งานเข้ากันถ้วนหน้า ล่าสุดบทหนักตกอยู่กับ “ค่ายเซราะกราว” เครื่องจักรสีเทาจอมแฉตัวฉกาจ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินหน้าบดขยี้พรรคภูมิใจไทยเต็มแรง ทั้งกัญชา รถไฟฟ้า ขู่อาฆาตราวีไปถึงถิ่นบุรีรัมย์

ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ รู้ทางกันดี แต่งานนี้รับมือยากแน่

“เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้แต่ยืนกำหมัดกัดฟัน มั่นใจมีการเมืองอยู่เบื้องหลังแน่

แต่ถึงยังไงก็ไม่กล้าลงไปเล่นเกมบู๊ล้างผลาญด้วย เพราะได้ไม่คุ้มเสีย

ดูทรงจอมแฉแล้วจับทางลำบากมาสายไหนแน่ แต่เชื่อกันวงในชั่วโมงนี้หนีไม่พ้นเครือข่ายผู้นำ

พอถามย้ำเรื่องนี้กับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม คำตอบยิ่งหล่อขึ้นเรื่อยๆ

เป็นรัฐบาลร่วมกันมา 4 ปี ในส่วนของพรรคการเมืองเราไม่ก้าวล่วงใครทั้งสิ้น ต้องเป็นสุภาพบุรุษ

เช่นเดียวกับ “เสธ.หิ” หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ถูกพุ่งเป้าเพ่งเล็งอยู่เบื้องหลังนายชูวิทย์ เพราะสนิทสนมคุ้นเคยกัน ก็ออกมายืนยันเสียงแข็ง เรื่องเลวแบบนี้ทำไม่เป็น

...

ค่ายเซราะกราวคงทำได้เพียงเจ็บใจ เก็บงำความแค้นเอาไว้ในอก

ชั่วโมงนี้การเมืองชุลมุน เล่นสงครามตัวแทนกันอลเวง

โดยเฉพาะฝ่ายขวาอนุรักษนิยม กำลังบดบี้แย่งคะแนนกันเองอย่างบ้าคลั่ง เพราะดูทรงแล้วข้ามฟากไปฉกคะแนนฝ่ายเสรีนิยมลำบาก

เริ่มเห็นยุทธศาสตร์หาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติ รูปแบบการผลักให้ประชาชนต้องเลือกข้าง เลือกคน เริ่มกลับมา ไม่เลือกเราเขามาแน่

แม้ใครจะบอกว่าชั่วโมงนี้เลยภาวะขัดแย้งเลือกข้างมาแล้ว แต่พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น เพราะ “บิ๊กตู่” ยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของฝ่ายอนุรักษนิยมในภาวะขัดแย้ง

ไม่เลือกฝั่งตรงข้าม ก็ต้องเลือก “บิ๊กตู่” ไม่ยอมให้เปิดพื้นที่ตรงกลาง

ต่างจากพรรคอื่นๆอีกหลายพรรคที่รณรงค์ให้ประชาชนสองฝั่งขยับเข้าสู่ทางสายกลาง ปลุกเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจปากท้อง มาเป็นธงนำ

อยู่ที่ว่าชาวบ้านจะตอบโจทย์ไหน ใครจะวาดภาพได้สมจริงกว่ากัน

การเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ผ่านมาในมิติเศรษฐกิจมีให้เห็นแค่บางๆเน้นขายตัวตน “บิ๊กตู่”

ฉากหน้าโชว์ภาพผู้นำสุภาพบุรุษ แต่ฉากหลังหลายคนตั้งคำถามมากมาย

พรรคเพื่อนบ้านร่วมรัฐบาลด้วยกันรู้ซึ้งกว่าใคร ก่อนหน้านี้พรรคชาติไทยพัฒนาก็โดนไปแบบจุกๆ ปฏิบัติการขี่ม้าเลียบค่ายใหญ่ ไปแจกที่ดินทำกินให้คนสุพรรณบุรี พอได้จังหวะก็เข้าตีท้ายครัว ล้วงควักผู้สมัครเครือญาติพรรคชาติไทยพัฒนา มาลงแข่งแบบเนียนๆ

ไม่ต้องพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์โดนหนักกว่าใคร โดนยกเค้าไปทั้งบ้านใหญ่ บ้านเล็ก กลายเป็นพรรคสาขาใหม่ประชาธิปัตย์ควบรวมเครือข่าย กปปส. เลือกตั้งงวดนี้เอาล่อเอาเถิดกันทุกสนามแน่

พรรคพลังประชารัฐของ “พี่ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค ที่ตอนแรกประเมินว่าแยกกันเดินรวมกันตี ตอนนี้แยกกันเดินแล้วตีกันเองแบบโหดๆจนสาหัส

แม้แต่นโยบายยังแย่งกันเคลม เกทับบลัฟกระจาย พลังประชารัฐชูบัตรสวัสดิการ “ป้อม 700” คล้อยหลังไม่นานรวมไทยสร้างชาติประกาศ บัตรสวัสดิการพลัส “ลุงตู่ 1,000 บาท”

โอกาสมารวมกันหลังเลือกตั้งดูเลือนรางริบหรี่ ตัวแปรสำคัญหนึ่งเดียวคือเสียง ส.ส.เท่านั้น

ความสัมพันธ์พี่น้องจืดจางไปตามเส้นทางการเมือง

ล่าสุดปฏิบัติการตีแสกหน้าพรรคภูมิใจไทยของนายชูวิทย์ยากที่ใครจะมองเป็นอื่น

ค่ายสีน้ำเงินโดนเขย่ารุนแรง แล้วใครจะเข้ามาเก็บกวาดแต้มที่ร่วงหล่น

ไม่เลือกเราเขามาแน่ เลือกแบบมียุทธศาสตร์ต้องเทให้ “ลุงตู่” รวมไทยสร้างชาติ คือคำตอบ

ยุให้รำตำให้รั่ว บรรยากาศนัวเนียๆแบบนี้ “บิ๊กตู่” ดูดีมีภาษีกว่าใคร

ท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายพรรคการเมืองทอดสะพาน ส่งสัญญาณจับมือทุกป้อมค่าย

พรรครวมไทยสร้างชาติมีข้อจำกัด จุดด้อยเรื่องนี้

ดังนั้นต้องยืนหยัดขับเน้นจุดเด่น “บิ๊กตู่” คืออนุรักษนิยมที่ไม่แปรพักตร์.

ทีมข่าวการเมือง