดสินใจนานหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ตัดสินใจกันต่อหน้านายกฯ ที่เข้าไปหา เมื่อถามย้ำว่าตอนรับตำแหน่งมีเงื่อนไขอะไรบ้าง นายวิษณุตอบว่า มี เป็นเงื่อนไขเล็กๆ ที่นายกฯใช้คำว่าเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างนายกฯกับตน เมื่อถามว่ามารับงานตรงนี้เหมือนกับการลงเรือแป๊ะต่อใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ใช่ คนละแป๊ะ แป๊ะขึ้นไปแล้ว เวลานี้เศรษฐีมา ไม่ใช่แป๊ะแล้ว

เมิน สส.พท.ถ้าต้านกันมากก็ออก
ผู้สื่อข่าวถามว่าหน้าที่แรกที่นายกฯมอบหมายคืออะไร นายวิษณุตอบว่า ยังไม่มีสักเรื่อง แต่การตรวจคำให้การเป็นเลขาธิการนายกฯไหว้วาน เมื่อถามว่าจะดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วยหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ยังไม่เคยมีการเอ่ยถึงเรื่องนี้ เมื่อถามว่าจะอยู่ช่วยจนครบวาระรัฐบาล หรือช่วยงานเพียงบางครั้ง นายวิษณุตอบว่า อนาคตไม่ทราบ แต่เท่าที่คุยกับนายกฯคือมาช่วยเป็นบางกรณี แต่เมื่อหลายบางเข้ามันก็มากขึ้น การที่มีคนนอกมานั่งในที่ประชุม ครม.ไม่แปลกประหลาด มีหลายสมัย หากนั่งอยู่แล้วมีอะไรผิดพลาดก็อาจเขียนโน้ตส่งให้นายกฯ ไม่จำเป็นต้องทักท้วงให้เสียเวลา อย่างน้อยไม่ใช่นั่งเพื่อท้วง แต่วันหนึ่งเมื่อรัฐมนตรีไปกันหมดแล้วเกิดคดีความจะได้มีคนช่วยจำ ช่วยเป็นพยานว่าตอนนั้นว่ากันอย่างไร ข้าราชการทำหน้าที่นี้ได้ แต่บางคดีต้องการคนนอกที่ไม่ใช่ข้าราชการที่ไม่มีส่วนได้เสีย เมื่อถามว่ามีกระแสต่อต้านจากคนในพรรคเพื่อไทย นายวิษณุตอบว่า ไม่ได้เดือดร้อน ต้านมากๆตนก็ไม่อยู่ ไม่แปลกอะไร เพราะไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย เมื่อถามว่าการมาช่วยงานเช่นนี้ เป็นการการันตีว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ใช่เรื่องของตน เป็นเรื่องของฝีมือรัฐบาล
“สุริยะ” หวานเสริมใยเหล็กให้ รบ.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ต้องแสดงความยินดีกับนายเศรษฐาที่ประสบความสำเร็จในการเชิญนายวิษณุ มาเป็นที่ปรึกษาฯ สิ่งสำคัญที่สุดคือนายวิษณุ มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย มีลูกศิษย์เต็มบ้านเมืองจนได้ฉายากูรูกฎหมาย ส่วนนี้จะทำให้รัฐบาลมั่นใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และการที่นายวิษณุมาอยู่ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะมีส่วนสำคัญกับการประชุม เพราะจากประสบการณ์การประชุม ครม.มาหลายสมัย บางเรื่องที่ผ่านสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) มาแล้ว เมื่อมีนายวิษณุอยู่ในที่ประชุมจะสามารถชี้แจงประเด็นเหล่านี้ได้ดี และคิดว่ารัฐบาลจะมีนโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการแน่นอน เพราะครั้งสุดท้ายทำเมื่อปี 2545 เป็นเวลากว่า 26 ปีมาแล้ว นายวิษณุสามารถใช้ประสบการณ์มาช่วยตรงนี้ได้ เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์ว่าเป็นการใช้คนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ นายสุริยะตอบว่า “ถ้าวิจารณ์อย่างนั้น ตัวผมเองก็อยู่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คิดว่าเรากำลังก้าวสู่การปรองดองเป็นมิติสำคัญที่สุด สังคมคงมองเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นประเด็น”

“สมศักดิ์” เชียร์ “ซือแป๋” เก่งที่สุด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า มองว่านายวิษณุเป็นปราชญ์เป็นผู้รู้ รู้จักกันมานานนายวิษณุไม่เคยให้ร้ายใครให้แต่องค์ความรู้ ไม่เห็นว่ามีอะไรเสียหาย การที่นายกฯไปเชิญนายวิษณุมาเป็นที่ปรึกษาได้ ยังมองว่านายกฯอัจฉริยะ รัฐบาลก็จะไปได้ดี ส่วนภาพลักษณ์แล้วแต่คนมอง ถ้าเรามองในเรื่องความปรองดองมันจบเลย ถ้าฟังแล้วเข้าใจจะเป็นเรื่องบวกมากๆ ทำให้ทุกอย่างเดินไปได้ด้วยดี ในความถูกต้องและมั่นใจ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยถูกมองว่าไม่มีมือกฎหมาย
นายสมศักดิ์ตอบว่า ไม่เป็นไรแล้วแต่คนจะพูด มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่าบางคนก็ชอบค้าความขัดแย้ง ประเทศชาติเสียหาย เมื่อถามย้ำว่าการตอบลักษณะนี้เท่ากับยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีมือกฎหมายจริงๆ นายสมศักดิ์ตอบว่า ไม่ใช่ แต่นายวิษณุเก่งที่สุด ดีที่สุดแล้ว
งดประชุมเพื่อไทยเลี่ยงปมร้อน
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนประชุม นายเศรษฐากล่าวว่า วันนี้จะไม่เข้าประชุมพรรคเพื่อไทย เพราะมีภารกิจเยอะที่ทำเนียบรัฐบาล และวันนี้นายวิษณุจะเข้าร่วมประชุม ครม.เป็นครั้งแรก หลังได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายและพันธมิตรผู้นำด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ เข้าพบนายกฯในโอกาสเยือนประเทศไทย ทางเครือข่ายชื่นชมความก้าวหน้าด้าน LGBTQIAN+ในไทย พร้อมสนับสนุนการจัดตั้ง Asian Pride Alliance ต่อยอดผลักดันการเป็นเจ้าภาพจัดงาน WorldPride ของไทย ขณะที่นายกฯเน้นย้ำนโยบายรัฐบาลให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมทางเพศ และสิทธิของผู้คน LGBTQIAN+ กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมุ่งหวัง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมของไทย จะผ่านการพิจารณา สว.
ขอคน พท.หยุดสงครามสีได้แล้ว
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. กรณีสมาชิกพรรคเพื่อไทยวิพากษ์วิจารณ์การตั้งนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯว่า พูดไปเยอะแล้ว อย่างที่บอกเรื่องวาทกรรมการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เราปฏิเสธไม่ได้ถ้าเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ไม่ได้หมายความว่าทีมกฎหมายพรรค พท.ไม่เก่ง เชื่อว่าที่เราประสบปัญหากันมาทั้งรัฐบาล พี่น้องประชาชน จริงๆแล้วเราต้องการคนเก่งเข้ามาช่วย ส่วนจะเป็นสีเสื้อคนละขั้วหรืออะไรเป็นอีกเรื่อง แต่เราคำนึงถึงพี่น้องประชาชนเป็นหลัก คำนึงถึงการขับเคลื่อนนโยบายหลักไปด้วยความรอบคอบ เชื่อว่า สส.ในพรรคน่าจะเข้าใจส่วนนี้เรื่องสีเสื้อต่างๆควรหยุดได้แล้ว เหนือสิ่งอื่นใดอยู่ที่การกระทำมากกว่า อย่างการลงพื้นที่ก็ไม่ได้ไปแต่พื้นที่พรรค พท. ไปทำงานทุกภาค เป็นเจตนารมณ์ที่ชัดเจน การทำงานของรัฐบาลนี้เน้นย้ำตลอดการทำแต่เขตตัวเองหรือพรรคพวกตัวเอง ไม่อยากให้มี แต่เวลาพูดก็พูดไป เชื่อว่าการกระทำจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด
สัญญาใจเป็นเรื่องของคน 2 คน
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า เชื่อว่าแสดงออกอย่างเต็มที่แล้วว่าเราไม่มีสีเสื้อ และพยายามเดินหน้ากันต่อไป แต่ก็เข้าใจถึงความเจ็บปวดในอดีตที่เคยมีมา ต้องบริหารเรื่องความคาดหวัง เรื่องสภาพจิตใจของทุกๆฝ่าย เวลาเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของทุกฝ่าย เชื่อว่าที่เราตั้งใจมาทำงานตรงนี้ พยายามขจัดปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ถือเป็นสัญญาณดีจากทุกฝ่าย ความรุนแรงร้อนแรงทางการเมืองหวังว่าจะลดลงไปได้ เรามาดูที่ผลงานดูความตั้งใจของนายวิษณุดีกว่า และเชื่อว่าการที่ประชาชนจะเลือกพรรคใด เรื่องการทำงานของรัฐบาลเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อถามว่ามีข่าวว่าในที่ประชุมพรรคจะเคลียร์ใจเรื่องนี้ด้วย นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ทราบ และติดภารกิจที่ทำเนียบฯ คงเข้าไปไม่ได้ เมื่อถามว่านายวิษณุระบุว่าจะมาช่วยงานชั่วคราว ตรงนี้มีสัญญาใจอะไร นายกฯตอบว่า เรื่องสัญญาใจเป็นเรื่องของคน 2 คน รู้จักกับนายวิษณุมานานแต่ไม่เคยทำงานด้วยกัน เป็นเรื่องที่เราต้องพัฒนาความสัมพันธ์กันไป มั่นใจถ้าตนสามารถทำให้ท่านมีความสุขได้เราก็พยายามจะอยู่กันไปนานๆ

มอบ “วิษณุ” ช่วยดูคำชี้แจงศาล รธน.
นายเศรษฐายังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ใกล้ครบ 15 วันว่า บ่ายวันนี้ทีมงานจะประชุมร่วมกับนายวิษณุ มอบหมายให้ท่านช่วยดูด้วย “บอกไปแล้วครับว่าให้อาจารย์อยู่ในทีมนี้ด้วย และยังมีอีกหลายเรื่อง” เมื่อถามถึงผลโพลสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจผลงาน 6 เดือนของรัฐบาล ระบุเรตติ้งดีขึ้น ว่า ยังไม่เพียงพอ ยังทำได้อีก ยังมี เรื่องที่ประสานให้ลดดอกเบี้ยในธนาคารหลัก 0.25% เราพอใจแต่ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก เรายังให้ความสำคัญกับกลุ่มที่มีความหลากหลาย ผลักดันร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เรื่องบีโอไอ เอานักลงทุนเข้ามา เรื่องที่เราต้องทำต่อเนื่องคือ การศึกษา เรื่องหนี้ครัวเรือนก็พยายามหาทางลดกันต่อไป เรื่องปัญหา Capacity Utilization กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมต่างๆทำได้น้อยลง ปัจจุบันใช้อยู่แค่ 57% เท่านั้น หน้าที่เราคือต้องพยายามกระตุกให้มีการผลิตเกิดขึ้น เพื่อให้มีการจ้างงาน ซื้อ material (วัสดุ) ใหม่ๆ จะเป็นการเปิดตลาดใหม่ๆ ในเวทีโลก
โต๊ะกินข้าวคึก “สุริยะ–สมศักดิ์” แจม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ถึงบรรยา กาศการประชุม ครม. ที่มีนายวิษณุ เครืองาม เข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรก นายเศรษฐาได้กล่าวต้อนรับนายวิษณุ พร้อมกับขอบคุณที่มาช่วยงาน บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น นายวิษณุยังไม่ได้แสดงความเห็นหรือมีข้อเสนอแนะอะไร ทั้งนี้ ภายหลังเลิกประชุมแล้วนายเศรษฐาได้เข้าไปพูดคุยด้วย ส่วนบรรยากาศรับประทานอาหารกลางวันหลังประชุม ครม.ค่อนข้างคึกคัก โดยเฉพาะโต๊ะที่นายวิษณุนั่งอยู่ มีรัฐมนตรีหลายคนเข้าไปทักทายและนั่งร่วมโต๊ะด้วย อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข
คาดส่งคำชี้แจงศาล รธน. 7 มิ.ย.
จากนั้นเวลา 13.00 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯ หารือร่วมกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดูรายละเอียดการจัดทำคำชี้แจงของนายกฯต่อศาลรัฐธรรมนูญที่ใกล้ครบเวลา 15 วันต้องให้ส่งคำชี้แจง ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง มีรายงานว่า ทางทีมงานจะเร่งดำเนินการจัดทำคำ ชี้แจงให้เสร็จตามกำหนด ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 8 มิ.ย. แต่เนื่องจากวันที่ 8 มิ.ย. ตรงกับวันหยุดราชการ ทางทีมงานจึงมีการหารือเบื้องต้นจะส่งคำชี้แจงในวันที่ 7 มิ.ย. โดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เป็นผู้ส่งคำชี้แจง
“อิ๊งค์” กล่อม สส.ให้เข้าใจเหตุผล
ช่วงบ่ายที่พรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุมสส.พรรค มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค พร้อม สส.ของพรรคเข้าร่วมการประชุม ในที่ประชุม น.ส.แพทองธารเน้นย้ำให้ สส. ร่วมอภิปรายงบประมาณปี 2568 อย่างเข้มแข็ง ส่วนที่มีกระแสข่าว สส.ของพรรคไม่สบายใจกับการแต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ขอให้สบายใจ นายวิษณุเข้ามาช่วยงานรัฐบาลด้วยความตั้งใจ ก่อนหน้านี้ทำงานกับรัฐบาลไทยรักไทยมาก่อน ท่านเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ขอให้ สส.ยอมรับ และเข้าใจ เพื่อให้เราเดินไปข้างหน้าได้ เพราะรัฐบาล ต้องการสร้างผลงานขับเคลื่อนนโยบาย เรื่องระเบียบราชการการบริหารราชการเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องที่ปรึกษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อเรามีคนเก่งมาร่วมงานจึงเป็นเรื่องที่ดี ขอให้ทุกคนเข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน ให้พวกเราสามัคคีกัน ช่วยกันสนับสนุนท่านนายกฯ เราต้องร่วมมือกันถึงจะฝ่าฟันปัญหาไปได้ เพราะหากนายกฯอยู่ไม่ได้ พรรคร่วมก็อยู่ไม่ได้ สภาฯก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นอะไรที่สร้างความเข้มแข็งให้รัฐบาลได้ให้ช่วยกัน ถ้าใครไม่สบายใจสามารถมาพูดคุยกันได้ โดยในส่วนของ สส.ไม่ได้ มีใครลุกขึ้นพูดในประเด็นนี้

“ชัยธวัช” ชี้มีปัจจัยการเมืองเเทรก
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์คดียุบพรรคว่า วันนี้พรรคส่งตัวแทนไปยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในคดีล้มล้างการปกครองต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากนี้จะไปยื่นขอให้มีการไต่สวน และยื่นบัญชีพยานต่อไป ส่วนกระบวนการจะใช้ระยะเวลาแค่ไหนขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่าอนุญาตให้มีการไต่สวนหรือไม่ เรื่องนี้เป็นการต่อสู้ในทางกฎหมาย และข้อเท็จจริง เราทำให้เต็มที่ แต่ถึงที่สุดแล้วคิดว่าเราทราบดีว่าสุดท้ายคำวินิจฉัยที่จะออกมานั้น ไม่ได้เป็นเหตุผลในทางกฎหมายอย่างเดียว มันมีเหตุผลทางการเมือง มีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่กรณี กรณีคดียุบพรรค ก.ก.นั้น คิดว่าทุกคนทราบว่าอาจเป็นปัจจัยทางการเมืองเกือบทั้งหมดด้วยซ้ำ
แย้มแนวทางหักล้างข้อกล่าวหา กกต.
นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ กกต.ระบุว่า องค์ประกอบความผิดครบแล้วนั้น เรื่องนี้เราสู้ว่ามันมีคดีก่อนหน้านี้ที่สั่งให้เลิกการกระทำ เป็นข้อต่อสู้ของเราว่าคดีก่อนหน้านี้ที่สั่งให้เลิกการกระทำ ไม่ได้หมายความว่าต้องผูกพันคดีที่กำลังจะวินิจฉัยใหม่นี้ ต้องดูรายละเอียดดูเงื่อนไขทางกฎหมาย ดูหลักกฎหมายว่าผูกพันหรือไม่ผูกพัน เราเห็นว่าไม่ผูกพัน เมื่อไม่ผูกพันดังนั้นต้องมาวินิจฉัยข้อเท็จจริงกันใหม่ คดีที่แล้วมันเป็นคดีที่เป็นการวินิจฉัยเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดการกระทำ ที่ศาลเห็นว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง คือสั่งแค่ให้ยุติการกระทำ พูดง่ายๆ ว่าโทษไม่ได้รุนแรง แต่คดีนี้เป็นการขอให้วินิจฉัยเพื่อสั่งให้ยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรค ถือเป็นโทษรุนแรงสูงสุดสำหรับพรรคการเมือง และนักการเมือง ดังนั้นการพิจารณาโทษที่รุนแรง ขนาดนี้ มาตรฐานการวินิจฉัยข้อเท็จจริงและการกำหนดโทษ ต้องยึดมาตรฐานสูงกว่า
ก.ก.ยื่นคำชี้แจงศาล รธน.สู้ยุบพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถึงความคืบหน้าการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ คดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีพรรค ก.ก.มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองฯ เป็นเหตุยุบพรรค ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค และห้ามไม่ให้ กก.บห. และผู้ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ หรือเป็น กก.บห. หรือมีส่วนร่วมจัดตั้งพรรคใหม่ 10 ปี นับจากวันที่ศาลมีคำสั่งยุบพรรค ล่าสุดวันที่ 4 มิ.ย. พรรค ก.ก.ได้ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว
“ไอติม” เผย 9 มิ.ย. แถลงรายละเอียด
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค ก.ก. กล่าวว่า วันที่ 4 มิ.ย. ครบกำหนดต้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ พรรคเตรียมเอกสารรายละเอียดไว้เรียบร้อยแล้ว จะยื่นให้เสร็จภายในวันนี้ และในวันที่ 9 มิ.ย.จะแถลงรายละเอียดคำชี้แจงทั้งหมดให้สาธารณะทราบถึงแนวทางต่อสู้คดี เมื่อถามถึงหลักการในคำชี้แจงเป็นไปตามที่เคยยืนยันหรือไม่ว่า ความผิดยังไม่สำเร็จ และพรรคไม่ได้มีเจตนาล้มล้างการปกครอง นายพริษฐ์ตอบว่า ขอให้รอวันที่ 9 มิ.ย.จะชี้แจงรายละเอียดทีเดียว เมื่อถามย้ำถึงบรรยากาศภายในพรรค นาย พริษฐ์ตอบว่า สส.ทุกคนเดินหน้าทำงานต่อ ไม่ให้เรื่องนี้มาทำให้เราสูญเสียสมาธิ
มี สส.ส้มดอดคุยพรรคขั้วตรงข้าม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีความเคลื่อนไหวของ สส.พรรค ก.ก. ก่อนหน้านี้มี สส.ก.ก.ได้ไปพูดคุยกับ สส.พรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคขั้วตรงข้าม แต่ยังไม่มีใครกล้าแสดงตัว เนื่องจากกังวลจะถูกกาหัวว่าเป็นงูเห่า อีกทั้งยังมีการกำชับ สส.ใหม่จากแกนนำพรรคให้เชื่อใจกันและกัน หากพรรคถูกยุบจริงมีการเตรียมการรองรับไว้แล้ว

“ธนาธร” ฉะคว่ำเลือก สว.เห็นแก่ตัว
ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีนายสมชาย แสวงการ สว. ระบุมีโพยก๊วนฮั้วเลือก สว. 149 คน ว่า ไม่ทราบ ว่าโพยก๊วนดังกล่าวมีจริงหรือไม่ หากมีจริงเป็นหน้าที่ กกต. อยากให้ กกต.ทำหน้าที่ให้การเลือกสว.ครั้งนี้เป็นไปอย่างยุติธรรม ไม่มีการกะเกณฑ์มาหรือล็อก ทำให้สุขภาพประชาธิปไตยไทยไม่ดี หากตั้งใจทำจริงเชื่อว่าเวลาที่เหลือ 3-4 วัน จะตรวจสอบรายชื่อที่หลุดออกมาเป็นข่าวทั้ง 149 คน ทันก่อนที่จะมีการเลือกในระดับอำเภอ เมื่อถามว่ามี สว.เชื่อว่ามีกระบวนการล้มกระดานเลือก สว.ชุดใหม่ นายธนาธรถึงกับร้องโอ้โหก่อนตอบว่า คงเห็นแก่ตัวเกินไป ต่อให้กติกาเลือก สว.ครั้งนี้เราไม่พอใจ แต่เมื่อเดินหน้ามาแล้ว ต้องปล่อยให้มี สว.ชุดใหม่เกิดขึ้น สว.ชุดใหม่จะดีจะเลวอย่างไร ก็มีความยึดโยงกับประชาชนมากกว่า สว.ชุดปัจจุบันแน่ จะไปสังเกตการณ์ การเลือก สว.ด้วยตัวเอง แต่ เป็นที่ใดจะพิจารณาอีกที
แม้ไม่ชอบกติกาก็ต้องยอมรับ
นายธนาธรกล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการนำข้อมูลผู้สมัคร สว.ลงไปในเว็บไซต์ senate67 จะเป็นการเอื้อต่อการฮั้วกันหรือไม่นั้น การฮั้วหรือการประชา สัมพันธ์จุดยืนแนวคิดเป็นคนละเรื่องกัน หน้าที่เว็บไซต์ดังกล่าวไม่ได้ทำเพื่อฮั้วกัน แต่ทำให้คนเห็นว่าผู้สมัครในอำเภอแต่ละคนเป็นใคร มีอาชีพ การงานและจุดยืนทางการเมืองอย่างไร หากมีโอกาสเลือกไขว้จะได้พิจารณาเลือกคนไหน การใช้วาทกรรม ว่าคนที่มาลงข้อมูลในเว็บไซต์ senate67 เป็นสว.สีส้มนั้น ในเว็บไซต์ senate67 มีหลายจุดยืน บางคนไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ บางคนไม่อยากแก้หมวด 1 และ 2 มีผู้สมัครที่มีจุดยืนทางการเมืองหลากหลาย ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าการเลือก สว.จะเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ นายธนาธรตอบว่า เมื่อกฎกติกาออกมาเป็นแบบนี้ ทุกฝ่ายพยายามเล่นเกมกับกติกานี้ ถ้าจะโทษต้องโทษคนร่างรัฐธรรมนูญที่เขียนกฎกติกาเลือก สว.แบบนี้ แม้ไม่ชอบกฎกติกาแบบนี้ ก็ควรปล่อยให้เดินหน้าต่อไป
กกต.โต้ “สมชาย” ข้อมูลคลาดเคลื่อน
ขณะที่ศูนย์ต่อต้านข่าวเท็จ สำนักงาน กกต. เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า ตามที่มีผู้นำข้อมูลที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง นำข้อมูลโพยก๊วนฮั้วเลือก สว. 149 คน มาเผยแพร่ กกต.ขอชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง ขณะนี้การเลือกผู้สมัคร สว.ในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ยังไม่ได้ดำเนินการลงคะแนนเลือกผู้สมัคร สว. การนำข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นการคาดเดาโดยไม่มีมูลความจริง และปราศจากพยานหลักฐาน สำหรับการนำเสนอข่าวผู้สมัคร สว.ที่จังหวัดมุกดาหาร ถ่ายรูปที่ร้านกอไก่สตูดิโอ พร้อมกันหลายรายยังไม่ปรากฏว่าผู้สมัคร สว.กลุ่มดังกล่าว ร่วมกันหรือมีพฤติการณ์ที่กระทำความผิดตามกฎหมายแต่อย่างใด กกต.ได้สั่งการให้สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดทุกจังหวัด ตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมของผู้สมัคร สว.ทุกราย หากปรากฏว่าผู้สมัคร สว.ผู้หนึ่งผู้ใดกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายทันที

ยังกัดไม่ปล่อยจับพิรุธสมัคร สว.
นายสมชาย แสวงการ สว. ประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า โพยก๊วนฮั้วเลือก สว.ที่นำมาเผยแพร่ มาจากแหล่งข้อมูลดิบที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการเลือกสว. จะนำข้อมูลที่ได้เข้าหารือที่ประชุม กมธ. ยิ่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือก สว.มาตรา 40, 41 และ 42 (3) ที่ระบุให้ผู้เลือกระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ จะเลือกหรือไม่เลือกตนเองก็ได้ ยิ่งเปิดช่องให้คนรับจ้างเข้ามาเพื่อเลือกคนอื่น เป็นการขัดเจตนารมณ์ เท่ากับเกณฑ์คนมาเลือก เคยทักท้วงหลายเดือนแล้ว แต่ กกต.ไม่ยับยั้ง ทำให้มีผู้สมัคร สว.บางคนยอมจ่ายเงิน ข้อพิรุธลักษณะนี้มีคนส่งมาให้นับพันเรื่อง 149 คนที่อยู่ในโพยก๊วนเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งของขบวนการทั้งหมด แต่ตั้งคำถามให้ กกต.ตอบว่าตรวจสอบแล้วหรือยัง ส่วนที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ระบุอาจมีขบวนการล้มกระดานการเลือก สว. เป็นเรื่องของนายเสรี
นายกฯงดพูดจุดยืนนิรโทษกรรม
วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยพยายามผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยให้รวมความผิดคดีมาตรา 112 ว่า ได้พูดไปแล้ว ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กำลังโดนคดีนี้อยู่ นายเศรษฐาตอบว่า พูดไปเยอะแล้ว ขอไม่พูดเรื่องนี้ เมื่อถามว่าล่าสุด กมธ. พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พิจารณาประเด็นนี้ จะเข้าข่ายความผิดทางการเมืองหรือไม่ เพราะสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยมีเรื่องนี้แล้วต้องสูญเสียอำนาจไป นายเศรษฐาตอบว่า จุดยืนชัดเจนแล้ว พูดไปแล้วเรื่องนี้
เชื่อ “ทักษิณ” พร้อมสู้ไม่คิดหนี
เมื่อถามว่านายกฯช่วยดับข่าวลือได้หรือไม่ว่า นายทักษิณยังอยู่ในประเทศ ไม่ได้หนีออกไปต่า ประเทศ นายกฯหัวเราะพร้อมตอบว่า ได้เจอ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ได้ถามถึงคุณพ่อ น.ส.แพทองธาร บอกว่าพ่อสบายดี มั่นใจนายทักษิณไม่ได้ออกนอกประเทศ ท่านพร้อมสู้ ไปอยู่ต่างประเทศมา 17 ปีมันนานพอแล้ว วันนี้นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เป็นขวากหนามที่เข้ามา ต้องว่ากันไป พูดแทนท่านไม่ได้ แต่คิดว่าท่านคงไม่ได้คิดจะไปไหน
ไม่เชื่อปมนิรโทษจุดชนวนปฏิวัติ
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวว่า การนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ต้องรับฟังทุกกลุ่ม ผ่านเข้าสู่ระบบรัฐสภา ฟังเสียงส่วนใหญ่คนทั้งประเทศ และต้องฟังเสียงคนในพรรคเช่นกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องฟังเสียงคนในกองทัพหรือไม่ นายสุทินตอบว่า ต้องฟังเสียงทุกฝ่าย ต้องแยกแยะกลุ่มบุคคลว่าควรหรือไม่ควรได้รับนิรโทษกรรม มีเกณฑ์ชี้วัดอยู่แล้ว ส่วนความกังวลหากมีการนิรโทษกรรมจะนำไปสู่การยึดอำนาจนั้น ไม่ได้มองไปขนาดนั้น ไม่ง่ายหรอก พรรคเพื่อไทยดำเนินการเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง ในอดีตเคยมีบทเรียนจะฟังเสียงประชาชนเป็นที่ตั้ง ประเมินทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ต้องดูประเภทความผิด สิ่งใดสังคมรับได้ และรับไม่ได้
โยนสภาฯตรากฎหมายล้างผิด
นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีการตรากฎหมายนิรโทษกรรมเป็นความพยายามของฝ่ายสภา รัฐบาลไม่ได้พยายาม แต่ต้องส่งให้รัฐบาลดู ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจำเป็นต้องทำร่างประกบกับร่างของ สส.หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า หากเห็นว่าจำเป็นรัฐบาลก็เสนอไป เรื่องนี้ไม่ทราบ ส่วนจะมีโอกาสจะรวมความผิดตามมาตรา 112 ไปด้วยหรือไม่นั้น ไม่ทราบ
อัดงบ 68 “กู้ฉ่ำ กระเป๋าฉีก”
วันเดียวกัน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2568 ว่า ขอตั้งฉายางบปี 2568 ว่า กู้ฉ่ำ กระเป๋าฉีก คำว่ากู้ฉ่ำมาจากกู้เกือบเต็มเพดาน ตั้งวงเงินกู้ 99.99% วงเงินที่ขอกู้ปี 2567 รวม 693,000 ล้านบาท กู้ปี 2568 อีก 865,700 ล้านบาท ขอกู้เกือบเต็มกรอบวงเงินตามเงื่อนไข พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 ขาดไป 40 ล้านบาท ส่วนคำว่ากระเป๋าฉีก มาจากการจัดสรรงบกลาง รายจ่ายชดใช้เงินคงคลัง และรายจ่ายชดใช้เงินทุนสำรอง ไม่มีการจัดตั้งงบประมาณไว้ เหตุใดงบกลางมีการตั้งรายการอื่นมาทดแทน ชื่อค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ 152,700 ล้านบาท คืองบดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ หรืองบสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แผนงานพื้นฐานความมั่นคง ปี 2567 ตั้งไว้ 3,384,190,100 บาท แต่เสนอตั้งงบปี 2568 จำนวน 6,226,024,700 บาท เพิ่มขึ้น 84 % เหตุใดตั้งงบมากมาย เป็นข้อสังเกตจากข้อมูลสำนักงบประมาณ สส.ไทยสร้างไทย จะนำมาวิเคราะห์เพื่อไปอภิปรายในสภาฯ
ป.ป.ช.นัดคุย ตร.คืนคดี “บิ๊กโจ๊ก”
อีกเรื่อง นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ส่งหนังสือถึง ป.ป.ช.ขอสำนวนสอบสวนคดีอาญา สน.เตาปูน ในส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. กรณีทำความผิดฐานฟอกเงิน กลับมาดำเนินการเองว่า กำลังประมวลข้อมูลเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่แจ้งไปยัง บช.น.ให้มาหารือที่สำนักงาน ป.ป.ช.วันที่ 5 มิ.ย. เวลา 13.30 น. ว่า จะขออะไรจาก ป.ป.ช. มาคลี่สำนวนดูอะไรอยู่ในอำนาจหน้าที่ ป.ป.ช. หรือ บช.น. ยังบอกไม่ได้จะส่งสำนวนให้ บช.น.หรือไม่ ต้องคุยกันก่อน จากนั้นจะรายงานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาจะส่งให้หรือไม่