“สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ปราศรัยบนเวทีครั้งสุดท้ายที่หัวลำโพง ขออาสาพลิก 4 วิกฤติ เปลี่ยนกรุงเทพฯ ร่วมกับ ส.ก.ประชาธิปัตย์ 50 เขต 50 คน
วันที่ 20 พ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 2565 ของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งจัดขึ้นที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ในเวลาประมาณ 18.40 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. เริ่มเวทีปราศรัย ว่า เคยรับราชการตำรวจอยู่ในกรุงเทพฯ ดูแลปัญหายาเสพติด พบว่าใน กทม. มีคนติดยาเสพติดกว่า 2,000 ชุมชน และอาชญากรรมทุกประเภทเกิดจากยาเสพติด 80%
“ถึงเวลาแล้ว เราจะต้องเปลี่ยนกรุงเทพฯ แล้วคนที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ก็คือ ดร.สุชัชวีร์ ในวันที่ 22 พ.ค. ผมต้องมาดีใจกับพี่น้องประชาชน และในวันที่ 23 ผมจะไปกับ ดร.เอ้ เพื่อกราบศาลากลาง แล้วจะไปกับพวกเราทุกคน”
จากนั้นต่อด้วยการปราศรัยของ น.ส.ฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ นายอิศเรศ เอี่ยมเจริญยิ่ง ถึงเหตุผลที่ต้องเลือก เอ้ สุชัชวีร์ ทั้งเป็นคนหน้าใหม่ที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดโอกาสให้ได้แสดงศักยภาพ มีภาวะผู้นำ มีความกล้าหาญ นอบน้อม กตัญญู และมีผลงานจากความมุ่งมั่นของตัวเอง มีวิสัยทัศน์ที่ทันสมัย ทำได้จริง และมีพลัง มีประสบการณ์ เป็นนักคิด และนักพัฒนา เชื่อว่าจะทำให้ 4 ปี ของกรุงเทพฯ เปลี่ยนไป ทางด้าน นายเมธี อรุณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ร่วมปราศรัยสนับสนุน นายสุชัชวีร์ ที่ทำเพื่อลูกหลานคนกรุงเทพมหานคร

...
กระทั่งเวลา 20.00 น. นายสุชัชวีร์ ขึ้นปราศรัยบนเวทีครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในวันอาทิตย์นี้ ว่า เส้นทางนี้หฤโหด หนักหนาสาหัสจริงๆ พร้อมกับขอขอบคุณทุกประสบการณ์ที่สอนให้ต้องมีความเข้มแข็ง อดทน มีสมาธิมากยิ่งขึ้น เพราะหน้าที่หลังจากนี้การเป็นผู้ว่าฯ กทม. ต้องใช้พลังกาย พลังใจ และสติปัญญา อีกทั้งเส้นทางนี้ยังทำให้มีโอกาสพบมิตรภาพใหม่ๆ ที่หาไม่ได้ ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาเดินไปมากกว่า 1 ล้านก้าว ได้พบรอยยิ้มของคนกรุงเทพฯ แม้จะเป็นรอยยิ้มที่มาพร้อมกับความยากลำบาก เมื่อเดินครบ 50 เขตหลายรอบ ก็ต้องบอกว่ารู้สึกภูมิใจมากที่ได้เป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจที่มีพี่น้อง ส.ก. 50 คน 50 เขต ร่วมเส้นทางเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้ไปด้วยกัน และจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด จะเป็นผู้ว่าฯ กทม. ที่มุ่งมั่นที่สุด
นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อไปว่า “วันนี้กรุงเทพฯ มี 4 เรื่องวิกฤติ 1. วิกฤติภัยธรรมชาติ น้ำท่วม หนักขึ้นกรุงเทพฯ จะจมๆๆ ถ้าไม่ได้มืออาชีพ ที่มีความรู้เรื่องดินน้ำมาแก้ปัญหามาบัญชาการจริงๆ 2. เรื่องของเทคโนโลยี ถ้าเราล้าหลังไปแล้วมันตามไม่ทัน เพราะวันนี้คนใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตครองโลก 3. การศึกษาคือการเปลี่ยนชีวิตคนทำให้ประเทศไทยสามารถยืนแข็งๆ แข่งกับประเทศอื่นได้ 4. ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ต้องมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ถ้าเกิดผมมาคนเดียว มันทำไม่ได้หรอกที่จะยกระดับเป็นกรุงเทพฯ ได้ทั้ง 4 ด้าน ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบเบ็ดเสร็จ ทำกรุงเทพฯ ทันสมัยใช้อินเทอร์เน็ตฟรี ในการดูแลลูกหลานท่านให้เข้าถึงการศึกษาที่ดีที่สุดใกล้บ้าน ในการดูแลพ่อแม่ท่านให้มีโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 69 แห่ง 80 แห่ง ต้องได้ ส.ก. จากพรรคประชาธิปัตย์ 50 เขต 50 คน มาร่วมทำงานด้วย”


นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ต้องทำหน้าที่ช่าง และต้องเป็นช่างที่ต้องรู้จริง ปะให้ถูกที่ สร้างใหม่ให้ถูกจุด เป็นหน้าที่ของคนที่ต้องเป็นแม่บ้านเป็นพ่อบ้านที่ดูแลเรื่องการศึกษาลูกให้มีคุณภาพ ดูแลคุณพ่อคุณแม่ให้เข้าถึงหมอที่ดี โรงพยาบาลใกล้บ้านได้ ดังนั้นด้วยเหตุผล 4 ข้อที่ทำไมวันที่ 22 พ.ค. ต้องให้การสนับสนุนตนเองเป็นผู้ว่าฯ กทม. พร้อม ส.ก. พรรคประชาธิปัตย์ 50 เขต 50 คน เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้
“ผมมาขอคะแนนทุกท่าน ในทุกอุดมการณ์ความเชื่อทางการเมือง ผมขอคะแนนท่าน ขอคะแนนครอบครัวท่าน และคนที่รู้จัก วันนี้ผมพร้อมแล้ว ทีม ส.ก. 50 เขต 50 คน ก็พร้อม เหลือแต่ท่าน ผมเดินมา 1 ล้านก้าวแล้ว เหลืออีกก้าวเดียวที่เป็นก้าวสุดท้าย”