รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำบริหารประเทศแค่ยังไม่ถึงปีก็โดนมรสุมการเมืองถล่ม 2 ลูกใหญ่ๆ ลูกแรกนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ถูก 40 สว.ร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ถอดถอนจากตำแหน่ง ฐานแต่งตั้งรัฐมนตรีโดยมิชอบ มรสุมการเมืองลูกที่ 2 เป็นเรื่อง “กรรมเก่า” ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องความผิดตาม ป. อาญา ม.112 ดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทสถาบัน นักวิเคราะห์การเมืองมองว่าหนักทั้งสองเรื่อง และกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แบ่งการเมืองออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอนุรักษ์นิยม พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล
นักวิชาการบางคนถือว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยไม่ใช่ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยที่ต่อสู้กับฝ่ายอำนาจนิยมที่สืบทอดอำนาจจากรัฐประหาร คสช. แต่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยเป็น “อนุรักษ์นิยมใหม่” แต่บางคนมองว่าพรรคเพื่อไทยเป็น “อนุรักษ์เก่า” แต่เมื่อต้องต่อสู้กับกลุ่มอำนาจนิยม จึงถูกยกให้เป็นผู้นำประชาธิปไตย
ถ้าย้อนหลังกลับไปถึงยุคพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนที่มีนายทักษิณเป็นผู้นำอยู่หลายปี นายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้จากพรรคประชาธิปัตย์เคยให้นิยามการเมือง “ระบอบทักษิณ” ได้แก่ การแทรกแซงองค์กรอิสระ นโยบายที่เป็นประโยชน์ทับซ้อน ความรุนแรงในการทำสงครามยาเสพติด และการดับไฟใต้
รัฐบาลทักษิณในยุค 2547 เชื่อว่าความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นฝีมือของ “โจรกระจอก” จึงใช้กำลังปราบปรามรุนแรง นายทักษิณเคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์สิงคโปร์ ยอมรับว่ากระทำการรุนแรงต่อชาวมุสลิมในภาคใต้ เพราะเป็นตำรวจถูกสอนว่าต้องใช้กำปั้นเหล็กกับถุงมือกำมะหยี่ แต่ใช้กำปั้นเหล็กมากไป
...
ในด้านเศรษฐกิจต้องถือว่าพรรคไทยรักไทยประสบความสำเร็จในการใช้นโยบายประชานิยม ลดแลกแจกแถมในการหาเสียงเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ทุกฝ่ายยอมรับ แต่หลายอย่างล้มเหลว ทำให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องติดคุก เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทร และการรับจำนำข้าวที่ยังใช้หนี้ไม่หมด
ในการหาเสียงเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้ประชาชนกว่า 5 แสนล้านบาท ให้ประชาชน 50-57 ล้านคน แต่ยังไม่สำเร็จ ในด้านการเมือง นายกรัฐมนตรีสัญญาว่าจะจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ที่เป็นประชาธิปไตย ในวันแรกที่ประชุม ครม. แต่อาจต้องนานถึงสี่ปี.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม