ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ คงเป็นไปอย่างที่พูดกันว่าการเมืองไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้ ใครจะไปคิดว่าแม่เหล็กการเมือง 3 แท่งใหญ่ จะต้องมาติดบ่วงพร้อมๆ กันได้

“ก้าวไกล” ผู้นำฝ่ายค้านในสภา แม้ล่าสุดโพลที่สำรวจความเห็นของประชาชน พบว่าเป็นพรรคที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 หลังการเลือกตั้งจนถึงปัจจุบัน

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยังได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีเหนือกว่าผู้นำคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น "เศรษฐา ทวีสิน"- "อุ๊งอิ๊งค์" หัวหน้า "เพื่อไทย"

“บิ๊กตู่” ยังมาที่ 2 แม้จะลาการเมืองไปแล้วก็ตาม

“ก้าวไกล” ถูกร้องให้ “ยุบพรรค” อันเป็นผลมาจากศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าล้มล้างการปกครอง

หากชี้ว่าผิดจริงก็ต้องไปตามนั้น...

แต่ดูเหมือนว่าบรรดาแกนนำจะไม่หวั่นไหว เพราะเชื่อว่าไม่ว่าจะถูก “ยุบหรือไม่ยุบ” ก็ไม่ต่างกัน เพราะมั่นใจ

“ประชาชน” ยังให้การสนับสนุนอีก 3 ปี เลือกตั้งใหม่น่าจะได้ สส.ถึง 270 ด้วยซ้ำไป

นั่นก็เป็นการคาดการณ์ แต่ความจริงจะเป็นอย่างไร...อีกเรื่องหนึ่ง

ลำดับถัดมา “เศรษฐา” นายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กรณีแต่งตั้งรัฐมนตรีที่ขาดคุณสมบัติ

ถ้าศาลชี้ว่าผิดก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง

รายนี้ค่อนข้างจะวิตกกังวลมากพอสมควร เพราะอยู่ดีไม่ว่าดีก็มาถูก 40 สว.เข้าชื่อถอดถอนด้วยอะไรก็ตาม

แต่เมื่อเข้าข่ายความผิดก็ไม่พ้น

มีทางเดียวก็ต้องหาทางแก้ข้อกล่าวหา ให้ได้ ล่าสุดได้ไปเชิญชวน “วิษณุ เครืองาม” อดีตรองนายกรัฐมนตรีจากรัฐบาลชุดที่แล้ว มาเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

...

คำสั่งแต่งตั้งที่ให้บทบาทไม่ต่างไปจากรองนายกรัฐมนตรีเท่าใด เพียงแต่ไม่ได้เป็นนักการเมืองเท่านั้น

“วิษณุ” ยืนยันว่ามีช่องทางจะสู้คดีได้

ได้ฟังอย่างนี้ “เศรษฐา” เลยมีหน้าตาสดใสขึ้น หลังจากที่หน้าดำคร่ำเครียด มาหลายวัน เพราะกังวลว่าจะตกเก้าอี้

เพราะมั่นใจว่า “เนติบริกร” ท่านนี้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับต่างๆ รวมถึงประสบการณ์ที่ผ่าน เวทีการเมืองมาหลายนายกรัฐมนตรี

คงทำให้เขาหลุดบ่วงนี้ไปได้

อีกรายที่เพิ่งกลับเมืองไทยหลังลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศถึง 17 ปีเต็มๆ ถึงเมืองไทยทุกอย่างราบรื่น จนถึงวันนี้อยู่ในฐานะนักโทษที่ได้รับการ “พักโทษ” อีกไม่กี่วันก็จะพ้นโทษแล้ว

แต่คนที่เคยใหญ่และชอบใหญ่ ลีลาและท่วงทำนองจึงไม่ค่อยเป็นที่สบอารมณ์ของบรรดาคู่แค้นเก่าทางการเมืองเท่าใดนัก

เว้นแต่กองเชียร์ที่ชื่นชมที่เห็นดีเห็นงามไปด้วย

ล่าสุดถูกอัยการสั่งฟ้องคดี ม.112 ซึ่งเป็นเรื่องเก่าแต่คดียังติดตัวอยู่ กำลังอยู่สบายๆมาเจอเรื่องนี้

ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน

ต่างๆเหล่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทย อย่างที่บอกแต่ต้นว่าการเมืองไทยนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้

แค่ว่า “เศรษฐา”-“ทักษิณ” หากติดบ่วงจริงๆ

อะไรจะเกิดขึ้นก็มิรู้ได้!

เพราะเป็นเรื่องของศาลที่จะตัดสินความผิด

วันนี้คู่แข่งทางการเมืองคือ “ก้าวไกล-เพื่อไทย”

แต่อีก 3 ปีข้างหน้าจึงไม่รู้ได้ว่าจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่?

“ลิขิต จงสกุล”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม