“แล้วเขาเด่นตรงไหนล่ะ ที่เสนอชื่อเขามา เขาเก่งตรงไหนเขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ จำคำพูดผมเอาไว้นะ คำว่าเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่เศรษฐกิจหรือธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง เข้าใจหรือไม่เป็นของประเทศ...”

คำจำกัดความของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีต่อ “เศรษฐา ทวีสิน”

1. ในแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย คู่แข่งคนสำคัญ

ถ้าเป็นซีนในละครก็คงเป็นตัวอิจฉา ที่ชอบพูดกระแนะกระแหนตัวเอก เพราะกลัวว่าจะได้ดีกว่าตัว

แต่นี่เป็นละครการเมือง ก็เลยสวมบทตัวอิจฉาการเมือง ไปเนียนๆ

ก็แค่การบลัฟกันทางการเมือง

หลังจาก พรรคเพื่อไทย มีคำสั่งแต่งตั้ง นายเศรษฐา เป็น ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

ให้มีอำนาจหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

รวมไปถึงคณะทำงานของพรรคที่รับผิดชอบโครงการ “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม” และดำเนินการอื่นใดตามที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมอบหมาย

พล.อ.ประยุทธ์บลัฟใส่คู่แข่ง พร้อมไปกับการยกตัวเอง

ว่าทำงานเป็นระบบ ทำเป็นทีม โดยต้องมีคณะกรรมการ มีคนที่เก่งเศรษฐกิจ ด้านการเงิน ด้านการธนาคาร การพาณิชย์ การอุตสาหกรรม มาหารือร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนงาน

ผมก็ไม่รู้หรอกว่า นายเศรษฐาเด่นที่ตรงไหน เก่งอย่างไร

รู้ก็เหมือนเราๆ ท่านๆรู้กัน ว่าเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง

Volume ธุรกิจ อยู่ในระดับหลายหมื่นล้าน

ยังไม่ถึงกลุ่มธุรกิจระดับแสนล้าน หลายแสนล้าน ที่เป็นลมใต้ปีกให้ พล.อ.ประยุทธ์และพวก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

...

จนต้องตอบแทนบุญคุณกันไม่จบไม่สิ้น

การที่นักธุรกิจคนหนึ่ง จะออกหน้ากระโดดเข้าสู่สนามการเมือง ที่ต่อสู้กันเอาเป็นเอาตาย ถึงคุกถึงตะรางกันแบบทุกวันนี้

ทั้งเล่นกันซึ่งหน้า และล่อกันลับหลัง

คงไม่ใช่เรื่องง่าย เขาคงต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะรู้ดีว่าต้องโดนอำนาจรัฐเล่นงานแน่ๆ

ดีซะอีก ที่เปิดหน้าเล่นให้ประชาชนได้เห็นกันไปเลย เพื่อเป็นอีกทางเลือก

ไม่ใช่พวกที่ซุกอยู่ข้างหลัง เอ่ยชื่อไม่ได้ คอยอยู่เบื้องหลังเสนอเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามา

ที่สำคัญคือ คิดว่าคนอย่าง นายเศรษฐา คงไม่สามารถใช้กลวิธี ยุบพรรคคู่แข่ง, โกงแบ่งเขตเลือกตั้ง, โกงพิมพ์บัตร, โกงบัตรผี, โกงการนับคะแนน

หรือเปลี่ยนวิธีคำนวณ ส.ส., ยื้อการประกาศผลเลือกตั้ง,ใช้ตัวช่วยกำจัดคู่แข่ง, เร่งรัดคดีฝ่ายตรงข้าม

สุดท้ายแล้วไม่สามารถชนะเลือกตั้งได้ ก็ใช้ ส.ว.โหวตให้เป็นนายกฯอีกสมัย

นักธุรกิจมาเล่นการเมือง คงไม่ได้เลวร้ายเสมอไป

ไม่เหมือนพวกที่มาทางลัด ยึดอำนาจเขามา แล้วอยากจะสานต่ออำนาจไปไม่จบไม่สิ้น

อย่างที่ว่า คนทุกอาชีพ ย่อมต้องมีทั้งคนดี คนเลว

นักธุรกิจก็มีทั้งดี และไม่ดี เช่นเดียวกับทหาร ที่มีทั้งดีทั้งไม่ดี

ไม่เช่นนั้นจะมีทหารการเมือง–ทหารมาเฟียหรือ.

เพลิงสุริยะ